หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

อินไซต์ทฤษฎีการสร้างความรู้ 2

ในการเรียนรู้ตามแนวการสร้างความรู้ สรุปเป็นหลักทั่วไปได้ 9 ประการดังนี้


1. การเรียนรู้ เป็นกระบวนการที่มีความกร์ตือรือร้นพร้อมที่จะเรียนรู้ อาศัยประสาทรับความรู้สึก เป็นส่วนนำเข้า และสร้างความหมายขึ้นมา

2. การเรียนรู้ต้องการความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว จากที่ Jean Piaget กล่าวว่า " ไม่มีโครงสร้างที่แยกต่างไปจากการสร้างขึนมา (constructivism)

3. การเรียนรู้สร้างระบบของความหมายขึ้นมา ทำได้โดยการเชื่อมโยงข่าวสารใหม่เข้ากับความรู้ที่มีอยู่เพื่อสร้างความรู้ใหม่

4. การเรียนรู่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมตอบสนองย้อนกลับตามที่ John Dewey กล่าวว่า "มีกิจกรรมทั้งแบบการเคลื่อนไหว และทักษะเชิงตรรกะ"

5. การเรียนรู้เกี่ยวข้องกับภาษา ตามที่ Lev Vygotsky ชี้ให้เห็นว่าภาษาและการเรียนรู้เกี่ยวพันธ์กันและกันอย่างไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ นั่นคือภาษาที่เราใช้มีอิทธิพลหรือมีผลต่อการเรียนรู้ของเรา

6. การเรียนรู้เป็นกิจกรรมทางสังคม การเรียนรู้เกี่ยวพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการเชื่อมโยงชีวิตมนุษย์อื่นๆ เช่นเพื่อนร่วมชั้น ครอบครัว ฯลฯ

7. การเรียนรู้คือบริบท (contextual) เราเรียนรู้ในความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน อะไรก็ตามที่เราทราบ อะไรที่เราเชื่อ อคติและความกลัวของเรา

8. การเรียนรู้คือกระบวนการ สำหรับการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น นักเรียนจะต้องมีเวลาท่จะซึมซับสารสนเทศใหม่นำมาไตร่ตรอง และทดลองนำไปใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง

9. การเรียนรู้ที่มีความต้องการในการกระตุ้นตัวเอง (self-motivation) การกระตุ้นเป็ฯองค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้

อ้างอิง Epstein,2002, Principle of Learning.

อินไซด์ทฤษฎีการสร้างความรู้

ทฤษฎีการสร้างความรู้ (constructivism) เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้และการเรียนรู้ อะไรที่รู้บ้างและการมเป็นผู้รู้ (come to know) ได้อย่างไร ตามทฤษฎีการเรียนรู้ของคนนั้นเป็นการสร้างขึ้น นั่นคือผู้เรียนสร้างความคิดใหม่ หรือมโนทัศน์ใหม่ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความรู้ที่มีอยู่เดิม อันได้แก่ประสบการณ์และความรู้ที่มีอยู่แล้ว มีอิทธิพลต่อการสร้างความรู้ หรือการปรับเปลี่ยนความรู้ (Fosnot,1966)

ตามแนวการสร้างความรู้ได้เสนอแนะเราไว้ว่า มนุษย์มีรูปแบบการคิดทางกายภาพประจำตัว ซึ่งนำมาใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการเรียนรู้และการพัฒนาการ

แนวคิดการสร้างความรู้ปฏิเสธแนวคิดที่จัดการเรียนการสอนเหมือนกับการสร้างเบ้าประทับ ที่สแตมป์(stamp)จากครูไปยังนักเรียน ที่ซึ่งความรู้ส่งผ่านหรือถ่ายทอดไปให้เหมือนต้นฉบับ ทัศนะการเรียนรู้ตามแนวการสร้างความรู้มองผูเรียนเป็นผู้เรียนรู้ที่อยากเรียนรู้ มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ โดยการเชื่อมโยง ปะติดปะต่อ การเรียนรู้ปัจจุบันกับการเรียนรู้ที่มีการสร้างขึ้นมาก่อน ในกระบวนการมีการเปรียบเทียบหาความสอดคล้อง ความไม่ลงรอย และมีการขยายขอบเขตความรู้ออกไป จากการเปรียบเทียบเป็นการตรวจสอบตีความของแต่ละบุคคลจากประสบการณ์ ที่ค้านหรือเห็นแย้งกับการเป็นผู้รับหรือถูกป้อนให้

เบา หวาน หาย เหม็ด คือสมุนไพรแก้โรคเบาหวาน

สูตรรักษาโรคเบาหวานด้วยพืชสมุนไพรพื้นบ้านแบบบอกต่อ โดยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโรคนี้หายแน่นอน ดังนี้


เบา คือพืชสมุนแรกคือกะถินหรือต้นสะตอเบา

หวาน คือผักหวานเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิด

หาย คือต้นหิ้งหาย(ตามเสียงภาษาใต้) มีดอกสีเหลืองเป็นพวงยาวสวยงาม มีฟักเล็กๆ คล้ายถั่ว

เหม็ด คือต้นเสม็ดใช้กิ่งหรือส่วนลำต้น

โดยการนำพืชแต่ละชนิด 5 อย่าง คือใบ ราก ดอก ลูกหรือผล และกิ่ง มาตากแห้งแล้วนำไปต้มกินน้ำดื่ม แล้วอาการของโรคก็จะเป็นไปตามชื่อคือ เบา หวาน หาย เหม็ด(หมด

ปัจจัยความมั่นคงด้านอาหาร

จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้ข้อสรุปจากที่ประชุมอย่างหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งคิดได้ว่าความมั่นคงด้านอาหารจะนำไปสู่ความมั่นคงด้านอื่นๆ ซึ่งโดยความมั่นคงด้านอาหารเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามเราทราบว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีส่วนทำให้ความมั่นคงทางอาหารต้องลดน้อยถอยลงไป เช่นว่ามีโรคที่มีอาหารเป็นสื่อเป็นต้น หรือไม่ก็ความอุดมสมบูรณ์ความหลากหลายของอาหารลดน้อยลงไป

มีเงื่อนไขสถานะการหลายอย่างที่มีผลต่อความมั่นคงทางอาหาร เช่นพื้นที่ทางด้านการเกษตรที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปลูกพืชอาหารลดน้อยลงไปขณะเดียวกันพืชให้พลังงานกลับปลูกเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างย่ิงประเทศที่ไม่มีทรัพยากรน้ำมันในธรรมชาติ ที่เห็นได้ชัดถึงผลกระทบด้านนี้ ก็คือปริมาณพืชสัตว์ที่เป็นอาหารที่วางจำหน่ายในตลาดที่เคยมีความหลากหลายก็กลับลดชนิดและปริมาณลง เป็นการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่มีผลต่อความหลากหลายของอาหาร การเข้าถึงอาหารของชุมชน มีการพึ่งพาตัวเอง พึ่งพาตามธรรมชาติน้อยลงโดยเฉพาะชุมชนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบและฝากชีวิตกับร้านอาหารสะดวกซื้อและฟาสฟูดแบบต่างๆ ทำให้อาหารยากต่อการควบคุม อาจมีภัยคุกคามที่ทำให้การควบคุมด้านอาหารทำได้ยาก

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็มีผลกระทบต่อผลผลิต การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นผลปฏิกิริ ย าลูกโซ่ของภาวะโลกร้อน มีส่วนที่ทำให้พืชสัตว์ประจำถิ่นไม่สามารถเติบโตได้ตามปกติ เมื่อเทียบกับสัตว์พืชที่อุบัติเข้ามาใหม่ที่อาจไม่คุ้นเคยแต่เจริญเติบโตได้ดีกว่า ในทางที่ใกล้เคียงกันสำหรับการเปิดเสรีทางการค้าที่ผลไม้และผลิตผลราคาถูกทางเกษตรทะลักเข้ามา ทำให้มีผลกระทบต่อพืชผลพื้นเมืองที่ทำให้ราคาตกต่ำ เจ้าของสวน พืนที่ทางเกษตรจะไม่เอาใจปล่อยให้ทรุดโทรม และไม่ปลูกพืชเพิ่มขึ้น บ้างก็เปลี่ยนไปปลูกพืชพลังงานทดแทนซึ่งก็ยิ่งทำให้ความมั่นคงทางด้านอาหารลดลง

การที่เราทราบปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร ก็ทำให้เราสามารถหาแนวทางที่จะป้องกันหรือรักษาเยียวยาให้ความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาได้บ้างแต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตราบเท่าที่มนุษย์ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในเรื่องสำคัญเช่นภาวะโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์เอง

วิกฤติเป็นโอกาสและความหวัง

ในภาวะการทำงานในปัจจุบันเราคงจะประสบพบเจอปัญหามากมาย ที่อาจมีคำถามอยู่ในใจหรือบางคนก็อาจจะถามออกมาดังๆ บางคนก็ชี้ประเด็นปัญหาอย่างไม่มีข้อเสนอแนะก็เหมือนกับการบ่นกันไปมา อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเชื่อว่า ทุกๆปัญหาที่มีก็ยังมีโอกาสให้เราหวังอยู่เสมอ เราสามารถสร้างสิ่งแตกต่างได้อย่างชัดจริง ด้วยความตั้งใจในคำมั่นสัญญาเล็กๆ ว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้น ไม่จำเป็นว่าต้องไปทำไปเปลียนอะไรให้ดีหมดดูจะยิ่งใหญ่เกินไป ทำในสิ่งที่รัก ที่ชอบได้อีกหลายอย่างที่จะทำให้ที่ที่เราอยู่ ที่ที่เราทำงาน ดีขึ้นได้ทุกวัน เริ่มที่ตัวคุณเอง


มีคำตอบของปัญหามากมายที่ไม่หนักหัว ไม่ต้องใช้ความคิดมากมายนัก เริ่มจากที่ง่ายให้สำเร็จแล้วจะค่อยขยายไปสู่เรื่องอื่นที่ซับซ้อนขึ้นได้เองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ไม่ต้องถึงกับต้องเปลี่ยนรูปแบบชีวิต เพราะเราสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จากสิ่งที่เห็นว่าเล็กน้อยได้ถ้าหากเรารวมพลังความคิดไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน แยกส่วนที่รู้ว่าเราเป็นส่วนใดในภาพรวมทั้งหมดและส่งผลใดต่อภาพรวม

ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจอยู่ที่ผลงานที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น มีความเจริญงอกงามทั้งเชิงวัตถุและเชิงนามธรรม วิธีการที่จะให้ประสบผลสำเร็จจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้พลั้งความคิด ความรู้ทักษะ ปัญญา อันเป็นความรู้ที่จะต้องได้รับการจัดการ ให้สอดรับกับปัญญา คน และเวลา จึงจะเป็นโอกาสที่มีความหวัง

มโนทัศน์การเปลี่ยนมโนทัศน์

ครูมีทัศนะต่อนักเรียนในการสร้างแนวคิดที่มีต่อโลกของพวกเขา มากกว่าจะเป็นการรับรู้มาเพียงอย่างเดียว นักเรียนเลือกที่จะเข้าสู่การเรียนรู้และตีความสิ่งที่พวกเขาอ่าน ได้ยิน และสังเกต ดังนั้นความรู้ที่นักเรียนสร้างขึ้นเป็นบางส่วนเท่านั้นที่มาจากสารสนเทศใหม่ที่ครูนำเสนอ ส่วนมากความเข้าใจของนักเรียนมาจากแนวคิดและรูปแบบการคิดที่พวกเขามีอยู่แล้ว มากต่อมากประกอบด้วยฐานมโนทัศน์แบบซื่อไร้เดียงสาจากประสบการณ์ของแต่ละบุคคลด้วยปรากฏการณ์และภาษาในชีวิตประจำวัน


บทบาทของครูที่เด่นชัดด้วยทัศนะนี้คือสะท้อนแนวคิดนักเรียนที่มีในปัจจุบัน และแนวทางการคิดและวางแผนคำสอนให้สอดรับกันเพื่อนำทางนักเรียนในการสร้างความรู้อย่างเพียงพอมากขึ้น ตัวอย่างเช่นนักเรียนที่มีมโนทัศน์ที่ซีื่อไร้เดียงสา ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุหนึ่งๆ ที่คิดได้ว่าต้องมีแรงมากระทำ การวางแผนและใช้กิจกรรมเพื่อท้าทายทัศนะนี้ ดังนั้นครูจึงใช้หลักฐานและการโต้แย้งในบริบทของการประยุกต์ ดังนั้นนักเรียนก็จะค่อยมีความเชื่อมั่นด้วยพลังเชื่อมั่นที่สูงกว่า และด้วยการรับผลพวงของแนวคิดใหม่

ส่วนหลักของครูใช้การเปลี่ยนแปลงมโนทัศน์มุ่งเน้นความสนใจในสถานะปัจจุบันของแนวคิดของนักเรียน และความาสัมพันธ์กับเรื่อง มาตรฐาน ครูที่ใช้การเปลี่ยนมโนทัศน์โดยทั่วตัดสินเนื้อหาที่จะใช้สอน ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงในการช่วยเหลือนักเรียนพัฒนาความคิดเฉพาะทางขึ้นมา ความเป็นเหตุผลก่อตัวขึ้นจากการพิจารณาทั้งโครงสร้างของเนื้อหาวิชา และแนวคิดปัจจุบันของนักเรียน รวมทั้งความเหมือนและต่างกันระหว่างเนื้อหาวิชาและแนวคิดของนักเรียน

มโนทัศน์การเปลี่ยนมโนทัศน์ ที่นักการศึกษามองลึกลงไปในเทอมขององศาที่นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมและประยุกต์ความคิดพื้นฐานในแนวการคิดของพวกเขาเองเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกในชีวิตประจำวัน (Anderson, 1989)

ห้านาทีพิทักษ์โลก

เราต่างก็มีภาระยุ่งกันอยู่เสมอ แต่เราก็ต้องเผชิญกับมัน เราคงไม่มีเวลามากพอที่จะไปฟาดฟันกับผูยังคงมีอำนาจและผู้ทรงอิทธิพล ที่ได้เคยทำร้ายทำลายอนาคตที่จะเป็นของลูกหลาน หรือคงไม่มีกำลังพอที่จะไปหยุดยั้งกลุ่มผู้ทำร้ายทำลายโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็เป็นกลุ่มที่ทำร้ายทำลายอนาคตของลุกหลานเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่าง ที่สามารถทำให้อนาคตดีกว่านี้ อนาคตยังมาไม่ถึง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่สดใสกว่าวันนี้ หรือทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ


มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก หรือไม่ต้องคิดมากให้หนักหัว เราทุกคนยังสามารถทำในสิ่งที่แตกต่างเพื่อให้โลกใบนี้คงอยู่ต่อไปได้อีกนานโดยไม่ทำให้มาตรฐานต้องเสียไป แนวทางที่เรากิน เราใช้ อยูอาศัย เคลื่อนไหว เดินทาง เราใช้น้ำ ใช้กระดาษ ทำความสะอาดร่างกาย บ้าน อาคารสถานที่ โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ทั้งหมดเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่เป็นอย่างไร เราจะช่วยกันอย่างไรเพราะขณะนี้เราเป็นหนี้เด็กๆรุ่นหลังที่ทำให้โลกสีเขียวลดน้อยถอยลง จนเกิดภาวะโลกร้อนก็ว่าได้ ต้องยอมรับว่าเป็นผลพวงของคนก่อนหน้านี้แน่นอน ไม่ได้ทำให้โลกสะอาดมีอนามัยที่ดีเท่าที่ทำได้ เท่าๆ กับที่เรามีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกสะบายทีเรามี ความรู้และปัญญาที่เรามี ยังมีโอกาสที่จะนำกระบวนการทั้งหลายไปสู่อนาคตที่สดใสกว่า แค่ขอเวลาแต่ละคนวันละ 5 นาที่คิดทำอะไรก็ตามที่ทำได้ช่วยให้สุขภาพโลกดีขึ้น เราคงต้องเปลี่ยนทิศทางที่เราเคยมุ่งหน้าไปอย่างไม่ได้คิดถึงชีวิตที่จะอยู่ข้างหน้าเสียใหม่

คลายเคลียดชวนขัน

ชาย 3 คนกำลังนั่งอยู่รอบโต๊ะตัวหนึ่งที่ปัตตาคารแห่งหนึ่ง อภิปรายกันถึงเรื่องการก้าวไปข้างหน้าของมนุษยชาติที่สร้างความก้าวหน้าในศตวรรษที่ 20


ชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ถ้าคุณถามผมว่า การประดิษฐ์อะไรที่เก่งฉลาดที่สุดในยุคสมัยเราต้องเป็นคอมพิวเตอร์แน่นอน โดยมองไปที่ความสามารถที่มันทำได้ เช่นการคำนวณ การพิมพ์เอกาสารด้วยเวิร์ดโปรเซสเซอร์ได้อย่างประหลาดแค่เพียงกดปุ่ม"

ชายคนที่สองพูดขึ้นบ้างว่า "การประดิษฐ์คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่ซับซ้อนเท่าจรวจนำวิถี โดยมันสามารถที่จะติดตามเป้าหมายได้ไม่ว่าไปที่ไหน"

ชายคนที่สามส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า "คุณทั้งสองยังไม่เข้าเค้านัก สิ่งประดิษฐ์ที่เก่งฉลาดมากที่สุดของศตวรรษที่ 20 น่าจะเป็นกระติกเทอร์มอส(thermos) "

"พนันได้เลยว่า มันสามารถเก็บสิ่งที่ร้อนให้ร้อนอยู่ได้ และ เก็บสิ่งที่เย็นให้เย็นอยู่ได้ ไหนบอกฉันมาซิว่า ..มันรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนร้อนอันไหนเย็น"

การเป็นชาวพุทธ และพระพุทธเจ้า

เมื่อถามว่าศาสนาพุทธ (Buddhism) คืออะไร คำตอบคือโดยหลักใหญ่เป็นเนื้อหาสาระของคำสอน ที่พระพุทธองค์โดยตัวบุคคลแล้วรู้จักกันในนามว่า Buddha ซึ่งเป็นคำที่โลกตะวนตกใช้เรียกพระพุทธเจ้า คำสอนที่ประทานมาให้แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าสำหรับแก้ทุกข์ และหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ไม่ใช่มีแต่ Buddishm คำเดียวที่หมายถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เรียกอีกอย่างว่าธรรมะ (Buddha Dharma) ของพระพุทธองค์


เราจะเรียกแต่ละบุคคลว่าชาวพุทธ (Buddhist) เพราะเพียงแต่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นชาวพุทธอย่างเดียวคงไม่ได้ ที่จริงแล้วชาวพุทธเป็นคนที่ไม่เพียงแต่มีความเชื่อในพระพุทธเจ้าอันเป็นเหมือนบรมครูที่ทรงคุณค่ามากที่สุด ที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ที่ได้ให้หลักธรรมคำสอนในทางปฏิบัติเพื่อความสงบสุข ระหว่างความเป็นพี่น้องร่วมโลกแล้ว ที่รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ในชีวิตประจำวนอีกด้วย สำหรับชายที่นับเป็นชาวพุทธในทางศาสนากพุทธเรียกว่าอุบาสก และและที่เป็นผู้หญิงว่าอุบาสิกา

พระพุทธเจ้าไม่ใช่เพระเจ้า (god) จากหลักพระธรรมคำสอนไม่ได้สอนในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่จะดลบันดานอะไรได้ ก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องบำเพ็ญเพียรเหมือนกับคนทั่วไป จนบรรลุธรรมตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าภายหลัง คำว่าพระพุทธเจ้าจึงเป็นสถานะเงื่อนไขทางจิต เป็นจิตหลังจากที่ได้เข้าถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาแล้ว ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีปัญญาสมบูรณ์ที่เรียกว่า สัพพัญญู ดังนั้นจึงมีชื่อของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าคือเจ้าชายสิทธัตถะ ชื่อตระกูลโกตามะ (Gotama)

น้ำตกที่สูงที่สุด

ที่ยอมรับกันเป็นทางการแล้วคือน้ำตก Angel ตั้งชื่อตามนักสำรวจ Jimmy angel ในบริเวณของแควสาขา Carrao ในเวเนซูเอลา (Venezuela) นับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงรวม 3,212 ฟุต หรือ 979 เมตร โดยมีจุดตกลงมายาวต่อเนื่องไม่ขาดตอน 2648 เมตร หรือ 807 เมตร การที่จะหาว่าความสูงของน้ำตกที่แท้จริงยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะตัดสิน ลงไป เพราะว่าน้ำตกหลายที่ประกอบเป็นส่วนๆ ลดลั่นกันไป มากกว่าที่จะเป็นจุดตกของน้ำยาวลงในคราวเดียว เช่นน้ำตกที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา คือน้ำตกโยเซไมท์ (Yosemite) อยู่ในแถบสาขาของลุ่มน้ำ Merced ในอทยานแห่งชาติ โยเซไมท์ รัฐแคละฟอเนีย โดยมีจุดที่น้ำตกยาวที่สุด 2425 ฟุต หรือ 739 เมตร ในชุดของน้ำตกนี้มีสามส่วน ส่วนบนของน้ำตกนี้ 1430 ฟุตหรือ 435 เมตร ส่วนตอนกลางสูง 675 ฟุตหรือ 205 เมตร และส่วนล่างของน้ำตกโยเซไมท์สูง 320 ฟุตหรือ 97 เมตร ถ้ารวมทั้งหมดก็จะสูงกว่าน้ำตก angel

เปรีบบเทียบส่วนที่ลึกที่สุดของโลก

เราเคยทราบมาว่าทะเลมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลกอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะฟิลิปบิน และความลึกนั้นเป็นความลึกที่มีมากกว่าความสูงที่สุดของภูเขาบนโลก คือยอดเขาเอเวอร์เรสที่มีความสูงมากกว่าหมื่นกว่าฟุตเท่านั้น สำหรับความลึกของทะเลสาปที่ลึกที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้นั้น ไม่ได้ลึกมากเหมือนในมหาสมุทร ยังไม่สามารถเอาชนะความสูงของภูเขา ทะเลสาปที่ลึกที่สุดในโลกคือ ทะเลสาป Baikal อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไซบีเรีย มีความลึก 5314 ฟุต หรือ 1620 เมตราที่ความลึกสูงสุดของทะเลสาป เมื่อเปรียบเทียบกับความสูงของยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งมีความสูง 2500 เมตร แสดงว่าความลึกของทะเลสาปนั้นเทียบกันไม่ได้กับความลึกของทะเลมหาสมุทร อันชี้ให้เห็นว่าที่มาของการเกิดทะเลสาปกับมหาสมุทรนั้นแตกต่างกัน ทะเลสาปอยู่ในสัดส่วนที่เล็กกว่า ย่อมจะมีความลึกน้อยกว่า สำหรับความลึกของหุบเหวต่างๆ นั้นไม่ได้ลึกมากที่จะไปเทียบกันได้ กับความลึกของทะเลสาปและมหาสมุทรดังกล่าว

สมองไอน์สไตย์


ไอน์สไตน์ (Einstein) หลังจากเสียชีวิตได้นำมาหุ้มปิดทับด้วยซีเมนต์ ในวันที่ 8 เมษายนต์ ปี 1955 หมอที่ทำการวิเคราะห์หาสาเหตุการตายจากศพ (autopsy) ได้นำสมองของไอน์สไตน์ออกมา และมีส่วนหนึ่งของสมองอยู่ในขวด ที่แหน่งในเวสตันมิสซูรี (Weston,Missouri) อันเบิร์ตไอน์สไตน์ (1879-1955) เป็นบุคคลหลักที่เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งวิชาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ทฤษฎีสัมพันธภาพ ที่กำหนดให้แสงมีอัตราเร็วคงที่ และไม่สัมพันธ์กับผู้สังเกตหรือแหล่งกำเนิดแสง และความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน ตามสมการ E=MC^2 โดยรากฐานได้เปลี่ยนแปลงความเข้าใจของโลกทางกายภาพของมนุษย์ จากภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับจุดยืนทางมนุษยธรรมที่แข็งเกร่งในเรื่องการเมืองสังคมที่สำคัญ ทำให้เขามีเชื่อเสียงที่โดดเด่นออกมา

ผลของความเชื่อในเรื่องกรรม

ในเรื่องของกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ นั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นความดีความชั่ว บางครั้งเราพูดกันสั้นๆ ว่าทำอะไรได้อย่างนั้น เมื่อตีความก็หมายถึงว่า ถ้าทำความดีย่อมได้ดี ถ้าทำขั่วก็ย่อมได้ชั่ว แต่ที่คนไม่ค่อยเชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรมเพราะในทางปฏิบัตินั้นเรายังพบ ว่า คนที่ทำชั่วได้ดีมีถมไปนั่นเอง ก็เลยทำให้คนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำดีได้ดีจริง ความไม่มั่นใจก่อให้เกิดความลังเล จึงขาดความมั่นใจในการทำความดีอย่างจริงใจ ซึ่งมีส่วนขัดขวางความก้าวหน้าทั้งทางธรรมและทางโลก


สำหรับคนที่เชื่อในเรื่องกรรมนั้น อันดับแรกก็ต้องเชื่อและศรัธาในพระสัมมาสัมพูทธเจ้าว่าพระองค์ได้ตรัสรู้ รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว แล้วเราก็ต้องศรัธาเชื่อว่ากรรมมีจริง เชื่อว่ากรรมที่บุคคลทำไม่ว่าดีหรือเลวย่อมให้ผลกลับมาเสมอ และเชื่อว่าสัตว์โลกทั้งหลายต่างมีกรรมเป็นของตัวเอง ผลที่ได้รับก็เป็นการกระทำของเราเอง อาจเป็นกรรมในชาติป้ัจจุบันหรือในอดีตชาติ

กรรมทั้งหลายให้ผลไม่เหมือนกัน ให้ผลเห็นได้ในชาติปัจจุบันและหรือให้ผลระยะยาวต่อไป ทุกคนมีโอกาสรับกรรมไม่เหมือนกัน เพราะทำกรรมมาไม่เหมือนกัน ความดีความชั่วที่ทำไว้ก่อนแล้วอาจยังมาไม่ถึง กรรมไหนหนักกว่าก็อาจมาให้เห็นก่อน คนที่มีความเชื่อและศรัธาในกรรม จะเป็นผู้ที่สามารถอดทน ยอมรับความทุกข์ยาก ความผิดหวัง เคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นกับตนได้ ไม่ตีโพยตีพายว่าโลกไม่มีความยุติธรรมต่อตน เพราะกรรมบางอย่างให้ผลในชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ไม่มีใครกำหนดได้แต่ต้องได้รับผลกรรมแน่นอน ซึ่งไม่เป็นไปในลักษณะที่เป็น action immediatly ตามกฏข้อ 3 ของนิวตันที่เมื่อไรมีแรงกระทำย่อมมีแรงที่ตรงกันข้ามตอบโต้ในทันที

เรื่องของปลวกที่ไม่ธรรมดา

ตั้งแต่พบครั้งแรกว่าปลวกมีชีวิตอยู่ในโลกก็ 200 กว่าล้านปีมาแล้ว ที่สามารถยืนยงมาได้ ปราบฆ่ายังไงก็ไม่หมด ต้องเสียงบประมาณในการปราบทำลายในแต่ละปีมหาศาล วงจรชีวิตของปลวกจึงไม่ธรรมดา


ปลวกมีน้ำย่อยเซลลูโลส เป็นเอมไซน์เซลลูลีส ที่สามารถย่อยสลายพวกมีเส้นใยทั้งหลายได้ ผิดกับคนที่ย่อยไม่ได้พวกกากใยจึงถูกขับถ่ายออกมา แต่กลับเป็นผลดีกับคนที่พวกกากใยทั้งหลายได้ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายคนได้ สำหรับปลวกสามารถกินพวกที่เป็นเซลลูโลสที่เป็นไม้ได้ทั้งหมด ปลวกบางชนิดกัดกินกระทั่งสารพวกปล๊าสติกที่หุ้มสายไฟ

การตรวจจับปลวกที่อยู่ในกำแพง สามารถใช้เครื่องตรวจจับอินฟาเรด ตรวจว่ามีปลวกอยู่ในผนังหรือไม่ จากความร้อนของตัวปลวก และปลวกสามารถที่จะรวมตัวกันแล้วทำให้เกิดความร้อนที่สามารถที่ฆ่าเชื้อโรคบางอย่างใด้ ในกรณีที่ปลวกตายจะถูกเคลื่อนออกไป และปลวกยังมีภูมิคุ้มกันจากเชื้อโรคต่างๆ ได้เหมือนกับฉีดวัคซีนแล้วตั้งแต่เกิด ความพยายามที่จะฆ่าปลวกอย่างหนึ่งคือการทำลายภูมิคุ้มกันปลวก ทำให้ปลวกเป็นหมัน ทำให้มีปลวกงานน้อยลงที่ทำให้ทำงานหนักมากจนไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงปลวกที่เหลือได้

ปลวกงานมีหน้าที่ในการสร้างรังปลวกที่เรียกว่าจอมปลวกบางที่สามารถสร้างได้สูงถึง7 เมตร มีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง โดยขนดินจากข้างล้างใต้พื้นดิน ปลวกสามารถสร้างที่อยู่ที่มีลักษณะลาดเอียงที่น้ำไม่ขัง ออกแบบให้มีช่องระบายอากาศ สามารถเป็นที่หลบภัยจากสัตว์อื่น เช่นกิ้งก่า ตัวต่อ มด เช่นถ้ามดเข้ามาจะถูกรุมกัดจากปลวกจนตายได้ แม้ว่าปลวกงานจะไม่สามารถที่จะมองเห็นก็ตาม

โดยทั่งไปปลวกปกครองกันแบบสมบูรณ์ญาสิทธิราช ราชินีปลวกมีอำนาจมากที่สุด และผลิตตัวอ่อนเพิ่มจำนวนปลวกมาก ขณะที่ปราศจากสตรูมาแผ่วพาน โดยมีปลวกทหาร ปลวกงาน คอยทำงาน ส่วนปลวกราชาทำหน้าที่ผสมพันธ์อย่างเดียว

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระบบทุนนิยมเสรี

ในโลกเสรีประชาธิปไตยทุนนิยม และการค้าเสรี นั้นต้องการเม็ดเงินจากนักลงทุน มาดำเนินกิจการเพื่อผลิตสินค้า และบริการให้กับลูกค้า ในกระบวนการผลิตนั้นทำให้มีการใช้วัตถุดิบ ที่จะก่อให้เกิดการสร้างรายได้ และมีการจ้างงาน และถ้าผลประกอบการมีผลกำไร ประเทศต่างๆ จึงสนับสนุนให้นักลงทุนมาลงทุนในประเทศให้มากเท่ามากได้ ดังเราจะเห็นว่าในประเทศของเรามีการลงทุนในอุตสาหกรรมบางชนิดเยอะมากจนเป็นฐานการผลิตส่งไปขายทั่วโลก เช่นรถยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้า .........


จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากปัญหาซับไพร์มในอเมริกาได้ก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกระทบถึงประเทศไทย ประกอบกับปัญหาทางการเมืองที่วุ่นวายในประเทศทำให้นักลงทุนไม่มาลงทุนเพิ่ม และการส่งออกสินค้าได้น้อยลง จำเป็นต้องลดการผลิต การจ้างงานก็น้อยลงทำให้คนว่างงาน คนไม่จับจ่ายใช้สอยทำมีเงินหมุนเวียนน้อยลง นั่นก็คือรายได้ของประเทศก็ย่อมน้อยลงด้วย .........

ทั้งรัฐบาลโอบาร์มาร์คของไทยและรัฐบาลโอบาร์มา ก็ใช้วิธีการในการแก้ปัญหาที่คล้ายคลึงกัน โดยการอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยและการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่ละรัฐบาลต่างก็กู้เงินภายในประเทศและนอกประเทศ มาใช้เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้น การอัดฉีดเม็ดเงิน การพิมพ์แบ็งเข้ามาหมุนเวียนในระบบ ซึ่งกล่าวกันว่าต้องใช้เงินมหาศาลที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว จากกระแสข่าวว่ามีปริมาณมหาศาลมากกว่ารัฐบาลบุชรวมกันถึงสามปีงบประมาณทีเดียว สำหรับประเทศไทยก็ดำเนินนโยบายคล้ายกันที่กู้เงินจากภายในและภายนอกมาพัฒนาด้านต่างๆ .........

การกระตุ้นให้เกิดการบริโภคบางครั้งก็ส่งผลที่ไม่ดี ทำให้ไม่ประหยัดฟุ่มเฟือย ทำให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดมลภาวะสูงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำลงได้อีก การฟื้นตัวก็จะยากยิ่งขึ้น ยกเว้นเสียว่า การใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลย์ และไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจจะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีกฏหมายที่เข้มแข็ง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาการควบคุมให้เป็นไปตามกฏหมายยังทำได้ยากมักจะได้ผลกระทบภายหลัง ที่กล่าวมานั่นอาจจะเป็นผลเสียที่เกิดจากการใช้ระบบเศรษฐกิจเสรีทุนนิยม ซึ่งพอสรุปได้ว่าเป็นการพัฒนาที่กลับมาทำลายตัวเอง อย่างน้อยที่สุดการเกิดภาวะโลกร้อน ทุกประเทศได้รับผลกระทบ ไม่ว่าประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนาก็ไม่มีข้อยกเว้น

การแก้แค้นที่ไม่ธรรมดา

ได้มีโอกาสดูภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ดูแล้วก็ขัดกับความรู้สึกของชาวพุทธที่มีข้อเตือนใจ จาก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่เมื่อดูภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว การแก้แค้นกลับให้สาสมและสะใจ ก็นำมาสู่ความหดหู่ ว่าคนช่างคิดไปได้ไกลถึงเพียงนี้

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ครอบครัวหนึ่งพ่อแม่ลูก แม่ละลูกถูกฆ่าตาย แม้จะจับผู้ร้ายได้แล้วตัดสินลงโทษประหารแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ร้ายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยยาพิษนั้น ก็แอบเปลี่ยนยาพิษใหม่ให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมาน วางแผนแก้แค้น 10 ปี ใครเกี่ยวข้องก็แก้แค้นหมด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบรรลุผลที่จะทำความพิบัติเกินกว่าที่จะรับได้ ตามความอาฆาตพยาบาท แต่ก็ทำเอาผู้เกี่ยวข้อง เสียวสันหลังกันไปหมด แต่ก็เป็นอุทาหอนให้กระบวนการยุติธรรมต้องมาทบทวนกันใหม่ ว่าผู้ทำผิดย่อมได้รับโทษไม่ผิดตัว ผิดคน ตามที่ควรจะเป็น

การแก้บนที่ไม่ธรรมดา

เรื่องมีอยู่ว่า มีคนซื้อหวยไว้ 20 บาทแล้วเกิดถูกรางวัลขึ้นมา แต่ไม่ยอมไปขึ้นรางวัลที่ถูกนั้น เพื่อนๆ ก็ถามกันว่าทำไมไม่ไปรับเงินรางวัล ก็ได้รับคำตอบว่า ได้ไปบนบานไว้ว่าจะต้องปล่อยปลาสองตัว เพื่อนๆ ก็บอกว่าไม่ยาก ก็แค่ไปซื้อปลาเป็นๆ 2 ตัวไปปล่อยก็สิ้นเรือง คนที่ถูกหวยก็ตอบสนองว่า มั่นไม่ง่ายแบบนั้นนะซี เพราะที่บนไว้นั้นจะปล่อยปลาวาฬ 2 ตัว คิดไปคิดมาก็ไม่คุ้ม ....เออซื่อสัตย์กับตัวเองดี ขอให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป

การป้องปรามอาชญากรรมระหว่างประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้เราได้ข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการฉ้อฉลทุจริต และแม้แต่อาชญกรรมในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเราเคยได้ยินเรื่องการให้สินบนเกี่ยวกับซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยงานต่างๆ เท่่าที่ทราบเช่นประเทศญี่ปุ่น และอะเมริกาตัดสินลงโทษคนของตัวเองที่มาให้สินบนในประเทศไทย ขณะที่ประเทศไทยกระบวนการยุติธรรมยังล่าช้าไม่สามารถตัดสินลงโทษใครได้เลย หรือไม่ก็ล่าช้ามาก


และขณะนี้ทราบข่าวว่า ไม่เฉพาะเรื่องการติดสินบน แต่ยังรวมไปถึงการกระทำผิดอื่นๆที่นำไปสู่การก่ออาชญกรรม จากแหล่งข่าวพอจะทราบได้ว่ามีบางประเทศ มีหน่วยปราบปรามพิเศษได้มาร่วมมือกับตำรวจไทยในการ ปราบปรามคนของประเทศตัวเองที่มากกระทำผิด เช่นมาตั้งแก๋๊งหลอกลวง ตั้งซ่องโสเภณี โจรกรรมก็มี ถ้าทำการจับกุมได้เมื่อไรก็จะถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ประเทศของตัวเอง ซึ่งก็มีบ้างแล้วที่จับได้แล้วส่งกลับประเทศ ถ้ามองว่าได้ประโยชน์อะไรที่ทำเช่นนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำร้ายประเทศตัวเองกลับไปทำร้ายเสียหายแก่ประเทศอื่น ก็คงจะตอบได้ว่าไปทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหาย สร้างความเจ็บแค้นให้คนอื่นๆ อาจมีผลต่อไปในอนาคตที่คนของประเทศตัวเองเมื่อไปประเทศอื่นๆ อาจไม่ปลอดภัยถูกแก้แค้นทดแทนได้ และอีกประการหนึ่งก็คือถ้าไปก่ออาชญกรรมประเทศอื่นได้เหมือนไปฝึกวิทยายุทธ์มา เมื่อกลับประเทศก็อาจนำประสบการณ์ไปใช้ก่ออาชญกรรมประเทศตัวเอง

ในเรื่องนี้เราเห็นตัวอย่างมาแล้วว่า เมื่อคนในประเทศของตัวเองหรือคนในประเทศของเราไปทำผิดในประเทศอื่น แล้วถูกจับได้ไปถูกลงโทษ ไปถูกตัดสินประหารชีวิตก็มี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหายแน่นอน ความเชื่อถือต่อประเทศก็ลดน้อยลง บางครั้งเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ไปก็มี แน่นอนว่าย่อมกระทบผลประโยชน์ของประเทศแน่นอน การจะป้องปรามปราบปรามอาชญกรรมระหว่างประเทศจึงเป็นเรื่องยากเพราะแม้แต่คนของประเทศตัวเองก็ยังจัดการไม่ได้แล้ว จึงหวังได้ยากที่ไปจัดการอาชญกรรมข้ามชาติ และการป้องปรามอาชญกรรมทั้งหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงต้องการความรู้ความสามารถในการจัดการซึ่งนั่นย่อมหมายถึงการมีคุณภาพของคนที่จะเข้าไปจัดการกับปัญหาเหล่านี้

ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณ

ในยุคที่วิทยาศาสตร์รุงเรื่อง ครั้งหนึ่งแนวคิดของฝรั่งได้เปลี่ยนไปว่า วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายทุกอย่างแม้แต่เรื่องจิต บ้างก็ว่าจิตไม่มีจริง เป็นการสร้างภาพขึ้นจากการทำงานของคน ปรากฏการณ์ทางจิตทั้งหลายเป็นเรื่องไม่จริง และไม่เชื่อว่ามนุษย์นั้นประกอบด้วย ร่างกายและจิต เพราะไม่เชื่อว่าจิตมีจริง ......................

อย่างไรก็ตามแนวคิดทางจิต ไม่ว่าทางตะวันตกหรือตะวันออกมีแนวคิดที่คล้ายๆกันคือยังมีความเชื่อเรื่องวิญญาณ สิ่งที่สะท้อนได้ดีที่สุดคือภาพยนต์ฮอดลีวูด เช่น ภาพยนต์เรื่อง The Ghoust,, The Gift และมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางจิต โดยเฉพาะวิญญาณ ทั้งสองเรื่องที่กล่าวมานั้น ยังมีพื้นฐานความเชื่อที่ว่าคนที่ตายไปแล้วยังมีดวงวิญญาณ ที่ไม่มีใครเห็นตัวได้ แต่สามารถที่จะส่งผ่านพลังงานมาทำอะไรได้ สำหรับภาพยนต์เรื่อง The Gift นั้นมีความเชื่อในโชคชตา มีลางสังหรณ์ทำให้ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าได้

หนังเคย in trend

ภาพยนต์ที่กำลังจะมาเข้าฉายที่บ้านเรา ที่ได้ไปดูตัวอย่างมาสองเรื่อง คือเรื่องแรกคือเซอร์โรเกต (surrorgate) และอีกเรื่องหนึ่งคือ 2012 เรื่องแรกเป็นภาพยนต์ที่นำแสดงโดย บลูส วิลลิส เป็นภาพยนต์ไซไฟ โลกมนุษย์ที่มีบริษัทรับทำโคลนนิ่ง โดยตัวเองอยู่กับบ้านไม่ต้องไปไหน แต่มีโคลนนิ่งของตัวเองออกไปทำอะไรต่ออะไรนอกบ้านได้ แม้ว่าได้รับอันตรายอย่างไร ตัวจริงก็ยังอยู่ไม่เป็นอันตรายอะไร เรื่องของเรื่องที่ได้เกิดมีปัญหาขึ้นมาก็คือ ตัวโคลนนิ่งที่ออกไปทำอะไรนอกบ้านเมื่อได้รับอันตรายถึงตายขึ้นมาทำให้ตัวจริงที่อยู่บ้านเกิดตายจริงขึ้นมา ทำให้พระเอกของเราคือบลูสวิลลิสต้องออกไปสืบหาให้ได้เป็นเพราะมีอะไรผิดพลาด


ส่วนเรือง 2012 เป็นเรื่องที่จินตนาการขึ้นถึงวันที่โลกแตกจริงๆ ตามคำทำนายของน็อตตราดามุส ดาราแสดงนำคือจอห์น คูแซก ที่มีการคาดเดาว่าจะมีอุกาบาตมาชนโลกแล้วก็ให้เกิดภัยพิบัติทำลายล้างโลก เกิดแผ่นดินไหวไฟไหม้ไปทั่ว จนแทบไม่มีคนรอดชีวิต ต่างจากเรื่องอามาเกตดอน ที่อุกาบาตชนโลกเหมือนกันแต่คนไม่ได้ตายโลกไม่ได้แตกสลายเหมือนคราวนี้ ฉากแต่ละฉากตื่นเต้นเฉียดฉิว เหมือนอยู่ในเหตุการจริง โดยเฉพาะการทำตัดต่อวิดิโอด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ได้เหมือนจริงมาก ถ้าได้ดูให้จบเรื่องคงจะให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเหตุการ ภาพยนต์ทั้งสองเรื่อง เป็นเรื่องการจิตนาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แนะน่าตื่นเต้นถ้าได้ดูทั้งเรื่อง

อัฟเดทกับเครื่องมือดูหนังฟังเพลง

ได้เขียนบล็อกที่เกี่ยวกับเครื่องดูหนังดูวิดีโอไว้ว่าได้มีการปรับปรุงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอภาพที่ใช้เป็นที่ดูหนังหรือวิดีโอ ให้สามารถแสดงรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งทั้งเครื่องที่ใช้เล่นวิดีโอหรือที่เรียกว่าดีวีดีเพลเยอร์ (dvd player) และจอภาพล่าสุดนั้นให้ความละเอียดมากยิ่งขึ้น มีจำนวนเส้นมากขึ้นถึง 1080 เส้น ถ้าว่ากันถึงจำนวนจุดถึง 2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานในระบบดิจิทัลที่แท้จริง ผ่านทางพอร์ทการเชื่อมต่อที่เรียกว่า HDMI ซึ่งให้ความละเอียดคมชัดขึ้นแม้จะเล่นกับแผ่นหนังหรือวิดีโอในระบบดีวีดีเดิมที่เคยใช้กันอยู่เดิม


แต่ในความเป็นจริงนั้นยังไม่ได้ใช้ความสามารถตามคุณสมบัติสูงสุดที่ควรจะเป็น เพราะยังใช้กับแผ่นวิดีโอรุ่นเก่า แต่ถ้าใช้กับแผ่นดีวิดีที่จัดทำให้ได้คุณภาพเต็มประสิทธิภาพแล้วจะคมชัดมากยิ่งขึ้นอย่างเด่นชัด ซึ่งเครื่องเล่นที่ว่านั้นก็คือเครื่องเล่นบลูเรย์ที่สามารถเล่นหนังวิดีโอได้คมชัดเต็มประสิทธิภาพ 1080 เส้นจริงซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้จริง อย่างไรก็ตามแผ่นหนังวิดีโอที่ใช้ในระบบบลูเรย์นั้นยังมีราคาแพง แต่ละเรื่องก็ราคามากกว่า 1000 บาทขึ้นไป และเครื่องเล่นบลูเรย์ก็ยังราคาแพงในระดับหมื่นกว่าบาทขึ้นไป เชื่อว่าเมื่อราคาลดลงบ้างคงจะได้ดูหนังวิดีโอที่มีรายละเอียดสูงที่เรียกว่า Full HQ จริงๆ

การพัฒนาจอภาพเพื่อให้รองรับความคมชัดและความนิ่มนวลมากขึ้น ก็ได้แก่การเพิ่มความถี่ในการนำเสนอภาพ จากที่เคยมีความถี่แค่ 200Hz ก็เพิ่มเป็นความถี่ถึง 600Hz ก็ได้ไปสอบถามกับพนักงานที่แนะนำ ก็ได้รับคำอธิบายว่า เมื่อก่อนการดูวิดีโอนั้นจะใช้จำนวนเฟรมภาพประมาณ 16 ภาพต่อวินาทีเราก็ดูไม่ออกแล้วว่าเกิดจากการนำภาพมาต่อกัน แต่ที่บอกว่าไม่นิ่มนวลนั้นก็คือถ้าหากเป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีความเร็ว เราจะมองว่าไม่ค่อยคมชัดเท่าไร แต่ถ้าในระบบ 600Hz มีจำนวนภาพต่อวินาทีเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้ภาพมีความคมชัดไม่กระตุกสำหรับภาพที่เคลื่อนไหวเร็วๆ แต่เท่าที่เห็นวางจำหน่ายก็มีอยู่ในจอภาพแบบพลาสม่าที่สามารถทำได้

สำหรับเครื่องเล่นวิดีโอ นั้นก็ยังมีแบบลูกผสมคือสามารถเล่นได้ทั้งระบบดิจิทัลและแอนะล็อกแบบเดิม เพิ่มความคอมชัดแบบวิดีโอคอมโพไซด์ และ s video แต่ถ้าเป็นวิดิโอที่ออกจากพอร์ต HDMI ก็จะเป็นสัญญาณดิจิทัลที่มีความคมชัดกว่า รุ่นหลังๆ อาจตัดวิดีโอแบบคอมโพไซต์และ s video ออกไปเลย ข้อที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือเกี่ยวกับสัญญาณเสียง ที่ต่อออกจากเครื่องเล่น ถ้ามีช่องเสียงออกมาแบบรอบทิศตามระบบเสียง 5.1 ก็จะมีจุดเชื่อมต่อลำโพงคู่หน้า คู่หลัง กลาง และยังมีซัพวูฟเฟอร์อีก ก็คงต้องมีลำโพงและเครื่องขยายกันหลายตัว นอกจากว่าซึ้อเป็นชุดที่จัดให้มาเกือบหมด

ขำขันโจ๊กฝรั่ง

วันหยุดก็อยากเล่าเรื่องโจ๊กฝรั่งบ้าง เรื่องมีอยู่ว่า
มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งโกรธกันเรื่องอะไรไม่ทราบได้ ก็ไม่ยอมพูดคุยกัน

ฝ่ายสามี ก็ไม่อยากเสียฟอร์มที่จะต้องพูดกับภรรยาก่อน ก็เลยใช้วิธีเขียนแทน ไว้ว่า


" พรุ่งนี้ ตี 5 ช่วยปลุกด้วย "

ปรากฏว่าตื่นขึ้นมาเวลา 8 โมงเข้า ภรรยาไม่ได้มาปลุกทำให้พลาดเครื่องบินที่จะไปทำธุระ

แต่เมื่อเดินไปที่ข้างเตียงก็พบโน้ตจากภรรยาเขียนไว้ว่า

"นี่คุณเวลา ตี5 แล้ว ตื่นได้แล้ว"

ผลการทำอาณาปนสติ

ตามพระไตรปิฏกได้กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสำหรับผู้ที่เจริญอาณาปนสติ หรือผู้ที่ฝึกฝนฝึกจิตโดยการใช้ลมหายใจเป็นเครื่องมือ โดยกำหนดให้มีสติกำกับทุกลมหายใจเข้าออกในอิริยาบทต่างๆ แล้ว เช่นให้รู้สึกตัวเมื่อหายใจออก และก็รู้สึกตัวเมื่อหายใจเข้าในกรณีต่างๆ แล้วเมื่อฝึกให้มากๆ แล้ว ย่อมเกิดผลใหญ่หรือมีอานิสงส์ใหญ่ ที่ทำให้สติปัฏฐานทั้งสี่มีความสมบูรณ์


การที่ทำให้สติปัฏฐานทั้งสี่สมบูรณ์นั้นก็คือทำใจให้มีสติกำกับดูแลซึ่งมีอยู่ 4 ฐานจึงเรียกว่าสติปัฏฐาน4 โดยในฐานที่ 1 เป็นการรู้ลมหายใจหรืออาการเคลื่อนไหวของกาย ฐานที่2 เป็นการรู้เห็นการกระทำของความคิด ความรู้สึกที่จะขจัดความคิดออกไป ฐานที่3 รู้เห็นถึงความสงบของจิตใจ หรือเห็นความว่างเปล่า และฐานที่4 เป็นการกำหนดปัจจุบันที่เป็นอยู่ในขณะหนึ่งขณะใดในทันที

เมื่อทำให้ฐานทั้ง4ครบบริบูรณ์และทำให้เจริญมากขึ้นก็ย่อมทำให้เกิดโพชฌงค์ทั้ง7ครบบริบูรณ์ และเมื่อทำให้มากปฏิบัติให้มากให้ก้าวหน้าต่อไปแล้วก็ย่อมทำให้มีวิชชาและวิมุติสมบูรณ์และก้าวหน้าขึ้น ก้าวเข้าสู่ความหลุดพ้นและนิพพานอันเป็นเป้าหมายในทางพระพุทธศาสนา
ไปพบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ได้แสดงผังโครงสร้างของพระรัตนไตร น่าจะเป็นอะไรทั้งหมดของศาสนาพุทธที่คิดให้เป็นโครงสร้างของศาสนาพุทธ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจพุทธศาสนาในภาพรวมได้

สมุนไพรรักษาสารพัดโรค 3

ได้นำเสนอพืชสมุนไพรที่ใช้ในการบำบัดรักษา ป้องกันบรรเทาโรคได้สารพัดโรคมาแล้ว 2 ชนิดคือ ต้นสมเสร็จและมีอยู่ทั่วไปบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง อีกชนิดหนึ่งกำลังเป็ยยอดฮิต เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ได้แก่้ต้นมะรุม โดยเฉพาะมะรุมน่าจะจัดเป็นพืชมหัศจรรย์ เพราะเป็นทั้งอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูง และเป็นตัวยารักษา ป้องกันโรคสำคัญได้เกือบหมด ขณะนี้มีการนำใบตากแห้งมาบดใส่แค็ปซูลขายกันตามร้านขายยาทั่วไปแล้ว


วันนี้อยากจะนำเสนอพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งคือว่านพญาวารนร หรือที่เวียดนามนำไปปลูกขึ้นชื่อเป็นที่นิยม จนคนไทยไปเอามาอีกทีก็มี โดยให้ชื่อว่า ฮวานฮก (ฮะวานฮก) ที่ดูจาก การนำเสนอของผู้ที่เพราะพันธ์ต้นกล้าขาย แล้วสรรพคุณไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามะรุมเลย จะด้อยก็แต่เรื่องสารอาหารที่มีอยู่ในพืชชนิดนี้ แต่ก็มีจุดเด่นที่ตามที่โฆษณาก็คือเน้นกล่าวถึง การเป็นอาหารยาอายุวัฒนะ ถ้าหากรับประทานใบพืชสมุนไพรชนิดนี้สดๆ เป็นประจำแล้วก็จะดูอ่อนกว่าวัย สมรรถนะทางร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้น ผิวพรรณจะดูสดใสแต่งตึงขึ้นกว่าเดิม โดยทั่วไปการใช้พืชสมุนไพรแทบไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ที่จะเป็นพิษกับร่างกายต่อมาภายหลัง แต่ก็อย่าวางใจไปทั้งหมด เพราะอาจจะมีสารออกฤทธิ์บางอย่างที่ไปทำให้อาการของโรคแย่ลงก็ได้ เช่นในมะรุมก็มีคำแนะนำว่าไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคฉี่สีเข้มน้ำตาลเป็นต้น

sassy girl ดูหนังรักไม่โรแมนติก

เมื่อวานนี้ได้เขียนบล็อกในลักษณะของการสร้างเว็บไซต์ว่ามีดีต้องโชว์เรียกร้องความสนใจ แต่เมื่อได้ดูหนังรักไม่โรแมนติกเท่าไหร่ ฉากแสดงความรักความใคร่ไม่มี แต่งตัวล่อแหลมวอมแวมก็ไม่มี จะมีบทจูบอยู่บางก็ตอนจบเรื่อง อาจเป็นไปได้ว่าว่าภาพยนต์เรื่องนี้ ส่วนใหญ่เหตุเกิดในหน้าหนาว เรื่องของความรักในหนังเรื่องนี้ ที่น่าสนใจตรงที่บางครั้งความรักไม่ได้มีเหตุผลใดๆ จะมีใจให้กันแล้วละก็ยอมได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องที่เป็นสุภาพบุรุสมากๆ พบสาวก็สาวเป็นลมใส่เอาเพราะเมา จะทิ้งไว้ก็กระไรอยู่ก็ต้องแบกกลับมาหอพัก ต้องยอมรับโทษที่ฝ่าฝืนกฏหอพัก จากนั้นความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะที่ผู้ชายมักจะยอมตามผู้หญิงเสียมากกว่า ก็เพราะรักนั่นเอง


พล็อตของหนังมีส่วนคล้ายกับภาพยนต์ที่มีคุณค่าแก่ความทรงจำ เช่นเรื่อง Affair to remember, sleepless in seattle ซึ่งมีการนัดหมายกันที่ตึกเอมไพร์สเตต แต่สำหรับเรื่อง sassy girl มีการนัดหมายกันแปลกออกไปที่ให้ต่างคนเขียนจดหมายแสดงความรู้สึกส่วนตัวต่อกันแล้วนำจดหมายไปเก็บไว้ในที่ที่นัดแนะกันเอาไว้ และกำหนดว่าหลังจากนี้อีก 1 ปีต่างก็จะมาเปิดจดหมายออกอ่านดู หลังจากแยกกันไปหนึ่งปีอีก ฝ่ายชายก็มาตามนัดมาหาจดหมายอ่านดูก็ทำให้รู้ความจริงว่า ทำไมฝ่ายหญิงจึงได้แสดงตัวประพฤติตัวอย่างนั้น ก็ยิ่งทำให้มีใจมากขี้นอีก ฝ่ายหญิงไม่ได้มาตามนัดแต่มาในอีกวันหนึ่งไม่ได้พบกันในตอนนั้น แต่ด้วยความรักที่มีต่อกันสุดท้ายก็จบลงด้วยความสุข

ที่เล่าเรื่องย่อๆของภาพยนต์เรื่องนี้นั้น เพราะเป็นเรื่องของความรักล้วนๆ ไม่มีส่วนของอิจฉาริษยาให้เห็น การแต่งกายเรียบร้อยไม่ต้องโชว์สรีระเรื่อนร่างเพื่อดึงดูดใจเรียกร้องความสนใจ แต่ด้วยท่างหน้าตาที่สะสวยน่ารักของผู้หญิงก็เกินพอ การแสดงบ่งให้เห็นถึงความรักความห่วงใจ ความเข้าใจของความรักว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ยังรัก ทำให้คิดว่าความรักเป็นเหมือนพรหมลิขิต แม้ว่าจะมีบ้างคนแย้งว่าความรักสร้างได้กำหนดได้ก็ตาม

ระบบนิเวศกับความรู้

ในโครงสร้างที่นำไปสู่ปัญญา เริ่มจากข้อมูล สารสนเทศ ความรู้ และ ปัญญา จะเห็นว่าความรู้จะมีได้ก็ต้องมีข้อมูลและสารสนเทศมากก่อนที่นำมาประมวลก่อให้เกิดความรู้ที่ประกอบด้วยมโนทัศน์ต่างๆที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างมโนทัศน์อย่างง่ายไปจนถึงขั้นที่มีความซับซ้อน การแสดงถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวก็เป็นเหมือนกับระบบนิเวศซึ่งก็คือความรู้นั่นเอง


ตามทฤษฎีของความรู้ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่ประกอบขึ้นจากหลักความจริงทางตรรกะ สามารถทดสอบได้ด้วยการสังเกต หรือการทดลอง หรือทั้งสองอย่าง เพื่อพิสจน์ยืนยันสมมุติฐานที่คาดการณ์ไว้สำหรับอธิบายปรากฏการณ์ และทำนายปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ การศึกษาในลักษณะนี้ก่อให้เกิดความรู้ใหม่ การมีความรู้ใหม่ส่งผลให้เกิดนวัตกรรม ซึ่งก็เป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ประดิษฐ์คิดทำขึ้นมาใหม่เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

เสาะหาความสำเร็จจากความรู้

ในโครงสร้างที่นำไปสู่ปัญญา เริ่มจากข้อมูล สารสนเทศ ความรู้ และ ปัญญา จะเห็นว่าความรู้จะมีได้ก็ต้องมีข้อมูลและสารสนเทศมากก่อนที่นำมาประมวลก่อ ให้เกิดความรู้ที่ประกอบด้วยมโนทัศน์ต่างๆที่มีความสัมพันธ์กันระหว่าง มโนทัศน์อย่างง่ายไปจนถึงขั้นที่มีความซับซ้อน การแสดงถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวก็เป็นเหมือนกับระบบนิเวศซึ่งก็คือความรู้ นั่นเอง


บนความสำเร็จของงานจะต้องมีการระดมส่งเสริมให้มีการคิดค้นหาแนวทางเพื่อการสร้างนวัตกรรมและการจัดการแนวใหม่ กลุ่มบุคคล องค์กรจะต้องมีแผนงานหรือกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเอง ดังนั้นจึงต้องมีการสังเคราะห์ความรู้ที่ฝังลึกในตัวคน นำไปยกระดับให้สูงขึ้น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสะกัดความรู้ออกจากตัวคน ซึ่งจะต้องมีเวทีที่ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ส่งผลให้เกิดความรู้ใหม่และพัฒนาเป็นนวัตกรรมในด้านต่างๆ รวมทั้งการเรียนรู้ การพัฒนาองค์กรและเทคโนโลยี

เมื่อต้องโชว์เรียกร้องความสนใจ

การจัดทำเว็บไซต์ โดยเฉพาะในหน้าโฮมเพจซ์อันเป็นหน้าแรกของเว็บไซต์ มักจะบ่งบอกให้ทราบว่ามีเนื้อหาหลักใดที่นำมาเสนอ หรือมีอะไรที่จะบอก แจ้งให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทราบ ว่าเข้ามาเว็บไซต์นี้แล้วทำอะไรได้บ้าง โดยสรุปเกือบทั้งหมดที่จัดทำเว็บไซต์ขึ้นมานั้น ก็ต้องมีอะไรที่จะแบ่งปัน หรือจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ถ้าไม่มีอะไรจะบอก ไม่มีอะไรจะแสดงหรือโชว์ ก็ไม่รู้ว่าจะทำเว็บไซต์ไปทำไม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีดีอะไรก็ต้องโชว์กันหน่อย


เมื่อวานนี้ขณะขับรถยนต์ฟังโฆษณาเรื่องหนึ่งจากวิทยุ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าโฆษณากันขนาดนี้แล้ว เริ่มจากสนทนา "วันนี้นุ่งสั้นจังเลยนะ (นุ่งสั้นจุดจู๋)" มีเสียงตอบกลับมาว่า

"ก็มั่นใจเชื่อมั่นด้วยครีม.....มีส่วนผสมของ.....และ.....ที่ช่วยลบ ลดผิวแตก ผิวด่างดำ" นัยตามโฆษณานี้ ก็เพื่อให้โชว์สรีระร่างกายได้อย่างมั่นใจ นั่นก็ต้องมีดีโชว์ การโฆษณาเช่นนี้ไม่ได้แยกแยะผู้ฟังว่าเป็นเด็กเล็กเด็กใหญ่ และไม่ได้ชี้ให้เห็นโทษภัยที่อาจเกิดขึ้น เพราะบางครั้งเราจะเห็นอยู่่บ่อยครั้งที่การแต่งกายไม่เหมาะสมกับกาละเทศะ ซึ่งอาจจะขัดกับการเป็นกุลสัตรี แต่ไม่ขัดกับผู้ที่ชอบดูทั้งหญิงและชาย และเป็นธรรมดาสำหรับผู้ถูกมองที่เรียกร้องความสนใจให้คนมองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพดารา นักร้อง เพราะต้องการให้เป็นที่รู้จักมากๆ งานจึงเข้า เป็นธรรมดาที่คนเราต้องแต่งตัว ที่ดีอยู่แล้วก็จะช่วยเสริมจุดแข็งให้ดียิ่งขึ้น ที่เป็นจุดอ่อนก็แก้ไขเพื่อให้ดีขึ้นได้ และเป็นธรรมดาที่ทุกคนต้องแต่งตัวให้ดูดีตามความรู้สึกชอบของตัวเอง และยิ่งผู้อื่นบอกว่าดูดีก็ยิ่งมีความพอใจแสดงว่าส่วนลึกจริงๆ แล้วคนเรามีอะไรดีอยู่บ้างก็อยากโชว์ทั้งสิ้น

การหลอกลวงทางจิต

โดยทั่วไปแล้วเมื่อเราพูดถึงเรื่องจิต จะหมายถึงความรู้สึกนึกคิด นึกฝันจิตนาการว่าเป็นโน่นเป็นนี่คือเป็นเรื่องในความคิดที่ไม่ได้มีอยู่จริง บางครั้งจิตใจของเราก็อาจถูกคนอื่นจูงไปได้ให้ไปทำโน่นทำนี่ ไปด้วยจิตแต่ไม่ได้ทำจริงๆ ที่ทำกันมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยวิธีการสะกดจิต ซึ่งคนที่จะจูงจิตคนอื่นให้ไปทำอะไรๆ ได้นั้นเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่สามารถให้ผู้อื่นเชื้อเห็นคล้อยตาม และนึกคิดตามเช่นบอกให้จิตออกจากร่างไปที่นั่นที่นี่ได้โดยที่ร่างกายไม่ได้ไปด้วย และมีอยู่บ่อยครั้งผู้ถูกสะกดจิตและถูกจูงจิตไปรู้สึกสบายที่ได้จิตได้ไปทำเช่นนั้น โดยในชีวิตจริงไม่สามารถทำได้เลย บางครั้งก็ทำให้ยึดติดเป็นอุปาทาน ว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์คนที่จะทำได้เช่นนี้ก็ต้องเป็นคนที่มีบุญญาธิการ จึงทำให้เกิดความเชื่อในตัวบุคคลสูงยิ่ง ทั้งให้ความเคารพบูชาและเลยมาในชีวิตจริงก็จะทำตามด้วย ไม่ว่าจะบอกให้ทำอะเไร ก็คิดว่าดีไปเสียหมดก็เป็นที่มาของการหลอกลวงทางจิต


บางคนถูกหลอกลวงทางจิตให้เลิกกับสามี,ภรรยาที่เคยอยู่กินกันมานานหลายปีจนมีลูกโตๆ กันแล้ว บางคนก็ยอมกายถวายชีวีให้ เสียเงินทรัพสมบัติเท่าไรก็ยอมทั้งนั้น อาจทำให้ถึงกับทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมดูเพี้ยนๆไปก็มี เพียงเพื่อเชื่อว่าจะเป็นไปตามที่ถูกจูงจิตไว้ มีอยู่กรณีหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นที่หน้าเขามหาชัยแห่งนี้ที่เราเคยเชิญ่ คุณผัน วิสูตร มาสะกดจิตหมู่ให้นักศึกษาและอาจารย์ ผู้ที่มีจิตอ่อน(จะหมายถึงจิตที่บริสุทธิ์พร้อมที่จะเชื่อจะรับอะไรได้ง่าย) มักจะถูกจูงจิตไปไหนต่อไหนได้ง่าย เคยถามนักศึกษาที่ถูกสะกดจิตไปในอนาคตว่าเป็นอย่างไรในอนาคต ได้รับคำตอบว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ที่หน้าเขาแห่งนี้ ผมก็เฝ้ารอจนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ตามที่ถูกสะกดจิตไป

มีอยู่เรื่องหนึ่งผู้ถูกสะกดจิตเป็นเหมือนกับการถูกหลอกซ้ำสอง เพราะผู้ที่ถูกสะกดจิตพร้อมๆกันทีละหลายคน บางคนถูกจูงจิตให้ไปในที่ต่างๆ ไปในอนาคต คนที่จิตแข็งถูกสะกดจิตอย่างไรก็ไม่ถูกจูงจิตก็แค่สลึมสลือจะหลับ เห็นเพื่อนตื่นขึ้นมาเล่าให้ฟังว่าไปไหนต่อไหนตามที่ถูกจูงจิตไป คนที่จิตแข็งที่ไม่ได้ถูกจูงจิตไปเหมือนเพื่อนก็ใช้วิธีอำทางจิตหรือหลอกลวงทางจิตเพื่อผลประโยชน์ให้เพื่อนสาวได้เห็นใจชอบรัก โดยบอกเพือนสาวไปว่า "ตอนที่ถูกสะกดจิตไปในอนาคตนั้นเราเป็นแฟนกันและรักกันมาก " ผู้เขียนไม่ได้ติดตามผลว่าเขาเป็นแฟนกันจริงในเวลาต่อมาหรือไม่ ถึงขั้นได้แต่งานกันหรือเปล่า

การอพยบครั้งใหญ่ผ่านเข้ามหาชัยราชภัฏนคร

ปรากฏการณ์นกอพยบผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราชในเช้าวันนี้ ไม่เคยมีมาก่อนอาจจะในรอบศตวรรษก็ว่าได้ทีเดียว โดยน่าจะบินมาตามแนวเทือกเขาหลวง ผ่านภูเขามหาชัย นับหลายร้อยตัว ตั้งแต่ตอนเช้ามืด จนกระทั่งสายก็ยังเห็นนกอพยบบินผ่านท้องฟ้ากราดเกลื่อนไปหมด โดยมุ่งหน้าไปทางใต้ ดูด้วยสายตาจากริมเชิงเขามหาชัย บางกลุ่มก็มาบินวนอยู่แถวเขามหาชัย บางกลุ่มก็บินวนอยู่แถวช่องกิ่ว เลยเขามหาชัยไปเล็ก น่าจะเป็นการหยุดพักชั่วคราวก่อนที่จะบินต่อไป หรืออาจจะเป็นการบินวนให้สัญญาณรอกันก็เป็นได้


ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นนกอะไร ที่แน่ๆ คงจะเป็นนกขนาดใหญ่แน่นอน ชาวบ้านบางคนก็บอกว่าเป็นนกอินทรีย์ทะเล และบางคนก็บอกว่าเห็นตอนบินลงมาใกล็น่าจะเป็นนกแร้ง หรือพญาแร้ง แต่ดูท่าทางการบินแล้วก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง แบบการบินร่อนก็คล้ายเหยี่ยว จะเป็นนกอะไรก็ตาม แต่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนที่อพยบมามากมายขนาดนี้ ก็น่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง เช่นว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแหล่งที่เคยเป็นถิ่นที่อยู่ ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป จึงต้องอพยบไปยังที่ใหม่ที่เห็นว่าสามารถปักหลักอาศัยอยู่ได้ เปรียบเสมือนหนีร้อนไปพึ่งเย็น หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าน่าจะมีฝนตกใหญ่หรือมีพายุก็เป็นไปได้เพราะสัญชาตญาณของสัตว์บางอย่างดีกว่าของคน จิ้งจกทักเรายังระวังตัว คราวนี้นกทักน่าจะระวัง เป็นการแจ้งเหตุเตือนภัย อย่าประมาทเป็นดีที่สุด

เมื่อจะค้นหารากเหง้าของตนเอง

ประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ที่ไปที่มาของเหตุการณ์ เรื่องราวของบุคคลที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลานานหลายชั่วคน ที่ไม่มีบันทึกหลงเหลือร่องรอยให้เห็นการเล่าต่อกันมาอาจเลอะเลือนจนไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ควรจะเป็น จึงเป็นที่มาให้มีการชำระประวัติศาสตร์ให้เข้ารูปเข้ารอยมีเหตุผลที่จะสรุปเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นจริงมากที่สุด เราศึกษาประวัติศาสตร์ก็เพื่อจะนำเอาสิ่งดีๆเป็นแบบอย่าง แก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้อีก เราใช้ประวัติศาสตร์เป็นเหมือนบทเรียน


หลักศิลาจารึกอักษรไทยสมัยสุโขทัยก็ยั้งมีคนสงสัยว่าโดยหลักฐานยุคหลังๆ นั้นไม่น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่ยังไม่มีใครที่จะทำให้ชัดเจน บางคนอาจจะคิดว่าไม่ได้มีประโยชน์ใดๆที่จะรื้อฟื้น แต่ก็น่าจะมีประโยชน์ในแง่ที่เรามีความรู้มีเทคโนโลยี ที่จะศึกษาที่จะตัดสินใจให้ผู้อื่นเชื่อถือได้หรือไม่

ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่เราเรียนกันมาเมื่อครั้งชั้นประถม มัธยม ว่าคนไทยมาจากไหน บ้างก็ว่ามาจากประเทศจีน แถบเทือกเขาอันไต แล้วอบพยบลงมาทางใต้เข้าสู่ประเทศไทยดังปัจจุุบันดังมีหลักฐานอยู่ที่ประเทศจีนว่ายังมีคนไทยหลงเหลืออยู่และยังพูดภาษาไทยอยู่บ้าง ที่มีบางส่วนที่อยู่ในประเทศเวียดนามที่ยังมีภาษาพูดใกล้เคียงภาษาไทย ต่อมามีหลักฐานใหม่ว่าคนไทยอาจจะเคยอยู่ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบันมาก่อนแล้ว แล้วรับวัฒนธรรม และภาษาจากผู้ที่อพยบเข้ามาใหม่ จึงมีการผสมผสานกับคนที่อยู่ในถิ่นเดิมที่อยู่ในอิทธิพลของขอม อินเดียแล้วแผ่อิทธิพลไปทั่ว
ในปีนี้เองที่ สุจิน วงเทศ ก็ได้นำเสนอผลการศึกษาว่าผู้ก่อตั้งกรุงศรีอยุธยานั้นไม่ใช่พระเจ้าอู่ทอง ตามที่เข้าใจเรียนรู้กันมาแล้วนั้นกลับกลายเป็นเพียงนิทานหรือเรื่องเล่ากันเท่านั้น แต่กลับบ่งชี้ว่าคนผู้ที่เป็นคนตั้งกรุงศรีอยุธยาที่แท้จริงนั้น เป็นพระราชาธิปดีที่มาจากขอม มีหลักฐานว่าที่ละโว้ลพบุรีก็มีหลักฐานมีปราสาทแบบขอบ ที่ใกล้กรุงเทพแค่เมืองกาญจนบุรีก็มีปราสาทเมืองสิงห์ ส่วนดินแทนทางใต้เป็นทางเรือสินค้าผ่าน คนพื้นเมืองจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบใดแน่ ที่ทราบก็มีแต่เงาะซาไก ที่คิดได้ก็น่าจะมีหลายชนชาติที่มาอยู่รวมกัน แต่เมื่อดูภาษาไทยที่ใช้พูด ทางใต้น่าจะได้รับอิทธิพลทางภาษาจากบนไทยที่อาศัยอยู่ทางเหนือขึ้นไป แต่สำเนียงการออกเสียงเป็นลักษณะเฉพาะตัว

การค้นพบเพนนิซิลินโดยไม่ตั้งใจ

Penicillin เป็นตัวยาต้านแบคทีเรียหรือเป็นแอนติไบโอติกตัวแรก ถูกค้นพบในปี 1928 โดยบังเอิญ จากจานแก้วตื้นบางสำหรับการทดลองเกี่ยวกับแบคทีเรียถูกทิ้งไว้ไม่ได้ปิดฝาไว้โดยไม่ตั้งใจโดยอเล็คซานเดอร์เฟรมมิ่ง (Alexander Fleming) ในห้องปฏิบัติการของเขาในประเทศอังกฤษ ในตอนนั้นมีนักทดลองที่อยู่ชั้นบนเลินเล่อขณะที่กำลังใช้โมล (mold) ซึ่งบางส่วนได้ฟุ้งกระจายผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้มาตกลงในจานคัลเจอร์สตาฟิโลคอคซิ (staphylococci) ของเฟรมมิ่ง พบว่าในวันต่อมานักแบคทีเรียวิทยาชาวสก็อตได้พบว่ามีบริเวณทีโล่งดูสะอาดในจาน อันเนื่องจากเพนนิซิลินในโมลฆ่าแบคทีเรียในส่วนนั้นไปแล้ว

เอดิสันเอฟเฟคคืออะไร

โทมัส เอลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล แต่เขาได้ค้นพบทางวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว ที่เรียกว่าเอดิสันเอ็ฟเฟ็ค (Edison effect) เกี่ยวข้องกับการไหลของไฟฟ้าข้ามผ่านศูนย์ยากาศ เขาได้จดสิทธิบัตรผลอันนี้ไว้ แต่ไม่สามารถคิดนำไปใช้ประโยชน์ แต่เขาข้ามไปยังสิ่งอื่นๆ อย่างไรก็ตามเอดิสันเอ็ฟเฟ็คกลับกลายเป็นว่าได้เป็นรากฐานของอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ทั้งหมดในเวลาต่อมา ..เช่นวิทยุ โทรทัศน์ และอื่นๆ ทั้งหมด

ทัศนะเกี่ยวกับวัตถุนิยม

เราเคยเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุนิยม จะมีความหมายไปทางที่การมีวัตถุก็เป็นไปเพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย ความมีหน้ามีตา ความมีเกียรติที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา ทำให้มนุษย์แสวงหาวัตถุเพื่อบำรุงบำเรอให้เกิดความสุข อันเป็นต้นตอของปัญหาในโลกยุคปัจจุบันที่ต่างก็แย่งชิงวัตถุกันในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เป็นตัวเงิน และสิ่งของที่มองเห็นจับต้องได้ เป็นการแย่งชิงผลประโยชน์ทางวัตถุกัน โดยไม่คำนึงถึงว่าจะให้ได้วัตถุมาโดยวิธีใด


การเป็นนักบริโภคนิยม มีความหมายไปในทางเดียวกับวัตถุนิยม เพราะการเป็นนักบริโภคนิยมนั้นจะซื้อหาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นแก่การดำรงชีพ หรือเพียงเพื่อประดับบารมี และความพึงพอใจเป็นที่ตั้ง ดังนั้นทำให้มีการแสวงเงินทองกันให้มากเท่าที่จะมากได้เพื่อจะได้นำไปซื้อหาวัตถุที่ต้องการ โดยคิดว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะก่อให้เกิดความสุขได้ แต่กลายเป็นว่ายิ่งมีการบริโภคกันมากเท่าใดก็ยิ่งก่อให้เกิดการทำลายล้างกันมากเท่านั้น ก็ยังหาความสุขที่แท้ได้ยาก

ถ้านับย้อนไป 300 กว่าปีที่นิวตันได้พบกฏความโน้มถ่วง และกฏการเคลื่อนที่ ที่คิดให้วัตถุทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้กฏดังกล่าว ที่มองทุกอย่างเหมือนเครื่องจักรกล ทำให้มีการสร้างเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักรกลมาใช้แทนแรงงานคน ที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม สามารถผลิตวัตถุในรูปของสินค้าต่างๆ ได้จำนวนมากด้วยต้นทุนที่ต่ำลง เป็นที่มาของวัตถุนิยมอย่างหนึ่ง

เมื่อมองพุทธศาสนาเราก็ทราบว่าไม่ได้เน้นไปที่วัตถุ แต่มุ่งเน้นไปที่จิตใจ โดยให้ปล่อยวางวัตถุว่าไม่มีตัวตนที่แท้จริงไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นในวัตถุ ดังที่ปรากฏในพระธรรมวินัยที่พระสงฆ์ต้องปฏิบัติไปตามนั้น อย่างไรก็ตามพุทธศาสนาก็สามารถคิดให้เป็นวัตถุนิยมได้ ตามทัศนะของไมเคิล ไรท์ มองว่าแนวคำสอนทางพุทธศาสนาก็มีวัตถุนิยมอยู่ในตัว เช่นการให้ใช้ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นตัวแทนของความทุกข์ ก็ยึดถือเอาตัวบุคคลซึ่งเป็นวัตถุ และกาลามสูตร ก็กล่าวอ้างถึงเรื่องวัตถุเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนำไปสู่การขัดเกลาทางจิต

ที่มาของคำว่าอุษาคเนย์

ตอนแรกไม่น่าเชื่อว่าเป็นคำที่คิดขึ้นโดยชาวต่างประเทศ แต่หลังจากอ่านประวัติของไมเคิล ไรท์ หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ทำให้ทราบเรื่องที่น่าสนใจหลายอย่าง เป็นคนที่หลงเสน่ห์เมืองสยาม ได้โอนสัญชาติจากอังกฤษมาเป็นไทยและใช้ชื่อไทยว่า เมฆ มณีวาจา มาอยู่เมืองไทยทำงานที่เมืองไทยจนกระทั่งเสียชีวิตทีเมืองไทย เขาเป็นคนแรกที่ใช้คำว่าอุษาคเนย์ แทนคำว่า เอเซียอาคเนย์


เมื่อดูลึกเข้าไปในรายละเอียด พบว่าเป็นชาวอังกฤษแล้วไปหาความหมายชีวิตให้ตัวเองที่ประเทศศรีลังกาตั้งแต่อายุ 19 ปี ได้เรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ภาษาบาลีสันสกฤษที่นั่นเป็นว่าลา 1ปี แล้วย้ายมาอยู่เมื่องไทยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง และเป็นนักเขียนเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจและการเมือง ในเครือมติชน สุดท้ายก็มาอยู่ที่สำนักพิมพ์มติชน ไมเคล ไรท์สามารถใช้ภาษาไทยได้ดีจากการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากที่มีพื้นฐานจากภาษาบาลีสันสกฤตจากศรีลังกา ชำนาญในการอ่านศิลาจารึก ที่มีชื่อเสียงมากและได้รับการยอมรับจากการอ่านหลักศิลาที่วัดศรีชุม ที่เก่าแก่กว่าหลักศิลาจารึกสุโขทัย

จึงไม่น่าแปลกที่เขาเป็นคนไทยโดยสัญชาติ แต่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียร์ติ ให้เป็นผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงยุติธรรม นอกจากนี้มูลนิธิเสถียรโกเศศ นาคะประทีป ก็ยกย่องให้เป็นผู้มีคุณูประการต่อวงการไทยคดีศึกษาอีกด้วย

บ่อเกิดความรู้ทางปรัชญาและจิตวิทยา

ในทางจิตวิทยา บ่อเกิดของความรู้เกี่ยวกับ ทฤษฎีการเติบโตและพัฒนาของความรู้ โครงสร้างของความรู้สร้างขึ้นในแต่ละบุคคล ทฤษฎีต่างๆและเงื่อนไขของการเรียนรู้


โดยสรุปเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ โครงสร้าง และการพัฒนาการของความรู้ในภาพใหญ่หรือองค์รวม และความสัมพันธ์กับผู้ที่รู้แต่ละบุคคล และนั่นคือการเรียนรู้ของความรู้

ในทางปรัชญา บ่อกำเนิดของความรู้ก็เหมือนๆ กับทฤษฎีของความรู้ ซึ่งเป็นที่เข้าใจให้เข้าไปเกี่ยวข้องบนฐานชนิดเชิงตรรกะของความรู้ และบนฐานที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้ จึงเกี่ยวข้องกับทั้งการรับรองความรู้เชิงนามธรรม สำหรับผู้รู้เดี่ยวหนึ่งๆ และนั่นที่เป็นความรู้โดยทั่วไป

ความรู้แบ่งแยกจากความเชื่อซึ่งไม่สามารถกล่าวอ้างว่าได้รับการรับรอง ไม่เหมือนกับทางจิตวิทยาที่ความเชื่อนั้นดูอ่อนกว่าความรู้ โดยทั้งหมดที่เน้นย้ำกันในการใช้ทางปรัชญาของบ่อเกิดของความรู้ บนฐานการจัดแบ่งเชิงตรรกะ และการปรับเปลี่ยนของความรู้

แนะนำเว็บไซต์สื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัย

เป็นเว็บไซต์ที่ทำมาจาก blog spot ของ google โดยมี URL ที่ http://nakhonmedia.blogspot.com โดยชื่อโฮมเพจซ์ว่า สื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัย โดยการประยุกต์ในการบันทึกสื่อ ซีดี ดีวีดี และบทความในวารสาร จุดสาร รวมทั้ง e-book ดิจิทัล เพื่อให้สืบค้นได้ง่ายทุกที่ทุกเวลาในอินเตอร์เนต เมื่อพบเสื่อที่ต้องการ ก็เพียงแต่จดรหัสนำหน้าชื่อสื่อ มาขอบริการได้ที่ สำนักงานฝ่ายบริการสารสนเทศ ศูนย์วิทยาศาสตร์ ห้อง 13104 โดยกรอกใบสมัครเพื่อขอรับบริการตามเงื่อนไข ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ห้อง 13104


เฉพาะซีดี อาจอยู่ในรูปของซอพท์แวร์มัลติมีเดีย หรือวีซีดี ภาพยนต์พูดไทย ภาพยนต์พูดอักกฤษ บรรยายไทย หรือภาพยนต์พูดอังกฤษบรรยายอังกฤษ และวีซีดีเพลงคาราโอเกะ วีซีดีสารคดี วีซีดีเพื่อการเรียนรู้ ดีวีดีวิชาการ ดีวีดีภาพยนต์ ในการกำหนดรหัสถ้าเป็นแผ่นซีดีจะขึ้นต้นด้วย c แล้วตามด้วยตัวเลข ถ้าเป็นแผ่นดีวีดี ขึ้นต้นด้วยตัว d แล้วตามด้วยตัวเลขตั้งแต่ 2000 ขึ้นไป

สำหรับบทความในวารสารได้แบ่งหมวดหมู่ตามสาขาวิชาเพื่อให้สะดวกในการสืบคนเฉพาะสาขาที่ต้องการ ในการบันทึกใช้ตัวเลขเป็นรหัสเลยโดยไม่มีตัวอักษรนำหน้า ถ้าเป็นอีบุคที่เก็บไว้ในรูปของไฟล์ดิจิทัลจะขึ้นต้นด้วยตัว และในการบันทึกสื่อจะบันทึกชื่อบทความ วารสาร ผู้เขียน ทำให้สามารถค้นตาม ชื่อบทความ วารสาร และผู้เขียนได้

ถ้าดูตามรายการสื่อที่มีอยู่เช่นที่เคยแนะนำไว้ในบล็อกมาเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากภาพยนต์กันเถอะ ตอนนี้มีภาพยนต์ที่อยู่ในรูปดีวีดี 239 เรื่อง และวีซีดีซาวด์แทรค 144 เรื่อง และยังเดินหน้าจัดหาสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพยนต์จากแหล่งต่างๆ เพื่อให้เป็นแหล่งสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองนคร

สามัญสถานของการศึกษา

ไปอ่านเจองานของ Schwabหลายสิบปีมาแล้ว ที่ได้กำหนด common places of education ไว้ ขอแปลว่าสามัญสถานของการศึกษา ก็เหมือนจะบอกให้ทราบองค์ประกอบของการศึกษาที่มีตัวร่วมเหมือนกัน โดยเขาได้กำหนดว่า มี ครูผู้สอน ผู้เรียนหรือนักเรียนนักศึกษา หลักสูตร และสิ่งแวดล้อมอันเป็นบริบท (milieu) โดยสามัญลักษณะ คือ


- มีครูและ ครูสอนอย่างไร

- โครงสร้างของความรู้ที่ปรับรูปร่างของหลักสูตร และหลักสูตรก่อให้เกิดผลอย่างไร

- ในมิติของสังคม มีธรรมาภิบาลทางการศึกษาที่กำหนดขึ้น

โดยทั่วไปหลักสูตรประกอบด้วย ความรู้ ทักษะและ คุณค่าของประสบการณ์ทางการศึกษา ที่เป็นตามเกณฑ์ความเป็นเลิศ ที่ทำให้มีค่าควรแก่การศึกษา

สำหรับสิงแวดล้อมกันเป็นบริบท ซึ่งประสบการณ์การเรียนรู้เกิดขึ้น และได้มีอิทธิพลต่อครูและผู้เรียนได้มาร่วมกันให้ความหมายร่วมกันของประสบการณ์ทางการศึกษา

เรื่องของเรื่อง

คำว่าเรื่องของเรื่อง อาจหมายถึงเรื่องของเรื่องต่างๆ ในภาษาอังกฤษก็จะใช้คำว่า Meta นำหน้า ก็จะเป็น meta story ในวงการของนักวิจัย ก็จะมีคำว่า+ meta research ก็จะหมายถึงวิจัยเกี่ยวกับงานวิจัย หรือบางครั้งเรียกว่าสังเคราะห์งานวิจัย ที่เอางานวิจัยในทำนองเดียงกันมาสังเคราะห์ได้ความรู้ใหม่จากการปะติดปะต่อผลงานวิจัยที่เคยทำมา อีกคำหนึ่งที่สอดคล้องกันก็คือ meta science ก็คือการศึกษาว่าวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างไรที่ก่อให้เกิดความรู้ใหม่ เมื่อพูดถึงความรู้ก็จะมีคำว่า meta knowledge กล่าวได้ว่าเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับธรรมชาติของความรู้ และการรู้ (knowing)


ยังมีคำอื่นๆ ทำนองนี้ที่น่าสนใจ เช่นคำว่า meta learning ที่กล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับธรรมชาติของการเรียนรู้ หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้ แต่มีอยู่คำหนึงคือ meta physics ภาษาไทยใช้ว่าอภิปรัชญา จึงทำให้คิดได้ว่าเป็นส่วนของปรัชญา ในทางฟิสิกส์อ ภิปรัชญาจะโต้เถียงกันในปัญหาที่เป็นรากฐานพืนฐานมากที่สุด ซึ่งก็ยังสรุปแน่นอนไม่ได้ ในบางครั้งก็จะศึกษาถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมมองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ด้วยเครื่องมือใดๆ ที่ยังไม่สามารถจะพิสูจน์ยืนยันทางฟิสิกส์ได้ และนั่นทำให้การศึกษาในเรื่องของจิตรูปแบบต่างๆ ก็คิดให้เป็นเมตาฟิสิกส์อย่างหนึ่งได้เหมือนกัน

ชวนขันกับการสนทนาของผู้ชาย

สนทนาระหว่างสองพ่อลูก


ลูก ผมทำคะแนนได้ 100 คะแนน ที่โรงเรียนวันนี้

พ่อ เก่งนี่ แล้วอะไรทำให้ได้คะแนน 100 ละ

ลูก ก็สองอย่าง ผมได้ 50 คะแนนจากการสะกดคำ และอีก 50 คะแนนจากวิทยาศาสตร์


สันทนากันระหว่างชายสองคน

ชายคนที่1 :ใครนะสุภาพสตรีที่สภาพแย่ๆ ที่มุมห้องนั้น

ชายคนที่ 2 :ทำไม นั่นภรรยาผม

ชายคนที่ 1 :โอ้ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น (พยายามแก้ตัวออกจากสถานะการณ์) ผมหมายถึงสุภาพสตรีถัดไปนะครับ

ชายคนที่ 2 : นั่นก็เป็นลูกสาวผม

พืชได้อาหารไนเตรดมาจากไหน

ชีวิตของพืชไม่อาจคงอยู่ได้โดยปราศจากแสงแดด ไนโตรเจน เป็นอาหารหลักของพืช ในบรรยากาศมีไนโตรเจนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่อยู่ในรูปไม่สามารถละลายและไม่สามารถนำมาใช้ได้ ด้วยความร้อนสูงจากฟ้าแลบทำให้ไนโตรเจนรวมกับออกซิเจนในอากาศ ได้เป็นไนโตรเจนออกไซด์ที่สามารถละลายในน้ำและตกลงสู่พื้นโลกพร้อมกับฝนในรูป กรดไนตริกอ่อนๆ ซึ่งจะมีปฏิกิริยากับแร่ธาตุในดินที่จะกลายเป็นไนเตรต ซึ่งพืชต้องการ

ทำจุลสารออนไลน์กันเถอะ

จากการที่ได้ทดลองนำ Sites ของ google มาประยุกต์ใช้ การประยุกต์ใช้เป็นจุลสารออนไลน์ ทำได้ง่ายที่สุดไม่ต้องมีความรู้อะไรมากนัก เพียงรู้ว่าจะใส่ข้อมูลแต่ละบทความอย่างไร เรียกมากแก้ไขอย่างไร นอกจากนั้น google sites จัดการให้หมด ถ้าหากว่ามีบทความที่จะลงจุลสารไว้เรียบร้อยแล้ว นำมาใส่ใน site ของ google จุลสารเล่มหนึ่งก็ใช้เวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้น หากท่านใดสนใจที่จะทำจุลสารออนไลน์หรืออีบุค คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับกองทุนคณะวิทยาศาสตร์จะจัดอบรม รุ่น 1 วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม และรุ่น 2 วันที่ 20 ธันวาคม ผู้สนใจติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่สำนักงานคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และห้องบริการสารสนเทศ 13104 ศูนย์วิทยาศาสตร์


นอกจากจะใช้ site ในการทำเว็บไซต์ทั่วไปได้ แล้วยังดัดแปลงไปเป็น อีบุค หรือนังสือออนไลน์ วารสารออนไลน์ ซึ่งขณะนี้กำลังจัดทำรูปแบบ เป็นจุดสารออนไลน์ เพื่อให้สามารถแสดงฉบับปัจจุบันออนไลน์ ที่หน้าหลัก ส่วนฉบับที่ผ่านมาให้แสดงไว้ในเมนูด้านข้าง ที่สามารถคลิกหาอ่านได้ ที่ได้ทดลองทำเป็นจุลสารออนไลน์ ที่ให้ชื่อเว็บไซต์ว่าวิทยาศาสตร์ศึกษาตึกดำมหาชัย ชื่อจุลสารวิทยาศาสตร์ศึกษา ตอนนี้กำลังทำฉบับที่สอง ทดลองเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ http://sites.google.com/site/scednstru

ทางออกประชาธิปไตย

การก้าวเข้ามาของระบอบสังคมนิยมอันเป็นทางเลือกที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมเสมอภาคกัน แต่ในทางปฏิบัติกลับยิ่งสร้างความไม่เสมอภาคระหว่างผู้มีอำนาจและอยู่ใต้อำนาจ และไม่มีแรงจูงใจในการผลิต ทำให้สังคมนิยมหลักๆ ต้องดัดแปลงต้องเปลี่ยนแปลง โดยเอามิติเศรษฐกิจที่ใช้อยู่ในประเทศเสรีประชาธิปไตยไปใช้ และเราก็พบว่าระบอบเสรีประชาธิปไตยที่ไม่มีศิลธรรมกำกับอย่างเข้มงวด ก็จะเดินหน้าไม่ได้ ยังมีลักษณะของผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบรักษาผลประโยชน์ของพวกพ้องแทนที่จะเป็นไปเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ และระบอบเสรีประชาธิปไตยจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงก็ต่อเมื่อ คนเกือบทุกคนในประเทศนั้นๆ ต้องเข้าใจประชาธิปไตยคืออะไร


ปัจจุบันกล่าวได้ว่าประชาธิปไตยก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริงยังมีลักษณะของความขัดแย้งในตัวเอง ที่จะนำไปสู่การทำล้ายล้างตัวเอง เพราะระยะหลังนั้น เราก็เริ่มคิดได้ว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นผู้ติดอยู่กับวัตถุนิยมเป็นส่วนใหญ่ยังมุ่งเน้นความเจริญทางเศรษฐกิจ การได้การมีวัตถุนำมาสู่ความมั่งคั่ง ซึ่งโดยหลักการของประชาธิปไตยต้องการกระจายความมั่งคั่ง กระจายความรับผิดชอบไปสู่คนส่วนใหญ่เป็นไปในแนวราบ แต่ในระบบเศรษฐกิจที่เราใช้นั้น ทุนนิยมได้รับการสนับสนุนส่งเสริมกันมาตลอด จนเติมใหญ่และสร้างปัญหา เพราะทุนส่วนใหญ่ไม่ได้มีคุณธรรมจริยธรรมอย่างเข้มงวด แต่ต่อสู้ฟาดฟันกัน รักษาผลประโยชน์ และผลกำไรสูงสุดเป็นที่ตั้ง ทำให้แนวทางของทุนนิยมไปในทางผูกขาด ในลักษณะแนวดิ่งแทนที่จะกระจายไปในแนวราบ จะเห็นว่าในแนวทางหลักการประชาธิปไตยก็ขัดแย้งกันเอง จนทำให้คิดได้ว่าเป็นการพัฒนาไปในการทำลายล้างตัวเอง

ยิ่งพิจารณาทุนนิยมและวัตถุนิยมที่เป็นอยู่ โดยไม่มองมิตินามธรรมในด้านจิตใจ ที่เป็นบ่อเกิดของวิกฤตทุกอย่างให้เป็นไป อันเป็นแรงผลักดันให้เกิดทุนและวัตถุนิยม แต่ได้รับการส่งเสริมน้อยมาก ทำให้ทั่วโลกมีปัญหาในด้านคุณธรรมหรือ ศิลธรรมมาก แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงหรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ให้ทรงพระราชทานมาให้แก่ปวงชนชาวไทยน่าจะเป็นทางออกของประชาธิปไตยของประเทศเราที่จะต้องมีคูณธรรมหรือธรรมะ เป็นตัวกำกับอย่างเข้มงวด ซึ่งดูหลักการทางเศรษฐกิจพอเพียง ดังในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้น กล่าวได้ว่าเนื้อแท้ก็คือหลักการทางศิลธรรม คุณธรรมที่พึงมี แต่ได้ขาดหายไปเป็นเวลานาน สอดคล้องกับที่ท่านพุทธทาส ได้กล่าวไว้ชัดว่า หากศิลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ

เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากภาพยนต์กันเถอะ

ดังที่เราทราบการเรียนรู้เพื่อความเข้าใจภาษาต่างประเทศได้ดีที่สุดก็คือใช้ภาษาในชีวิตประจำวันในทุกเรื่อง ดังเราจะเห็นได้จากคนที่มีแฟนเป็นชาวต่างประเทศ ที่กินอยู่กับเขาตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้ภาษาในการสื่อสารให้เข้าใจ พบว่าคนกลุ่มนี้จะเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้ดี สามารถพูดสื่อสารได้ อันแสดงว่าฟังประกอบท่าทางแล้วเข้าใจจึงตอบโต้สื่อสารได้ ซึ่งถือว่าเรียนรู้ภาษาในแง่การฟังและพูดได้ดี ส่วนการอ่านและเขียนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นกับความรู้พื้นฐานที่มีมาก่อนมากน้อยแค่ไหน


สำหรับคนทั่วไปจะมีโอกาสการเรียนรู้ทางภาษาแตกต่างกัน หากไม่สามารถที่จะใช้ภาษาได้ดังเช่นคนที่เป็นคู่รัก เพื่อนสนิท หรือความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ภาพยนต์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถเรียนรู้ การฟัง การพูด และการอ่าน ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะถ้าฟังรู้เรื่องแล้วก็มีโอกาสที่จะพูดตอบโต้ได้ถูกต้อง ถ้าฟังไม่รู้เรื่องแล้วโอกาสที่จะพูดก็น้อยลง สรุปก็พูดไม่คล่องอยู่ดี แต่เมื่อดูภาพยนต์แล้วเข้าใจ ก็อาจนำไปใช้พูดได้ และขณะเดียวกันในภาพยนต์ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษที่ต้องแสดงภาษาเขียนที่เราจะต้องอ่านอยู่ไม่มากก็น้อยในภาพยนต์แต่ละเรื่อง ยิ่งภาพยนต์ที่มีคำบรรยายเสียงพูดที่ตรงกับเสียงพูดดังที่เรียกกันว่า english subtitle ก็จะทำให้เรียนรู้เข้าใจภาษาพูด และฟังได้เข้าใจมากขึ้น

การใช้ภาพยนต์เป็นสื่อในการเรียนรู้ ใหม่ๆ ก็เลือกภาพยนต์ที่เราชอบ หรือเรื่องที่ดูได้หลายครั้งก็ยังสนุกอยู่้ หรือบางเรื่องที่เคยดูว่าดี แต่ลืมไปเกือบหมดแล้ว ก็สามารถนำมาดูใหม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนต์ที่พูดอังกฤษ บรรยายอังกฤษ และที่น่ายินดีก็คือว่ามีภาพยนต์ให้ดาวโหลดที่อัดบีบข้อมูลสามารถบันทึกลงบนแผ่นวีซีดีเพียงแผ่นเดียวรวมคำบรรยายภาษาอังกฤษ ซึ่งเรียกวีดีโอชนิดนี้ว่าเป็นรูปแบบ DIVX หากต้องการดูภาพยนต์รูปแบบนี้สามารถขอดูตัวอย่างได้ที่ ศูนย์บริการสารสนเทศศูนย์วิทยาศาสตร์ ห้อง 13104 โดยกองทุนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับบริจาคมาจำนวนมาก สำหรับให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้บล็อก

เนื่องจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับบริจาค จากบุคคลและจากสถาบันต่างๆ จำนวนมาก จึงเห็นแนวทางการนำเว็บบล็อกของ google มาใช้ในการบันทึกสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่เพื่อให้ง่ายในการสืบค้น โดยสามารถสืบค้น ผู้เขียน คำหลักหรือคำหลักที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้จัดแบ่งเป็นหมวดหมู่โดยใช้ป้ายกำกับหรือ label สามารถคลิกเลือกเรื่องที่ต้องการได้ทันที


สื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้บริการอยู่ในรูปของซีดี ดีวีดี อีบุค และบทความในวารสาร โดยกำหนดรหัสดังนี้ ถ้าเป็นซีดี จะขึ้นต้นด้วยตัว c เป็น ดีวีดีขึ้นต้นด้วย d อีบุคขึ้นต้นด้วย b สำหรับบทความวารสารขึ้นต้นด้วย ตัวเลข ถ้าขึ้นต้นด้วยเลข0 จะเป็นบทความเป็นภาษาอังกฤต ขึ้นต้นตัวเลขธรรมดาก็เป็นบทความหรือวารสารตามปกติ

ในการบริการผู้ที่สนใจค้นหาสื่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องการที่ โฮมเพจซ์ของบล็อก http://nakhonmedia.blogspot.com โดยชื่อโฮมเพจซ์ว่า สื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัย ต้องการสื่อสิ่งพิมพ์ใดก็ค้นดูที่ช่องค้นของบล็อก หรือกวาดดูตามหมวดในลาเบล ต้องการสื่อใดก็จดหมายเลขรหัสหนาสื่อนั้นมาที่ หน่วยบริการสารสนเทศศูยน์วิทยาศาสตร์ ห้อง 13104

ฐานข้อมูลสื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัย จัดทำโดยกองทุนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้รับความอนุเคราะห์การคีย์ข้อมูลจากนักศึกษา ศิษย์เก่า เพื่อให้มีสื่อใหม่ๆ มาให้บริการจึงหวังว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากผู้มาขอรับบริการให้กองทุนเท่าไรก็ได้ตามแต่ศรัธา

ภาวะโลกร้อนที่ไม่ธรรมดา

ในบล็อกที่ฝนไม่ตกในวันลอยกระทงนับเป็นเรื่องแปลก แต่พอเขาสู่อีกวันฝนก็เริ่มตกติดต่อกันจนถึงวันนี้ จากที่คาดว่าถ้าฝนไม่ตกก็จะนับว่าเป็นปีที่แห้งแล้งมาก อย่างไรก็ตามฝนก็ตกลงมาทำให้บางท้องที่น้ำท่วม ถนนบางสายรถไม่สามารถวิ่งได้ ขณะนี้ฝนก็หยุดตกไปแล้ว ที่คาดเดาว่าฝนจะตกน้อยและแห้งแล้งในปีนี้ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ก็มีกระแสว่า ถ้าไมแล้งมากก็ฝนก็จะตกมากกว่าปกติน่าจะน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้ก็เป็นได้


อย่างไรก็ตามผลกระทบจากภาวะโลกร้อน สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่ถ้าคิดง่ายๆ ว่าปริมาณน้ำแข็งแถบขั้งโลกละลายมากก็ย่อมมีน้ำระเหยกลายเป็นไอหมุนเวียนขึ้นสู่บรรยากาศ ประกอบกับทะเลมหาสมุทรในบริเวณนั้นได้รับความร้อนมากขึ้นเพราะน้ำแข็งละลายไปเกือบหมด ทำให้ไม่มีการสะท้อนรังสีความร้อนออกไปนอกโลก มีผลทำให้เกิดพายุใหญ่มากขึ้นได้

จากการสำรวจไม่ไม่นานมานี้ว่าบ้านอาคารที่สร้างแถบขั้วโลกนั้น คลอนแคลน ฐานรากยุบตัวอันเนื่องจากน้ำแข็งที่อยู่ใต้ดินละลายไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน และที่เกรงกันมากก็คือว่าน้ำแข็งถาวรที่อยู่ใต้พื้นดินนั้น ถ้าละลายมากขึ้นการปิดกั้นแกสมีเทนที่เกิดจากการสะสมจากการสลายตัวของพืชบางชนิดเช่นพวกมอส เพราะบริเวณนี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย และแกสมีเทนนั้นมีคุณสมบัติเป็นแกสเรือนกระจกได้ดีกว่าแกสคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า ก็เท่ากับว่าจะทำให้โลกร้อนมากยิ่งขึ้นความแปรปรวนผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการเกิดพายุใหญ่มากยิ่งขึ้น และมีหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดเดาไม่ได้

กรณีปลา หอย ตายเป็นแพที่พัทยา แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะบอกว่ามีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของน้ำทะเลที่มีน้ำจืดเข้าไปผสมมากเกินไป ทำให้สัตว์น้ำดังกล่าวตายไป ที่อาจมีผลมาจากการที่ฝนตกมากเกินไป แต่ยังไงก็ยังอดไม่ได้ว่ายังน่ามีผลจากสาเหตุอื่นๆ และส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความแปรปรวนของผลกระทบจากภาวะโลกร้อนส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งเราคงต้องตระหนักในเรื่องนี้และศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไป

วันลอยกระทงเมื่อน้ำไม่เต็มตะลิ่ง

ทุกปีมาวันลอยกระทงก็จะมีฝนตกให้เห็นอยู่บ้าง หนักบ้างเบาบ้างก็จะมีให้เห็นเป็นระยะ หน้าเขาวันนี้ปีนี้ก็ตั้งเค้ามาเหมือนจะตกหนักแต่ก็ไม่ตกให้เห็นกลับไปตกในบริเวณอื่นๆ แต่ก็คงไม่มากเพราะไม่เห็นบริเวณใดเจิ่งนองไปด้วยน้ำ หลายคนสรุปว่าปีนี้น้ำน้อย กว่าทุกปี จึงคิดพยากรณ์กันล่วงหน้าว่าปีนี้น่าจะแห้งพอควร พืชที่ต้องการน้ำเช่นปาล์มอาจจะให้ผลผลิตไม่ดี แต่สำหรับชาวสวนยางกลับเป็นผลดีที่ฝนตกไม่มากเพราะสามารถตัดยางได้ ประกอบกับราคายางอยู่ในอัตราที่ดี งานนี้ชาวสวนยางรับไปเต็มๆ


ปีนี้มหาวิทยาลัยของเราไม่ได้จัดงานวันลอยกระทง ไม่มีงานรื่นเริง การประกวดกระทงนางนพมาศ เหมือนปีที่ผ่านมาก็ดูเงียบเหงาไปเหมือนกัน หลายคนก็ว่าเราเป็นมหาวิทยาลัยศิลปวัฒนธรรมไม่น่าจะพลาดงานนี้ ก็คงจะจัดให้ได้ดีลำบากเพราะบังเอิญวันลอยกระทงตรงกับวันเปิดเรียนวันแรก นักศึกษายังไม่พร้อมเพรียงเพราะนักศึกษาส่วนหนึ่งอาจยังเดินทางมาไม่ถึง ก็นับว่าน่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยไม่ได้แสดงบทบาทส่วนนี้ อย่างไรก็ตามก็ได้ข่าวว่ามีการจัดงานลอยกระทง ได้จัดงานลอยกระทงมีมหรสพ ที่บริเวณคลองหนองขอนเลยวัดป่ายางไปเล็กน้อย ก็คงมีนักศึกษาบุคลากรมหาวิทยาลัยได้ไปร่วมงานนี้บ้าง

ที่ฝนไม่ตก เป็นไปได้ว่าอาจเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ที่ทำให้ภูมิกาศของโลกบริเวณนี้เปลี่ยนแปลงไป เมือก่อนอาจจะมีป่ารกทึบยังไม่ถูกทำลายไปมากนักื ปัจจุบันป่าที่จะเป็นที่กักเก็บน้ำก็กักเก็บได้น้อยลง แม้จะมีฝนตกบ้างแต่ก็ไหลลงเร็วทำให้ขาดความชุ่มชื้น ที่เด่นชัดสำหรับที่น้ำตกพรหมโลก จากที่น้ำเคยท่วมหินบางบริเวณเกือบหมดมาปีนี้ก็จะเห็นโผล่เรียงรายให้เห็น การที่ฝนไม่ตกตามฤดูกาลและมีปริมาณน้อยก็น่าจะเป็นตัวที่บ่งชี้ให้ทราบว่าน่าจะมีผลกระทบจากการขาดน้ำอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ได้เตรียมป้องกันไว้บ้างก็ดีด้วยความไม่ประมาท

ควันหลงงานทอดกระถิน

ได้มีโอกาสไปร่วมการทอดกฐิน อันเป็นประเพณีเก่าแก่ที่มากับพุทธศานา ซึ่งจะไม่กล่าวถึงที่ไปที่มา เท่าที่ไปเห็นไปได้ยินมาก็แล้วกัน เพราะกิจกรรมตามประวัตินั้นไม่เหมือนกับการปฏิบัติ ในทางปฏิบัติถ้ามีการจองกฐินว่าจะไปทอดวัดใด กำหนดวันแล้วก็มาเรียไร่เงินทำบุญกัน โดยนำเงินมาติดเป็นพุ่ม บางทีก็มีการตกแต่งพับเงินให้สวยงาม มีกระดาษดอกไม้ประดับสวยงามก็มี


เมื่อพุ่มกระถิ่นไปถึงวัด มีการแห่พุ่มกะฐินไปรอบโบสถ์ สามรอบมีรำวงกลองยาว เมื่อครบแล้วก็มีการทำพิธี แบบโบราณที่เรียกว่า กรานกฐิน ส่วนปัจจัยที่นำเงินมาติดเป็นพุ่มก็มีการดึงออกมานับ และแจ้งยอดให้อุบาสกอุบาสิกา ที่มาร่วมทำพิธี มีบางพุ่มไม่ได้ถอดเงินออก ก็มีคนเล่าให้ฟังว่าเขาทอนกฐินแล้ว ซึ่งหมายถึงได้นับเงินทั้งหมดไว้แล้ว และได้มอบเงินให้วัดไว้ตามจำนวนเงินที่มีอยู่ในพุ่มกฐิน แล้วนำพุ่มกฐินดังกล่าวไปทอดกฐินที่วัดอื่นได้อีก

ออกจากวัดได้ไม่นานก็ได้ยินกระแสข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับการทอดกฐินที่ว่ามีบางวัดเมื่อนับเงินเสร็จแจ้งยอด แล้วถูกปล้นเอาเงินไปก็มี ส่วนที่เงินหายไประหว่างการเรืยไร่จัดพุ่มไว้ก็มี ตามกระแสข่าวมีอยู่ว่ามีชายคนหนึ่งทำทีว่าจะนำเงินไปเสียบเป็นพุ่มกฐิน แต่เมื่อเห็นไปละพันบาทเสียบอยู่ก็แอบดึงออกไปหลายไป แล้วหนีไปแต่ชาวบ้านก็ไล่ทันเอาเงินคืนมาได้ พอพูดถึงเรื่องการขโมยเงินกฐิน ปีที่แล้วก็มีกรณีที่สำนักงานคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเงินติดพุ่มกฐินไว้เป็นที่ล่อตาล่อใจเด็ก ก็มาแอบปีนเข้ามาในตึกเพื่อจะขโมยเงินนี้แต่ก็ถูกยามจับได้ จะเห็นว่าแม้แต่เงินทำบุญก็ยังมีคนกล้าที่จะขโมย ปล้นเอาไป เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงสำหรับบางคน คงเป็นตัวบ่งชี้ถึงสังคมที่เสื่อมลงไปที่จะต้องเร่งรีบ พลิกฟื้นให้ศิลธรรมกลับมามากกว่านี้

ความหมายที่เกี่ยวกับกฐิตก็มีความหมายไปในทางที่ไม่ดี เช่นคำว่า จองกฐิน และกฐินสามัคคึ บางครั้งความหมายกลับหมายถึงเหมือนกับว่าเตรียมการที่จะร่วมกันทำร้ายใครบางคน แทนที่จะร่วมด้วยช่วยกันทำบุญกุศล เช่นเดียวกับคำว่าลงแขกที่มีความหมายไปทางที่ไม่ดีเหมือนกัน เป็นไปได้หรือไม่ที่ความหมายที่เพี้ยนไปเป็นตัวบงชึ้ถึงสภาพสังคมที่ตกต่ำลงไป เพราะมีการนำไปใช้ทางที่ไม่ดีมากขึ้น

วิธีการเชิงระบบและการแก้ปัญหาเชิงรุก

ปกติแล้ววิธีการเชิงระบบนั้น เข้าใจว่าเป็นการมองปัญหาให้รอบด้านดูความสัมพันธ์ที่อาจมีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานใดงานหนึ่ง โดยทั่วไปต้องมีการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อพิจารณาค้นหาความต้องการ ความจำเป็น และทางเลือกใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพ เพื่อการพัฒนา และตั้งแต่เรามีแผนยุทธศาสตร์มาการใช้คำในการดำเนินงานตามแผนที่มีการกำหนดแนวทาง และวิธีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าโดยไม่รอให้ปัญหาเกิดเสียก่อนว่าวิธีการเชิงรุก เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อแผนยุทธศาสตร์ ที่แปลตามตัวว่าแผนการรบ เพื่อการแก้ปัญหา เพื่อการพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นการแก้ปัญหาเชิงรุกจึงไม่ใช่การรุกรบจริงๆ แต่เป็นความพยายามที่จะแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดปัญหาจริงๆ หรือเป็นความพยายามที่จะสร้างสิ่งดีๆ ความพยายามที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันนำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต


การทำงานเชิงรุกไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยการแจกเงินที่นักการเมืองชอบใช้ช่วงหาเสียง แต่เป็นการใช้เงินเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสียมากกว่า ตัวอย่างงานกิจกรรมเชิงรุกที่มีการดำเนินการเช่นว่า สำหรับคนตั้งครรภ์ก็มีการแจกคู่มือการดูแลครรภ์ และการเลี้ยงดูเด็กอ่อนหรือทารก อาจระบุให้มีการสังเกตดูการพัฒนาการของเด็ก เมื่อมีอะไรที่ผิดปกติก็จะได้แก้ไขได้ทันหรือลดบรรเทาปัญหาลงได้ เช่นมีอาการแบบนี้ต้องไปพบแพทย์ อาจจะมีชุดฝึกกล้ามเนื้อทั้งผู้ตั้งครรภ์ และสำหรับเด็ก มีคู่มือสำหรับครู โรงเรียนเมื่อเข้าโรงเรียน และโรงเรียนรับให้เข้าเรียน

ที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ยังมีอีกหลายอย่างที่สถาบันอุดมศึกษาสามารถทำได้โดยการวิจัย เช่นเมื่ออายุ 35 ปีก็มีคู่มือสำหรับบุคคลวัยกลางคน ที่มีรายละเอียดว่าวัยนี้ควรจะดูแลสุขภาพใดบ้าง สำหรับคนวัย 50-60 ปีก็จะมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพ เตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ และเมื่อเกษียณแล้วก็จะมีคู่มือสำหรับผู้เกษียณ และบ้านหลังใดมีคนที่อายุเกิน 60 ปีก็จะได้รับคู่มือการดูแลผู้สูงอายุ สำหรับบุตรหลานที่กำลังจะแต่งงาน ก็น่าจะมีคู่มือสำหรับคู่สมรส ให้ทราบรายละเอียดในสิทธิ์ ต่างๆ ตั้งแต่ของหมั้นสินสอด การจดทะเบียนสมรส ทำอย่างไรบ้าง มีคู่มือดูแลสุขภาพสำหรับคู่สมรส โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล วันจดทะเบียนควรได้รับการดูแลสุขภาพ เมื่อคลอดลูกคนแรกก็ควรจะถามหาคู่มือการเลี้ยงดูเด็ก หรือรพ.ควรจะวางคู่มือไว้ มีวีดีโอ ดีวีดี เปิดดูได้สำหรับวิธีการเลี้ยงดูลูกไว้ให้ดู

เมื่อเริ่มมีฐานะที่จะสร้างบ้านได้ ในการสร้างบ้านก็ควรจะมีคู่มืออะไรบ้าง เพื่อให้ได้บ้านตามที่ตัวเองต้องการ และดูแลสิ่งแวดล้อมได้ เพราะเจ้าหน้าที่พนักงานผู้รับเหมา นั้นเขาจะทำตามแบบแปลน ฉะนั้นคนที่จะเป็นเจ้าของบ้าน ควรจะได้เตรียมการก่อนสร้างบ้าน หารูปแบบอันเป็นทางเลือกดีๆ วางแผนดูความเป็นไปได้ วิเคราะห์ความเสี่ยงเสียก่อน แล้วปัญหาต่างๆ ในชีวิตครอบครัวก็จะเกิดน้อยที่สุดอันเนื่องจากการใช้วิธีเชิงระบบและการแก้ปัญหาเชิงรุกนั่นเอง

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

สเป็คเชี่ยลเอ็ฟเฟ็คในอวตาร

ในบล็อกที่แล้วมาได้พูดถึงภาพยนต์แห่งปีซึ่งต่างก็มีความยิ่งใหญ่เมื่อได้ดูแต่เบื้องหลักการถ่ายทำอันเป็นสเป็คเชี่ยลเอ็ฟเฟ็ค ซึ่งมีบริษัทดำเนินการคือบริษัท ILM ก่อตั้งโดย จอร์จ ลูกัส ซึ่งภาพยนต์ในแนวนี้เกือบทุกเรื่อง สเป็คเชี่ยลเอ็ฟเฟ็คเกือบทุกเรื่องบริษัทนี้เป็นผู้ทำทั้งสิ้น บริษัทนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1975 แล้ว ภาพยนต์แนวนี้จึงเกิดขึ้นหลังปี 1975


ถ้าใครได้ดูหนังเรื่อง Avatar ซึ่งมีผู้แปลว่าอวตาร ก็จะรู้ความหมายคำว่าอวตารว่าเป็นอย่างไร ความจริงแล้วก่อนที่จะมีภาพยนต์เรื่องนี้ก็มีภาพยนต์เรืองอื่นที่ในความหมายเดียวกับอวตารก็คือเรื่องเซอรเรเกต ซึ่งนำแสดงโดยบรูส วิลลิส ที่ใช้วิธีการโคลนนิ่งคนออกไปทำงาน โดยมีคนตัวจริงนอนอยู่กับบ้าน ตอนนั้นไม่ได้เรียกว่าอวตารแต่เรียกว่าการโคลนนิ่ง สำหรับเรื่อง avatar หรืออวตารนั้นก็เป็นไปในทำนองเดียวกันที่ตัวจริงนอนอยู่ในเครื่องมือควบคุมการอวตาร ซึ่งมีการโคลนนิ่งระหว่างคนและมนุษย์ต่างดาวแพนโดร่าเข้าด้วยกันเพื่อไปเรียนรู้มนุษย์ต่างดาว ตัวโคลนนิ่งจะมีชีวิตได้ก็ต่อเมื่อคนจริงต้องไปอยู่ในเครื่องมือ ถ้าปิดการเดินเครื่องมือควบคุมเมื่อใดตัวโคลนนิ่งก็จะหมดชีวิตไปทันทียุติการอวตารเช่นกัน อันนี้เป็นความหมายของอวตารตามเรื่องอวตาร

ด้วยเทคนิคการถ่ายทำที่ลำลึกไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้เหมือนจริงขนาดนั้น แม้แต่ตัวละครกราฟิกส์ก็สมจริงสมจังสามารถแสดงสีหน้าท่าทาง และอารมณ์ได้เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง ที่ทำได้เช่นนี้นั้นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีตัวตรวจจับต่างๆจากคนจริงก่อนที่จะถ่ายทอดให้กับตัวละครกราฟิกส์แอนนิเมชั่้น

ภาพยนต์ทำนองนี้ไม่ใช่เพิ่งมีมาแต่ได้ปรับปรุงให้สมจริงมากขึ้นๆ ถ้าเราย้อนกลับไปดูไม่ว่าในเรื่องเอเลียน คิงคอง จูราสิคพาร์ค ทรานสฟอร์เมอร์ อินเดียน่าโจนและอีกหลายๆ เรื่องในแนวนี้ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกส์มาช่วยสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ แต่ที่ต่างกันก็คือเรื่องหลังๆ นั้นจะมีเทคนิคที่ดีขึ้นดูสมจริงสมจังมากขึ้น

ภาพยนต์แห่งปีบทบาทอยู่ที่ใคร

ดังที่ทราบกันแล้วว่าภาพยนต์เรื่อง วันสิ้นโลก 2012 ได้จินตนาการออกมาเป็นภาพยนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ถึงภัยพิบัติที่จะเป็นวันสิ้นโลกได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ซึ่งแน่นอนว่าโดยอาศัยการช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์กราฟิกและแอนิเมชั่น ที่ผสมผสานกับการการแสดงของนักแสดง จนทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้ลบสถิติภาพยนต์ที่เคยทำรายได้สูงสุด และที่น่าจะเป็นภาพยนต์แห่งปีได้อีกเรื่องหนึ่งที่ใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกแอนนิเมชั่นที่น่าจะเป็นภาพยนต์แห่งปีอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังฉายอยู่ตามโรงภาพยนต์ใหญ่ขณะนี้ก็คือเรื่อง Avatar


ที่จัดให้หนังเรื่องอะวาทาร์น่าจะเป็นหนังแห่งปีอีกเรื่องหนึ่งก็เพราะว่าความยิ่งใหญ่ จากที่ยังจำกันได้ผู้กำกับภาพยนต์ เจม คาเมรอน ในภาพยนต์ไทยทานิกที่เป็นภาพยนต์แห่งปีที่ผ่านมา จากเรื่องนั้นทิ้งช่วงมาเป็นเวลาถึง 10 ปีที่คาเมรอนได้ไปซุุ่มเพื่อสร้างสรรค์ภาพยนต์เรื่องใหม่ที่ชื่อ Avatar ที่เอง เป็นนำเอาเทคนิคกราฟิกคอมพิวเตอร์แอนนิเมชั่นมาผสมผสานจนดูไม่ออกว่าอันไหนจริงอันไหน ทำให้ดูเหมือนว่าเอาคนจริงๆ มาแต่งให้เหมือนแต่ในความเป็นจริงเป็นคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ทั้งสิ้น

เป็นภาพยนต์ที่จินตนาการไปไกลในดาวแพนโดราที่อยู่ห่างไกลจากโลกไป 300 ปีแสงจากโลก ในดาวดวงนี้มีความตรงข้ามกับโลกที่ภูเขาลอยอยู่บนฟ้า มนุษย์ต่างดาวที่ต่อสู้กับหุ่นยนต์ มียานยนต์หุ่นและสัตว์บนดวงดาวที่ยังคงเป็นอยู่ตัวละครบนดาวดวงนี้แตกต่างไป แต่แสดงอารมณ์ อาการสีหน้าท่าทางได้เหมือนกับคนที่บอกไม่ถูกว่าใช้คนจริงแสดงหรือไม่ดังกล่าวแล้ว เบื้องหลังการถ่ายทำหรือเทคนิคการถ่ายทำนั้น ใช้เทคนิคที่เรียกว่า motion capture Mirror emotion ที่ทำให้ตัวละครกราฟิกส์ที่สร้างขึ้นแสดงอารมณ์ท่าทางได้เหมือนคนทุกประการ ในการสร้างสรรค์ส่วนนี้ต้องใช้คนจริงในการแสดงอารมณ์ต่างๆ ใช้เครื่องมือที่มีเซนเซอร์มาตรวจจับถ่ายทอดไปยังตัวละครกราฟิกส์ได้เหมือนทุกประการ เครื่องมืออันซับซ้อนที่ใช้นี้จะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงแบบไฮเอ็นเป็นตัวช่วย เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดนั่นเอง

ก้าวทันคอมพิวเตอร์

ที่ผ่านมาเราเริ่มจะคุ้นเคยกับความเร็วคอมพิวเตอร์จากสัญญาณนาฬิกาที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ ยิ่งความถึ่ควบคุมสูงมากก็จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็ว บางครั้งก็วัดความเร็วคอมพิวเตอร์ด้วยความถี่สัญญาณนาฬิกาที่ใช้ควบคุม แต่ยิ่งมีความถึ่สูงเท่าใดก็ยิ่งทำให้เกิดความร้อนสูงมากขึ้นเท่านั้น ต้องใช้ซิงค์และพัดลมระบายความร้อนโตขึ้น ซึ่งก็เสี่ยงต่อเสียหายหากพัดลมทำงานผิดปกติเพราะความร้อนขึ้นสูงเกินไป สัญญาณนาฬิกาที่ใช้กันทั่วไปอยู่ไม่เกิน 3-4 GHz ซึ่งจำกัดอยู่แค่นั้น แนวทางการพัฒนาจึงไม่เน้นให้ให้ความถึ่สูงขึ้นไปกว่านี้อีก แต่เพิ่มความเร็วด้วยการใช้ซีพียูทำงานหลายตัวพร้อมกัน โดยการช่วยกันทำงานแง่งการทำงานก็ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น ดังที่เรียกว่าดับเบิลคอร์หรือดูเอลคอร์(double or dual core) ซึ่งหมายถึงการใช้ซีพียูสองตัวผนึกอยู่ในตัวถังเดียวกัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 4 ตัว และอาจไปถึง 8 ตัวที่ต้องใช้ความเร็วมากขึ้นเพื่อไม่ให้ความร้อนเพิ่มสูงมากขี้น


องค์ประกอบอื่นๆ ที่อาจมีส่วนทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น ตั้งแต่ชิปไอซีที่ควบคุมการทำงานทั้งหลายทั้งด้านอินพุทเอ้าพุท ที่มีบัสภายในอันเป็นทางวิ่งของข้อมูลที่ความเร็วเพิ่มสูงขึ้น หน่วยความจำภายในที่เพิ่มสูงขึ้นสอดคล้องกับความเร็วบัส ส่วนความจำภายนอกอันได้แก่ความจำสำรองในรูปของฮาร์ดดิสค์ได้พัฒนาให้มีความจุสูงขึ้นมาก ความเร็วมากขึ้น ขนาดก็เล็กลง และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายผ่านทางทางพอร์ทยูเอ็สบี หรือจะติดตั้งไว้เป็นหน่วยความจำสำรองหลักภายในเครื่อง ขณะนี้ได้พัฒนาฮาร์ดดิสค์มากกว่าเทอร์ราไบท์ และที่พัฒนาให้เร็วมากได้ที่เรียกว่า SSD (Solid State Drive) และเร็วกว่าฮาร์ดดิสค์ ถ้าจะให้มีความจุสูงมากเท่าฮาร์ดดิสค์ก็จะราคาแพงมากเกินไป ความจุที่วางจำหน่ายจึงอยู่ในระดับไม่เกิน 100 Gb แต่มีข้อดีที่ไม่มีส่วนเคลื่อนไหว ไม่มีมอเตอร์ ทนต่อแรงกระแทกเมื่อตกจากที่สูงได้ แต่ราคายังสูงมากอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับการแสดงผลด้วยจอภาพแอลซ๊ดี (LCD:Liquid Crystal Display) มีใช้กันทั่วไปด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นรวมทั้งเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิทัลที่ให้ความคมชัดมากขึ้น ดังที่ส่งผลไปยังระบบโทรทัศน์จอLCD ที่เพิ่มรายละเอียดสูงขึ้นในแนวตั้งถึง 1080 จุดผ่านทางพอร์ทหรือจุดเชื่อมต่อ HDMI ขณะเดียวได้มีการพัฒนาจอภาพอีกชนิดที่เรียกว่าแอลอีดีแบล็คลิท (Led Blacklit) ซึ่งให้ความคมชัดสดใสมากกว่าโดยหลักการของจอภาพชนิดใหม่ให้แสงจากหลอดLed แทนที่จะเป็นแสงจากฟลูออเรสเซ็นต์เหมือนจอแอลซีดีที่ใช้กันทั่วไป และขณะนี้จอภาพที่วีและจอภาพแสดงผลคอมพิวเตอร์แบบ LED Blacklit ก็เริ่มวางจำหน่าย และเข้าใจว่าน่าจะเริ่มใช้จอภาพแบบใหม่นี้ในราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อย ก็จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแน่นอน ดังที่ปรากฏในพีซีบางรุ่นและในคอมพิวเตอร์ MaxBook ในขณะนี้

ความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลงที่ควรจะเป็น

เมื่อขึ้นปีใหม่เราก็คาดหวังที่จะทำอะไร ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม บางคนก็ตั้งความหวังไว้ว่า เมื่อขึ้นปีใหม่จะทำอะไรที่ไม่เคยทำ หรือจะเลิกทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดี ซึ่งนับว่าเป็นความตั้งใจที่ดีที่ต้องการเปลี่ยนแปลง สำหรับองค์กรในหลายที่ถึงกับมีการบริหารการเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผู้รับผิดชอบ เป็นการเฉพาะ และที่มีควบคู่กันไปก็คือการบริหารความเสี่ยง เพราะการเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งความเสี่ยง อย่างไรก็ตามถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยก็มีความเสี่ยงในแง่ที่ว่า ไม่มีอะไรที่พัฒนาให้ดีขึ้นก็ยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเท่ากับการถอยหลังหรือล้าหลังผู้อื่น เพราะที่เขาก้าวหน้าพัฒนาต่อไปได้ก็เพราะ เขามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่าเดิม ดังที่มีผู้กล่าวไว้เป็นคำให้คิดก็คือ “การเสี่ยงมากที่สุดก็คือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย ”


เราจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากมายมีการปรับตัวไปตามสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้สามารถคงอยู่ ต่อไป ฉนั้นกล่าวได้ว่าโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตเป็นโครงสร้างที่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นโครงสร้างชั่วคราว ที่พร้อมจะเปลี่ยนไปตามความต้องการและความจำเป็น เช่นเดียวกับองค์กรที่ระบบต่างๆจะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะปลดปล่อยออกจากรูปแบบเก่าและค้นหาโครงสร้างใหม่ที่เหมาะสมกว่า นับเป็นความท้าทายที่จะเข้าไปสู่มิติใหม่ ที่เมื่อเทียบเคียงกับธรรมชาติแล้วจะเห็นว่ามีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่เคยหยุดนิ่งเช่นกัน แล้วเราจะอยู่นิ่งเฉยไม่ปรับตัวได้อย่างไร

ปกติแล้วความพยายามทั้งหลายเพื่อทำความถูกต้อง ความพอดี และความเหมาะสมให้เกิดขึ้น แต่ในทางปฏิบัติ ความเหมาะสม ถูกต้อง พอดี นั้นเป็นจุดที่หาได้ยากที่สุด ดังนั้นเราจึงมีการเผื่อขาดเผื่อเหลืออยู่เสมอเป็นการชดเชย แต่ถ้าเมื่อไรเราสามารถกำหนดได้ว่าให้มีการเพื่อขาดเพื่อเหลือน้อยที่สุด แล้ว ความถูกต้อง ความหมาะสมและความพอดีจะมีมากขึ้น ฉะนั้นโดยอาศัยหลักการที่กล่าวมานี้ มาเป็นแนวทางที่จะทำอะไรชดเชย ทำในสิ่งที่ขาดหายไป ทำในสิ่งที่มีความจำเป็น ถ้าทำอะไรผิดพลาดก็ต้องแก้ไขให้อย่างน้อยเท่าเดิม หรือมากกว่า ดังที่กล่าวไว้ตอนต้นแล้วว่า เมื่อขึ้นปีใหม่แล้วจะทำอะไรให้ดีขึ้นบ้างชดเชยสิ่งที่เคยทำผิดพลาด สิ่งที่ทำอะไรร้ายๆไว้ เป็นการไถ่โทษ ก็อาจทำให้รู้สึกดีขึ้น พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปในศักราชใหม่นี้

เงินตราประชาธิปไตย

เราต่างบอกใครๆ ว่าประเทศของเราปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยหลักใหญ่ก็คืออำนาจเป็นของประชาชน และประชาชนเลือกผู้แทนขึ้นมาใช้อำนาจแทนตน แต่ดูเหมือนว่าประชาชนในสัดส่วนที่มากทีเดียวไม่ได้สนใจเลือกผู้แทนด้วยวิจารณญาณ แต่เลือกตามอามิสสินจ้างที่ได้รับเพราะมีคนอยากเป็นผู้แทนเพื่อหวังผลจะถอนทุนหรือหวังว่าจะได้ผลประโยชน์จากการเป็นผู้แทน จึงทำให้มีการลงทุนเพื่อให้ได้เป็นผู้แทนโดยการซื้อเสียง ในขณะนี้ไม่เฉพาะการเลือกตั้งในระดับประเทศ แม้แต่การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นก็มีการซื้อเสียงเช่นเดียวกัน แสดงว่าเลียนแบบการเลือกตั้งในระดับชาติมา


เราจะหวังอะไรกับระบอบประชาธิปไตยที่เราปรารถนาถ้าหากคนจำนวนมากไม่ได้พิจารณาในการเลือกผู้แทน อาจพิจาณาแต่เพียงว่าได้รับผลประโยชน์จากการไปเลือกผู้แท่นหรือไม่ คนที่รับผลประโยชน์จากการไปเลือกผู้แทนจึงเหมือนกับผู้ที่ขาดสิทธิ์ขายเสียง เทียบได้กับการเป็นโสเภณีทางการเมืองได้ ส่วนผู้ที่ให้เงินจ้างโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตาม คิดได้อย่างหนึ่งว่าไม่มีความซื่อสัตย์ คนเราเมื่อไม่ซื่อสัตย์เสียอย่างหนึ่งแล้วย่อมจะทำชั่วอื่นได้หมดในอนาคต

การเมืองไทยจึงเป็นการเมืองระบบพวกพ้อง เป็นการเมืองแบบปากว่าตาขยิบ เป็นแบบคิดอย่างทำอย่างหรือพูดอย่างทำอีกอย่าง หรือปากกับใจไม่ตรงกัน ก่อนการเลือกตั้งไปถามผู้ที่สมัครเป็นผู้แทนจะไม่มีใครพูดเลยว่าใช้เงินซื้อเสียง ต่างก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หาเสียงอย่างเดียวไม่เคยซื้อเสียง แต่ผลที่ออกมาบางครั้งก็ไม่น่าเชื่อว่าจะขัดกับความรู้สึกคนที่ไม่น่าจะได้เป็นผู้แทน พูดง่ายๆคือไม่ได้คนที่ต้องการมาเป็นผู้แทน หรือเป็นคนที่ไม่ดีที่หวังเอาประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ส่วนรวมเป็นรอง ถ้าเราพิจารณาตามหลักคิดที่ว่า คนเป็นอย่างไรผู้แทนเป็นอย่างนั้น

เห็ดหลินจือราป้องกันรักษาสารพัดโรค

เห็ดหลินจือ มีชื่ออื่นๆคือ เห็ดหมื่นปี เห็ดขอนไม้ เห็ดจวักงู เห็ดเล่งจือ เห็ดหลินจือ เป็นราขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายไต แข็งเหมือนเนื้อไม้ คนจีนมีความเชื่อว่ามีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันรักษาโรค เนื่องจากเห็ดหลินจือมีโปรตีนชนิดสมบูรณ์จะเป็นยาบำรุงร่างกายชั้นดี บำรุงสมอง ประสาทและตับ มีสารสำคัญที่ช่วยในการป้องกันรักษาโรค ที่รวบรวมมาได้กล่าวคือ


-ช่วยให้มีภูมิต้านทานโรค ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง

-ป้องกันบรรเทาโรคภูมิแพ้ โรคลมบ้าหมู

-มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวช่วยยับยั้งการหลั่งซิสตามิน

-ป้องกันไตวาย

-ต้านมะเร็ง ป้องกันการลุกลามของโรคมะเร็ง

-ปรับสภาพสมดุลในร่างกาย

-ลดการใช้ออกซิเจน ทนต่อการขาดออกซิเจนได้มากขึ้น

-ควบคุมไวรัสตับบี ตับแข็ง ตับอักเสบ

-เยื่อหุ้มเม็ดเลือดแดงแข็งแรง

-ลดการก่อตัวของเกล็ดเลือด ช่วยสลายลิ่มเลือด เลือดแข็งตัวช้า ป้องกันเลือดอุดตัน

-กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว

-สร้างฮอร์โมนในร่างกายแข็งแรงขึ้น

-ปรับระดับน้ำตาลในเลือด

-บรรเทาการปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ

-บำรุงสายตา รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

-ช่วยขจัดสารพิษ

-ควบคุมระดับความดันโลหิต

-ลดคอเลสเตอร์รอล ปรับไขมันในร่างกายให้ปกติ

-เสริมสร้างระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น

-ป้องกันรักษาโรคอัมพาต อัมพฤกษ์

-ลดการปวดเมื่อยตามข้อ โรคเกาต์ และโรคเอสแอลอี

-ช่วยป้องกันรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลอดลมอักเสบ หอบหืด

การรับประทานเห็ดหลินจือ ที่ได้ผลที่สุดในรูปของสารสะกัด โดยการสะกัดร้อนหรือเย็นก็จะได้ผลมากที่สุด สำหรับการบดใส่แคปซูลรับประทานได้ผลน้อยที่สุด เพราะเห็นหลินจือย่อยยาก อีกวิธีหนึงที่ได้ผลพอควรก็คือการหั่นเห็นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วต้มได้น้ำเห็นหลินจือสำหรับดื่ม

ความสอดคล้อง รูปแบบการเรียนรู้และการจัดการความรู้

ศาสตร์แห่งการจัดการความรู้เพิ่งจะให้ความสำคัญมาไม่กี่ปีมานี้ ทั้งนี้เนื่องจากความรู้ที่สร้างขึ้นแต่ละปีเพิ่มขึ้นราวสองเท่าของปีที่ผ่านมา และเป็นไปแบบก้าวกระโดดที่เราจำต้องปรับตัว ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพราะการนำความรู้ใหม่ๆ มาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพชีวต ทั้งในแง่ของปัจเจกบุคคลและในทางสังคม ซึ่งปกติแล้วเราก็มีการจัดการความรู้กันอยู่แล้วในทางการศึกษา และในวงการต่างๆ แต่ไม่ได้แยกแยะให้เห็นในรายละเอียด หรือไม่ได้มีมาตรฐานหรือแนววิธีการที่ชัดเจนเท่านั้น ยังขึ้นอยู่กับกลุ่มและตัวบุคคลเป็นหลัก จากแนวการจัดการความรู้ที่แบ่งความรู้เป็นสองกลุ่มคือ ความรู้ที่ชัดแจ้ง กับความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน ซึ่งความจริงแล้วความรู้ทั้งสองอย่างนี้นั้นมีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างสูง บางครั้งแทบจะแยกกันไม่ออก เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถที่จะแปลงความรู้ที่มีอยู่ในตัวคนให้อยู่ในรูปที่สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น แล้วกลายเป็นความรู้ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามยังเชื่อกันว่าความรู้ที่มีฝังลึกอยู่ในตัวคนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นความรู้จากการปฏิบัติและเป็นความรู้ที่ใช้ได้จริง ซึ่งบางอย่างไม่สามารถจะถ่ายทอดออกมาเป็นสื่อได้ ต้องมีการประมวลตามสถานะการณ์ ตามสิ่งแวดล้อม


โดยความรู้ที่ชัดเจนเป็นความรู้ทางวิชาการที่มีการศึกษาเรียนรู้ มีการบันทึกไว้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถที่จะเลือกคัดสรร นำไปปรับใช้ได้ ซึ่งความรู้เหล่านี้ตามทฤษฏีการเรียนรู้แบบการสร้างความรู้นั้น เราทุกคนสร้างความรู้ขึ้นมาจากไม่รู้มาเป็นรู้โดยอาศัยความร่วมมือจากความรู้ที่มีอยู่เดิม ถ้าได้จากการวิจัยก็จะเป็นความรู้ใหม่ที่ไม่เคยทราบกันมาก่อน หรือเคยทราบแต่ยังไม่เป็นที่เข้าใจที่ชัดเจน แนวคิดในเรื่องของการสร้างความรู้ หรือคอนสตรักติวิสนั้นเริ่มได้รับความสนใจจากแนวคิดทฤษฏีพัฒนาการและการเรียนรู้ของเปียอาเจต์ โดยมองความเป็นจริงก็คือปรากฏการณ์ที่แต่ละคนมีประสบการณ์ผ่านทางการสร้างความรู้ โดยมโนทัศน์ที่เกี่ยวกับวัตถุทั้งหลายอยู่ในโครงสร้างทางการคิด ซึ่งจะต้องเกิดความสมดุลจากการดูดซึม (assimilate) เป็นกระบวนการที่ตื่นตัวกระตือรือร้นในการสร้างความหมายขึ้นจากประสบการณ์ที่เข้ากันได้กับความรู้ที่มีอยู่เดิม ส่วนการปรับเปลี่ยนความรู้ (accommodation) เป็นการเปลี่ยนความคิดของตัวเองที่พยายามเข้าสู่ความสมดุล จากที่ไม่ลงรอย หรือขัดแย้งกับที่เป็นอยู่เดิม นอกจากนี้แนวคิดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน โดยกระบวนการสนทนาพูดคุย การแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความคิดกัน การโต้แย้งกันก็ก็ให้เกิดการเรียนรู้ตามแนวคิดของไวก็อตสกี้

ในวงรอบการจัดการความรู้ที่ชัดแจ้งนั้น แน่นอนว่าจะต้องคัดเลือกตรวจสอบ นำไปใช้ และ ยกระดับความรู้ขึ้น ส่วนความรู้ที่ฝังลึกในตัวคน ก็ต้องมีการแบ่งปัน เรียนรู้ร่วมกัน และยกระดับความรู้ และนำไปใช้ จะเห็นว่าไม่ว่าความรู้ที่ชัดแจ้งและความรู้ในตัวคนก็ต้องนำไปใช้อย่างสอดคล้องกัน มีการยกระดับความรู้ และมีการเปลี่ยนกลับไปมาระหว่างความรู้ที่ชัดแจ้งและความรู้ที่มีอยู่ในตัวคน จะเห็นว่าแนวคิดของความรู้ที่ชัดแจ้งนี้นไปสอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ของเปียอาเจต์ และการจัดการความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคนก็จะไปสอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ของไวก็อตสกี จึงมั่นใจได้ว่าการจัดการความรู้ที่เราใช้กันเป็นแนวคิดที่มีฐานทฤษฎีที่มีมาก่อนแล้ว

ที่ละลึกเพลง ยุคจาก วค.สู่มหาวิทยาลัย

ตามที่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เคยรวบรวมเพลงจากเทปคาสเซ็ตแปลงเป็นไฟล์ดิจิทัลแล้วบันทึกลงแผ่นซีดี เพื่อเผยแพร่ไปแล้วครั้งหนึงนั้น บัดนี้ก็กำลังจะเวียนมาครบรอบที่ละลึกวันสถาปนา มหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันราชภัฏ และวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช อีกครั้งหนึ่ง กองทุนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงได้นำมาสเตอร์แผ่นซีดีมาทำสำเนาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง สำหรับศิษย์เก่าสมัยวิทยาลัยครู สถาบันราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชภัฏ รวมทั้งศิษย์ปัจจุบัน ตลอดจนผู้สนใจ ขอรับบริการได้ที่ ห้อง 13104 ชั้น 1 อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์



เพลงชุด มหาชัยลำลึกมี 12 เพลงคือ

1. มาร์ชวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช 2. วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช

3. ลูกมหาชัย 4. ฟ้ามหาชัย

5. สามัคคีเหลือง-แดง 6. มาร์ชฝึกหัดครูนครศรีธรรมราช

7. ราไวย์กำสรวล 8. ยามจากราไวย์

9. ใจเป็นห่วง 10. ใจห่วงเธอ

11. หนุ่มปากพนัง 12. ปณิธานของครู


เพลงชุดสถาบันราชภัฏนครศรีรรมราช

1. สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช 2. เชิดชูราชภัฏ

3. นาคบุตร 4. ฟ้ามหาชัย

5. ลูกมหาชัย 6. รั้วมหาชัย

7 มหาชัยในฝัน 8. ร้อยดวงใจไว้เป็นหนึ่ง

9. ตลุงราชภัฏ 10. รำวงเหลืองแดงรักกัน

11. สัญญามหาชัย

เพลงชุดมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีรรมราช

ยังเป็นชุดเพลงที่ไม่เป็นทางการ มีจำนวน 10 เพลง รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

หมายเหตุ เพลงในชุดสถาบันราชภัฏนี้ ยังใช้ต่อมาเมื่อเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยแล้ว และขณะนี้ได้ออกชุดใหม่ เป็นเพลงชุดมหาวิทยาลัย มีด้วยกันสิบเพลง และต้องขอขอบคุณ ผศ.ประหยัด เกษม และ อาจารย์ วิรัช เลี้ยงสมบูรณ์ ที่ได้ให้ต้นฉบับเพลงมาในรูปของเทป และไฟล์เพลง เพื่อนำมาจัดทำเป็นแผ่นซีดีเพลง

เมื่อครบรอบเวลาปี

ตามที่ทราบกันเราวัดเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง สัปดาห์ เป็นเดือน และเป็นปี ในการคิดเวลาเป็นปีนั้น มีประวัติความเป็นมาที่วัดกันอย่างไรไม่ให้คลาดเคลื่อน มีการปรับกันมาเรื่อย ทำให้แต่ละเดือนมีจำนวนวันไม่เท่ากันก็มี ที่เท่ากันก็มี แต่ที่คิดให้เดือนมกราคมนั้นเป็นเดือนเริ่มต้นของปีใหม่นั้น เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกจากการยึดถือเอาปฏิทินเกกอเรียน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาของปฏิทินรุ่นที่เคยใช้กันมาก่อนหน้านั้น เช่นในกรณีที่ให้เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน และอีก 4 ถัดไปจะมี 29 วันที่เราเรียกว่าปีอธิกมาส เพื่อแก้ปัญหา ที่ว่าในหนึ่งปี มี 365 กับ 1/4 วัน ถ้าว่าไปแล้ว 4 ปีก็มีชดเชยครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ปฏิทินที่ถูกต้องนั่นเอง


ในการวัดเวลาให้ละเอียดคลาดเคลื่อนน้อยที่สุดนั้น ปัจจุบันเราใช้นาฬิกาอะตอม จากการแก่งตัวของอะตอมของธาตุหนึ่งที่มีความแน่นอนสูง เป็นตัวเทียบเพื่อให้ได้เวลาที่มาตรฐานไม่คลาดเคลื่อนซึ่งจำเป็นมากสำหรับอุปกรณ์สมัยใหม่ เช่นในดาวเทียมที่ใช้ในการวัดระยะทางหรือกำหนดตำแหน่งบนโลกทำให้ได้ตำแหน่งที่แม่นยำมากขึ้นจนกล่าวได้ว่าสามารถติดตามตัวบุคคลบนโลกได้เลยทีเดียว การครบรอบปีก็สามารถแปลงเป็นได้ว่าในหนึ่งปีมีกิวินาที่ มีกี่นาที แต่บางคนอาจจะสงสัยต่อไปว่าตั้งแต่เกิดโลกเรามานี้จะวัดให้ละเอียดลงไปให้ได้ว่าเกิดขึ้นมากี่ปีแล้วก็ยังไม่มีใครตอบได้ ได้แต่คาดคะเนว่า เท่านั้นเท่านี้ล้านปี ประมาณการกันมาก็ประมาณ 6000 ล้านปีจะให้ละเอียดเหมือนกับที่วัดเวลาเป็นวินาทีในนาฬิกาอะตอมก็คงทำได้ยาก อย่างไรก็ตามเราก็ได้กับหนดเวลาที่ครบ 100 ปีว่าเป็นศตวรรษหนึ่ง แต่ไม่มีที่มาว่าโลกเราหรือระบบสุริยะเราจะเคลื่อนไปในจักรวาลอย่างไร มีเพียงนักดาราศาสตร์บอกว่า ระบบสุริยะของเราก็เคลื่อนที่รอบอะไรสักอย่างหนึ่ง เหมือนกันแต่ยังบอกไม่ได้ว่าอะไรดี ถ้าครบรอบกาเลคซีก็จะเรียกว่า ปีกาแลกซี่ และยังคาดคะเนต่อไปว่ากาแลคซีของเราก็เคลื่อนที่รอบอะไรสักอย่างอีก ถ้าครบรอบก็จะเรียกว่าปีจักรวาลน่าจะได้ ถ้าคิดว่าจะมีอายุได้ปีจักรวาลนี้ ไม่รู้ว่าโลกนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า

จากที่มีภาพยนต์ที่มักจะบอกถึงมหันตภัยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นมากมาย บ้างก็บอกว่าเป็นคำทำนาย ที่อาจจะไปสอดคล้องกับการกลับแกนหมุนของโลก หรือ แกนหมุนของดวงอาทิตย์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะการมองไปในทางที่สุดโต่ง ในความเป็นจริงนั้นปรากฏการณ์ต่างๆ ค่อยๆ เกิดขึ้น ค่อยๆ เปลียนแปลงไปโดยไม่รู้ตัวเสียมากกว่า ก่อนที่จะเกิดขึ้นแบบย้อนกลับไม่ได้ การครบรอบปีเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง ที่อาจดำรงอยู่ต่อไป แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ และก็ยังคงเวลาเดิมไว้ไม่เสื่อมคลาย ยังครบรอบปีด้วยเวลาเท่าเดิม แต่เชื่อเถอะไม่มีอะไรแน่นอน ไม่นานอาจตรวจพบว่าแม่ว่าเวลาที่โลกเคลื่อนที่ไปรอบดวงอาทิตย์เมื่อครบรอบปีก็จะไม่เท่าเดิม แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไปอีก เป็นไปตามกฏธรรมชาติที่ไม่มีอะไรแท้แน่นอน แม่แต่เราทุกคนก็มิอาจคงเดิมอยู่ได้ในแต่ละปี มีการเปลี่ยนไปบางช่วงก็ไม่รู้สึกอะไร แต่บางช่วงของปีก็จะรู้สึกว่าเปลี่ยนไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ปั้นปลายของชีวิตก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดขึ้น เมื่อความชราเข้ามาเยือน

จะครบรอบปีนี้มีการพูดถึงภาวะโลกร้อนกันมากแล้วก็ตกลงอะไรกันไม่ค่อยได้ในระดับโลกว่าจะช่วยรักษาโลกใบนี้ให้ยืนยงต่อไปอย่างไร หรือว่าเราจะหนีประวัติศาสตร์ไปไม่พ้น ที่เราพบว่าแต่ละปีมีสัตว์สูญพันธ์ไปจำนวนมาก และก็เกิดสัตว์พันธ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป มนุษย์เราเริ่มเกิดขึ้นมาเต็มรูปก็แค่ล้านกว่าปี จะถือว่ายังยืนยงต่อไปได้อีกนานอีกหลายรอบปี

ต่อไทรที่ไม่ธรรมดา

ต่อไทรเป็นสัตว์ที่มีชีวิตสัมพันธ์อยู่กับต้นไทรอย่างน่ามหัศจรรย์ เป็นระบบนิเวศที่น่าทึ่ง ที่พึ่งพาอาศัยกันระหว่างต่อไทร แตะต้นไทร ทำให้ดำรงอยู่ได้ในธรรมชาติ ที่น่าแปลกตรงที่ตอนต่อไทรกำเนิดมาในกรณีของตัวผู้ จะตาบอดปีกกุดบินไม่ได้ และไม่หนวดหดหายไป และทำหน้าที่ผสมพันธ์เพียงอย่างเดียว สำหรับตัวเมียทำหน้าทีวางไขเสร็จก็จะตายไป เช่นเดียวกับตัวผู้เมื่อผสมพันธ์เสร็จก็จะตายไป ถ้ายังไม่ตายก็จะทำหน้าที่เจาะฐานดอกต้นไทรเพื่อให้ตัวเมียวางไข่


ตัวเมียของต่อไทรจะมีอวัยวะสำหรับเจาะฐานดอกตัวเมีวและไปวางไขไว้ แต่ละฐานดอกตัวเมียก็จะวางไขได้หนึ่งใบหรือสองใบ ซึ่งต่อไทรจะมีฮอโมนพิเศษปล่อยไว้เพื่อกระตุ้นให้พืชปล่อยสารอาหารให้ไข่และตัวอ่อน ซึ่งเมื่อออกมาเป็นตัวดักแด้แล้วต่อไทรตัวผู้จึงผสมพันธ์ และในกระบวนการนี้ต่อไทรก็ได้ช่วยในการผสมเกษรให้ต้นไทรไปในตัว จึงเห็นได้ชัดถึงกระบวนการพึ่งพากันและกันเป็นระบบนิเวศอย่างหนึ่ง

ความสัมพันธ์อันซับซ้อน และทำไมต้องให้ตัวผู้อยู่ในสภาพเช่นนั้น ทั้งตาบอด ปีกก็ไม่มีไม่ไหนต่อไหนไม่ได้ ต้องเกิดมาทำงานอย่างเดียวเหมือนกับทาษในเรือนเบี้ย ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ธรรมชาติเป็นเช่นนั้น หรือว่าเพราะเป็นความประสงค์ของพระเจ้า แต่ถ้าถามต่อไปว่าเพราะอะไรจึงมีความประสงค์เช่นนั้น บางคนก็อาจจะตอบว่า ก็พระเป็นเรื่องของพระเจ้าคนไม่เกี่ยว เป็นการตอบแบบกำปั้นทุบดิน แต่ถ้าจะตอบต่อไปอีกขั้นหนึ่ง ก็น่าจะใช้กฏแห่งกรรมมาอธิบายได้ ถึงการเวียนว่ายตายเกิด ว่าคนทำกรรมชั่วไว้มากก็อาจตกนรกไปอยู่ในภพภูมิที่ตกยากทุกข์ทรมาณ หาความสุขใดๆ ไม่ได้ เป็นสภาพที่ไปรับใช้กรรม จึงเป็นอุบายให้คนทำกรรมดีมากกว่ากรรมชั่ว แต่ถ้าคิดว่าไม่ทรมาณอะไร ก็ลองนึกถึงคนตาบอดหรือทดลองตาบอดสักวันโดยให้แว่นผ้าตาดำปิดทั้งวันแล้วดำเนินชีวิตดูว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะรู้เองว่านรกมีจริง

สาเหตุของการล่มสลาย

ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดีว่า สังคมอ่อนแอและอาจถูกทำลายไปในที่สุด ถึงขั้นสลายความเป็นชาติก็มีให้เห็น แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นไปตามกฏของธรรมชาติที่ทุกอย่างย่อมมีการเปลียนแปลง ไม่มีใครยืนยงค้ำฟ้าอยู่ได้ ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีอาณาจักรต่างๆ ที่เคยเจริญรุ่งเรืองและล่มสลายไป ด้วยสาเหตุต่างๆ ชุมชนรัฐชาติที่ไม่ปรับตัวก็ไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ ก็กลายสภาพไปเป็นรัฐชาติอื่นหรือกลายเป็นชนกลุ่มน้อย ที่อาจจะดำรงอยู่ต่อไปหรือเสี่ยงต่อการถูกทำลายล้างให้สูญหายไป หรือเป็นเพียงแค่ วัตถุหายากที่คนอาจมาดูเป็นของแปลก


อาณาจักรกรีกเคยรุ่งเรื่อง แต่ก็ต้องมาล่มสลายไปด้วยหลายสาเหตุ สาเหตุหนึ่งที่พอมีหลักฐานก็คือ ประชาชน คนทำงานมีความอ่อนแออันเนื่องจากใช้ภาชนะที่ทำด้วยสารพิษที่ละลายปนเปื้อนมากับอาหารและเครื่องดื่ม ต่อเนื่องไปถึงสมัยโรมัน ก็เช่นเดียวกันภาชนะต่างๆ ก็ทำมาจากตะกั่วด้วยความเชื่อว่าเป็นของสูง คนระดับสูงใช้กันมาก ยังความอ่อนแอให้กับสังคมโดยรวม หญิงสาวเป็นหมันได้ง่าย หรือลูกที่คลอดออกมาก็อ่อนแอ ในช่วงระยะเวลาสองร้อยปี ก็ได้ทำลายล้างชนชั้นมันสมอง และกำลังสำคัญไปเกือบหมด จากภาชนะที่ใส่อาหารใส่ไวน์สำหรับดื่มซึ่งตะกั่วสามารถละลายเข้าไปทำลายร่างกายมนุษย์ให้อ่อนแอ และยิ่งเสริมแรงด้วยการเป็นส่วนผสมของยา ไม่ว่าจะเป็นโรคท้องร่วง และอื่นๆ ก็ยิ่งซ้ำเติมให้อ่อนแอหนักยิ่งขึ้นนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรทั้งสิ้น ก็เพราะความไม่รู้

ปัจจุบันสังคมโลกเจริญขึ้นโดยอาศัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีโทษมหันต์เมื่อนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วย จะว่าด้วยความไม่รู้ส่วนหนึ่ง และด้วยความละโมบ และเพื่อความอยู่รอดส่วนหนึ่งที่นำไปสู่การทำลายล้างสิ่งแวดล้อมและปล่อยสารพิษออกมาทำร้ายสังคมให้อ่อนแอขึ้นทุกวัน จนกล่าวได้ว่าทำให้สังคมมนุษย์เริ่มที่จะอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้บความผันผวนของสภาวะแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะโลกร้อนอันเป็นผลจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ยังไม่สามารถหาทองออกว่าจะช่วยรักษาโลกไปนี้กันอย่างไร ซึ่งแต่นอนว่าอาจนำไปสู่การค่อยๆ ล่มสลายของอาณาจักรต่างๆ อันได้แก่ ประเทศยักษ์ใหญ่และในเครื่อทั้งหลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน

สารพัดประโยชน์จากต้นจาก

ต้นจากเป็นพืชที่เจริญเติบโตในบริเวณป่าชายเลน ชายฝั่งคูคลองทีออกทะเล ที่มีต้นจากขึ้นหนาแน่นจนเรียกว่าเป็นป่าต้นจากได้ ที่เรามักเห็นต้นจากเลียบชายคลองไปเป็นส่วนใหญ่จึงเป็นพืชที่แช่น้ำอยู่เกือบตลอดเวลา ด้วยรากที่ยึดเกาะพืชดินอย่างหนาแน่น จึงกล่าวได้ว่าต้นจากเป็นพืชที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตลิงพัง ส่วนสาเหตุที่ทำไม่ต้นจากมักอยู่ชายฝั่งนั้น เนื่องมาจากที่ผลของต้นจากไม่สามารถที่จะลอยหรือปลิวไปตกที่อื่นที่อยู่ห่างไกลได้ แต่ผลที่มีเมล็ดที่แพร่พันธ์ได้สามารถลอยไปตามน้ำและมักจะไปติดเจริญงอกงามที่บริเวณป่าชายเลนหรือริมคลอง


สำหรับประโยชน์อย่างอื่นจากต้นจาก เฉพาะใบนำไปใช้ทำแผ่นมุงหลังคาที่เรียกว่าหลังคาจาก นำใบมาตากแห้งแล้วลอกทำมวนบุหรี่ที่ได้รสชาด ยอดอ่อน ผลอ่อนสามารถรับประทานสดเป็นผักเหนาะ และนำไปประกอบอาหารประเภทแกงคั่วได้ดี นอกจากนี้น้ำหวานจากต้นจากนำมาทำเป็นน้ำตาล และน้ำส้มจากได้ และนำไปทำเป็นน้ำผึ้งจากก็ให้รสชาดที่ต่างออกไป

ขนมที่ห่อด้วยใบจากเรียกว่าขนมจาก และใช้ห่อข้าวเนียวที่เรียกว่าต้ม รูปทรงยาวทรงกระบอก เช่นเดียวกับที่ใช้ใบกระพ้อห่อเป็นต้ม ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม

ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกอย่างเส้นใยในทางใบ นำไปอัดทำเป็นแผ่นกระดานแบบกระดานชานอ้อย และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ

สารพัดประโยชน์จากต้นจาก

ต้นจากเป็นพืชที่เจริญเติบโตในบริเวณป่าชายเลน ชายฝั่งคูคลองทีออกทะเล ที่มีต้นจากขึ้นหนาแน่นจนเรียกว่าเป็นป่าต้นจากได้ ที่เรามักเห็นต้นจากเลียบชายคลองไปเป็นส่วนใหญ่จึงเป็นพืชที่แช่น้ำอยู่เกือบตลอดเวลา ด้วยรากที่ยึดเกาะพืชดินอย่างหนาแน่น จึงกล่าวได้ว่าต้นจากเป็นพืชที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตลิงพัง ส่วนสาเหตุที่ทำไม่ต้นจากมักอยู่ชายฝั่งนั้น เนื่องมาจากที่ผลของต้นจากไม่สามารถที่จะลอยหรือปลิวไปตกที่อื่นที่อยู่ห่างไกลได้ แต่ผลที่มีเมล็ดที่แพร่พันธ์ได้สามารถลอยไปตามน้ำและมักจะไปติดเจริญงอกงามที่บริเวณป่าชายเลนหรือริมคลอง


สำหรับประโยชน์อย่างอื่นจากต้นจาก เฉพาะใบนำไปใช้ทำแผ่นมุงหลังคาที่เรียกว่าหลังคาจาก นำใบมาตากแห้งแล้วลอกทำมวนบุหรี่ที่ได้รสชาด ยอดอ่อน ผลอ่อนสามารถรับประทานสดเป็นผักเหนาะ และนำไปประกอบอาหารประเภทแกงคั่วได้ดี นอกจากนี้น้ำหวานจากต้นจากนำมาทำเป็นน้ำตาล และน้ำส้มจากได้ และนำไปทำเป็นน้ำผึ้งจากก็ให้รสชาดที่ต่างออกไป

ขนมที่ห่อด้วยใบจากเรียกว่าขนมจาก และใช้ห่อข้าวเนียวที่เรียกว่าต้ม รูปทรงยาวทรงกระบอก เช่นเดียวกับที่ใช้ใบกระพ้อห่อเป็นต้ม ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม

ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงอีกอย่างเส้นใยในทางใบ นำไปอัดทำเป็นแผ่นกระดานแบบกระดานชานอ้อย และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ

ตัวการทำลายสังคมไทย

การที่จะหาสาเหตุว่าอะไรเป็นตัวการทำลายสังคมไทยนั้น คงจะมีอะไรหลายอย่างประกอบกัน คงจะบอกว่าอย่างใดอย่างหนึ่งชัดลงไปคงไม่ได้ แต่ถ้ามองในภาพรวมว่ารากฐานที่แท้จริงอยู่ที่อะไร ที่รวมทุกสิ่งไว้ด้วยกันก็คือการศึกษา เพราะถ้าการศึกษาดี สังคมก็จะดีตามไปด้วย อันนี้หมายถึงการศึกษาที่ถูกต้อง ที่มีคุณธรรมจริยธรรมกำกับ ดังที่ท่านพุทธทาสเคยกล่าวว่าถ้าศิลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ และถ้ามองว่าคุณธรรมจริยธรรมดังกล่าวก็เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา


แน่นอนว่าการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศึกษาสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวัตถุ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของวัตถุภายใต้เงื่อนไขต่างๆ อันได้แก่กฏเกณฑ์ ทฤษฎีต่างๆ ที่นำมาใช้อธิบาย และนำไปประยุกต์ใช้ ก่อให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น จากวัตถุที่ทำให้สะดวกสะบายแล้ว วัตถุยังเป็นสิ่งที่ประดับบารมี และมีความโน้มเอียงไปทางที่ดีกับคนที่มีวัตถุที่มีค่าต่างๆ มากกว่าคนที่ไม่มีวัตถุที่เป็นชิ้นเป็นอันใดเลย ทำให้คนแสวงหาวัตถุมากเกินไปเกินความจำเป็น ยึดเอาวัตถุเป็นสารณะที่ให้คุณให้โทษมากเกินไป อันเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สังคมเสื่อมทราม จนทำให้มองเห็นไปทำนองเดียวกับที่ รศ.ศรีศักร วัลลิโภดมได้ให้ข้อคิดจากการให้สัมภาษณ์ ในประชาคมวิจัย ฉบับที่ 87 ว่า "ถ้าเรายังสอนให้คนเป็นทรัพยากร เน้นแต่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจนเกินไปบอกได้เบยว่านี่คือส่วนหนึ่งที่จะทำลายสังคมไทย" อย่างไรก็ตาม เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ยังจะต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการได้มาซึ่งความรู้ เป็นไปตามหลักตรรกะและเหตุผล จึงน่าจะมีความถูกต้อง แต่กลับพบภายหลังว่ามีพิษภัยเกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายก็มากมาย แต่ที่เป็นประโยชน์น่าจะมากกว่า เป็นทับทวี จนอาจกล่าวได้ว่าโลกเรายอมรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเหมือนกับวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่แทรกซึมไปอยู่ในวิถีชีวิต เปรียบเหมือนปลาไม่รู้จักน้ำ จนกล่าวได้ว่าไม่มีใครที่ไม่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่คิดได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่ใช้กันมากที่สุด ไม่เฉพาะแต่ในศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สาขาวิชาอื่นๆ ก็นำวิทยาศาสตร์ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นสังคมศาสตร์ หรือจัดการศาสตร์ ก็ใช้คำว่าวิทยาศาสตร์ประกอบอยู่ด้วย

ดังนั้นแน่นอนว่าการเน้นแต่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจนเกินไป เหมือนกับว่านำวิทยาศาสตร์ไปใช้อย่างไม่เหมาะสม อย่างผิดหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็แน่นอนว่าส่งผลให้เกิดการทำลายสังคม ไม่ว่าสังคมประเทศใด และหากคิดต่อไปทำนองเดียวกันว่า แล้วถ้ามุงเน้นศาสตร์ด้านอื่นๆ ด้านใดด้านหนึ่งจนเกินไป ก็คงมีโทษได้เช่นเดียวกัน เพราะการเน้นมากเกินไปไม่มีความสมดุลย์ ไม่เหมาะสม ก็ส่งผลให้เกิดการทำลายสังคมได้เช่นกัน ฉะนั้นตามแนวพุทธศาสนาที่ให้เดินสายกลางไม่มากไม่น้อยเกินไป คงจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะอย่างไรเสียก็ไม่มีศาสตร์สาขาใดที่สมบูรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็เช่นเดียวกันที่มีทั้งโทษและประโยชน์ ที่ยังต้องอยู่กับมันก็เพราะยังน่าจะมีประโยชน์มากกว่า สอดคล้องตามปรัชญาวิทยาศาสตร์ที่ว่าไม่มีความรู้ใดที่สมบูรณ์แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้ายังมีวิธีการใดๆของผู้อื่น ที่แน่ใจว่าดีกว่าก็จะรับมาใช้แทนที่ที่ใช้อยู่เดิม ทีสอดคล้องกับหลักไตรลักษณ์อย่างหนึ่งที่ว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน

การให้อำนาจแก่ครูและผู้เรียน

การให้อำนาจแก่ครูเพื่อให้ทำสิ่งที่จะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงไปในโรงเรียน มากกว่าที่จะให้ใครมาบอกครูว่าอะไรที่จะต้องทำ


การให้อำนาจแก่ผู้เรียน ให้พวกเขาได้มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นนักคิดที่มีความสงสัยใคร่รู้ (คือผู้ที่ชอบตั้งคำถาม ชอบสืบเสาะ และอย่างมีเหตุผล)

การให้อำนาจแก่ครู ผู้ที่ทำให้เกิดการตัดสินใจย้อนกลับ ค้นพบความสนุกสนานในการเรียนรู้ และในการศึกษาค้นคว้า กระบวนการเรียนการสอน และเป็นครูที่มองการเรียนรู้เป็นการสร้างสร้างความรู้ขึ้น และการสอนเป็นกระบวนการอำนวยความสะดวกที่จะส่งเสริมสนับนุนการพัฒนาการ

ผู้เรียนจำเป็นต้องให้มีอำนาจที่จะคิดที่จะเรียนรู้เพื่อตัวเขาเอง ดังนั้นการรเรียนรู้ที่จะให้เกิดขึนนั้นเป็นบางอย่างที่ผู้เรียนรู้เป็นผู้กระทำ ไม่ใช่บางอย่างที่ทำให้กับผู้เรียน

การให้อำนาจแก่ครูและผู้เรียน

การให้อำนาจแก่ครูเพื่อให้ทำสิ่งที่จะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงไปในโรงเรียน มากกว่าที่จะให้ใครมาบอกครูว่าอะไรที่จะต้องทำ


การให้อำนาจแก่ผู้เรียน ให้พวกเขาได้มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นนักคิดที่มีความสงสัยใคร่รู้ (คือผู้ที่ชอบตั้งคำถาม ชอบสืบเสาะ และอย่างมีเหตุผล)

การให้อำนาจแก่ครู ผู้ที่ทำให้เกิดการตัดสินใจย้อนกลับ ค้นพบความสนุกสนานในการเรียนรู้ และในการศึกษาค้นคว้า กระบวนการเรียนการสอน และเป็นครูที่มองการเรียนรู้เป็นการสร้างสร้างความรู้ขึ้น และการสอนเป็นกระบวนการอำนวยความสะดวกที่จะส่งเสริมสนับนุนการพัฒนาการ

ผู้เรียนจำเป็นต้องให้มีอำนาจที่จะคิดที่จะเรียนรู้เพื่อตัวเขาเอง ดังนั้นการรเรียนรู้ที่จะให้เกิดขึนนั้นเป็นบางอย่างที่ผู้เรียนรู้เป็นผู้กระทำ ไม่ใช่บางอย่างที่ทำให้กับผู้เรียน

การเรียนการสอนตามแนวสร้างความรู้นิยม

ในกลุ่มสร้างความรู้นิยม (constructivism) มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนในการเรียนรู้ และเน้นให้ความสำคัญที่ให้เข้าใจถึงความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่ ณ ปัจจุบัน เพื่อที่จะให้สอนได้อย่างประสบผลสำเร็จ จะมีความก้าวหน้าขณะที่เน้นการสนทนาพูดคุย การโต้ตอบ โต้แย้ง และการปรับเปลี่ยนความคิดกันระหว่างครูและนักเรียนในการกำหนดทางสังคม อย่างมีความสำคัญที่การสร้างความรู้นิยมมุ่งเน้นความเข้าใจเป็นเป้าหมายของการสอน การสร้างความรู้นิยมเริ่มจากการแยกตัวเองออกจาก positivism และ empiricism


การสร้างความรู้นิยมเป็นมากกว่าทฤษฎีทางจิตวิทยา ที่มีองค์ประกอบทางปรัชญาอย่างมีนัยสำคัญ เป็นทัศนะเกี่ยวกับว่าควรจะดำเนินการสอนไปอย่างไร แล้วจะจัดการกับนักเรียนอย่างไร และจัดโครงสร้างชั้นเรียนกันอย่างไร หลักสูตรควรพัฒนาและนำไปใช้อย่างไร เป็นการกำหนดอย่างชัดแจ้ง และในตำแหน่งที่มีความเป็นเลิศดังในปรัชญาวิทยาศาสตร์ จิตวิทยาของการคิดและรู้สึก และปรัชญาของทางการศึกษา

แนวทางสร้างความรู้นิยมเช่นนี้ มองความรู้เป็นการสร้างขึ้นของแต่ละบุคคลและของสังคม มากกว่าจะเป็นการเปิดเผยออกมา ทฤษฎีเป็นเพียงชั่วคราวไม่ใช่สมบูรณ์ วิทยาศาสตร์เป็นเหมือนความรู้ เป็นการสร้างขึ้นเชิงปัญญา และอะไรที่อ้างถึงเป็นเหมือนกับกฏของธรรมชาติ นั้นก็เป็นเพียงผลของกิจกรรมของมนุษย์

การสอนแบบสร้างความรู้เป็นรูปแบบการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนต้องมีความกระตือรือร้น ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมการสะท้อนผลการเรียนรู้ ทำการอนุมาณ และมีประสบการณ์การคิดที่ขัดแย้งกัน

การทำให้เว็บไซต์มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้

ในบล็อกที่แล้วได้เล่าถึงการใช้เทมเพลทในการ สร้างเว็บไซต์ให้มีเว็บบล็อกอยู่ภายใน ในมีการนำเสนอแบบบล็อกอยู่ในหน้าเว็บใดเว็บหนึ่ง แต่เมื่อต้องการให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับเจ้าของเว็บไซต์หรือตามระบบงานใดงานหนึ่ง เช่นว่าให้ผู้ใช้มาสมัครเพื่อขอใช้อะไรบางอย่าง หรือให้ศิษย์เก่ากรอกข้อมูลที่ต้องการบางอย่าง หรือให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบางอย่าง เช่นข้อเสนอแนะ หรือถามคำถามไว้ แล้ว ผู้ดูแลเว็บไซต์ก็มาตรวจดู ข้อมูลที่ส่งมาจากผู้ใช้ ที่ผู้ดูแลเว็บสามารถเปิดเข้าไปดูแล้วตอบโต้ได้


เมื่อก่อนการจะให้ฝากข้อความอะไรไว้ และให้ และผู้ดูแลสามารถที่จะมาดูแล้วตอบกลับได้สะดวก ถ้าหากจำต้องไปเขียนโปรแกรมเองในลักษณะนี้ก็คงทำไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนการเขียนโปรแกรมมา หรือแม้แต่ผู้ที่เขียนโปรแกรมเองได้ก็ตาม ก็ใช่ว่าจะสร้างเว็บให้ได้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้เสมอไป จากการทดลองใช้เทมเพลท บางตัวสามารถดัดแปลงมาจัดเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ได้สะดวก

การใช้เทมเพลทเหมือนกับมีตัวอย่างอยู่ในแบบฟอร์มแล้ว เพียงเปลี่ยนข้อมูลเป็นเป็นของผู้ใช้เสีย แล้วจัดรูปแบบหน้าเว็บเพจซ์ให้น่าใช้ขึ้นก็จะได้เว็บไซต์สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ได้ การเขียนเว็บเพจซ์ลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นลักษณะคล้ายกับการย้อนรอยเชิงวิศวกรรมบางส่วน ที่จะให้ทำงานได้เหมือนกับเทมเพลท ซึ่งทำให้ผู้ที่ไม่ค่อยมีพื้นความรู้ทางการเขียนโปรแกรมก็สามารถที่จะสร้างเว็บเพจซ์ที่ทำงานได้เหมือนกับมืออาชีพ

ทำเว็บไซต์ผสมเว็บล็อก

วันนี้ได้ทดลองเทมเพลทที่ให้เว็บไซต์มีบล็อกอยู่ภายในแล้วให้แสดงบล็อกล่าสุดจำนวนหนึ่งที่หน้า โฮมเพจซ์ได้ คำว่าเทมเพลท คล้ายๆ กับแบบฟอร์มที่มีผู้ออกแบบไว้ให้แล้ว เราเพียงเปลี่ยนแปลงเฉพาะข้อมูลให้เป็นของเรา และดัดแปลงรูปลักษณ์ได้บ้าง การสร้างเว็บไซต์ในลักษณะนี้ ใช้ google site เป็นหลัก และมีคนเขียนโปรแกรมหรือโค๊ด ให้หน้าหนึ่งทำหน้าที่เหมือนกับเว็บบล็อก แล้วนำมาใส่เป็นหน้าหนึ่งของเว็บเพจซ์


การที่ยอมให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีความรู้ในการเขียนโปรแกรมสามารถที่จะสร้างโฮมเพจซ์หรือเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพได้ เหมือนกัน สามารถนำไปเขียนโฮมเพจซ์ เป็นแหล่งเก็บข้อมูลของหน่วยงานได้ และที่น่าสนใจตรงที่ทุกอย่างเป็นบริการฟรี มีอินเตอร์เนตแอดเดรสเอง และมีเนื้อที่บนอินเตอร์เนตเพียงพอที่จะใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนสมุดบันทึกประจำวันได้ โดยสามารถสืบค้นหาข้อมูลได้ง่าย ที่ผู้ให้บริการเตรียมฟังขั่นการสืบค้นไว้ให้แล้ว ทำให้สะดวกประหยัดการใช้กระดาษไปได้มาก

วันนี้ได้ทดลองทำเว็บไซต์ลักษรณะนี้ไว้ ยังไม่สมบูรณ์แต่เป็นตัวอย่าง ลองเข้าไปดูที่ http://sites.google.com/site/hussachaionline/ จะเห็นว่ามีรูปลักษณ์เป็นเว็บไซต์ที่มีเว็บบล็อกในตัว สำหรับผู้ที่สนใจวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้มีการอบรมเรื่อง บล็อกและไซต์ จัดโดยกองทุนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโน

โลยี ตั้งแต่เวลา 9.00 เป็นต้นไป ที่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ อาคาร 11

สื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัยมีอะไร

สื่อสิ่งพิมพ์ตึกดำมหาชัย เป็นชื่อโฮมเพจซ์ของเว็บไซต์ http://nakhonmedia.blogspot.com เป็นที่เก็บรายการสื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้บริการ จัดทำโดยกองทุนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช แล้วสามารถไปขอใช้บริการให้ยืมได้ที่ฝ่ายบริการข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห้อง 13104 ชั้น 1 การจัดหาสื่อสิ่งพิมพ์และการดำเนินการได้รับการสนับสนุน จากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสื่อสิ่งพิมพ์และเงินให้กับกองทุนเพื่อมาดำเนินการจัดหาสื่อต่างๆ โดยคาดหวังว่าจะเป็นแหล่งสื่อให้มีมากที่สุดเท่าที่จะหาได้เพื่อประกอบการเรียนรู้ ในลักษณะของ edutainmentต่อไปนี้


สื่อที่เป็นบทความวารสาร สามารถค้นชื่อวารสาร ชื่อเรื่อง ชื่อผู้แต่ หรือผู้เขียน ซึ่งได้จัดหมวดหมู่ไว้อยากดูเฉพาะหมวดหมู่ก็สามารถเข้าไปดูเฉพาะเรื่องนั้นได้ในรูปของป้ายกำกับหรือ label

สื่อที่เป็นวิดีโอ ในรูปของแผ่นวีซีดี (vcd) ในรูปแบบ DIVX, VCDภาพยนต์, VCD สารคดี และเพื่อการเรียนรู้ ในรูปของเพลงและคาราโอเกะ เป็นต้น

สื่อที่เป็น DVD ภาพยนต์ และ DVD อื่นๆ

สื่อที่เป็นซอทพ์แวร์มัลติมีเดีย เพื่อการเรียนรู้เสริมด้านต่างๆ

สื่อที่เป็น อีบุคในรูปของดิจิทัลไฟล์ ที่สามารถบันทึกลงแฮนดี้ไดร์ฟได้

สื่อต่างๆที่กล่าวมาแล้วกำลังได้รับการบันทึกเก็บไว้ในรูปของblog เพื่อให้ง่ายในการสืบค้นและให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระยะการทดลอง ก่อนที่จะให้บริการเต็มรูปแบบตอนปีใหม่ 2553

และเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จึงได้พยายามจัดหาสื่อเพื่อช่วยในการเรียนรู้ทั้งในรูปของวีซีดี และดีวีดี โดยเฉพาะ ภาพยนต์ที่พูดอังกฤษบรรยายอังกฤษ และภาพยนต์พูดอังกฤษบรรยายไทย รวมทั้งภาพยนต์ที่พูดอังกฤษเพียงอย่างเดียว ขณะนี้ที่มีอยู่ในรายการดีวีดี ราว 300 รายการ ในรูปของแผ่นวิซีดี อีกราว 1000 รายการ
ต่อไปทางกองทุนจะได้รีวิวให้ทราบว่าสื่อต่างๆ ที่มีให้บริการนั้นมีรายละเอียดใดบ้างต่อไปเป็นระยะ

เมื่อผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

ในแนวทางที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การสร้างความรู้เป็นไปในทางที่ร่วมกันทำร่วมกันสร้าง การเรียนรู้ผ่านทางการเข้าร่วมของผู้เรียนมากกว่าการท่องจำจากบันทึกคำบรรยายหรือเลคเชอร์ การเรียนรู้ของผู้เรียนได้รับการดูแลอำนวยความสะดวกจากการสอนที่ดี และให้ผลลัพธ์การเรียนรู้ในทางบวกที่ได้รับกาส่งเสริมสนับสนับสนุนมากขึ้น ผู้สอนสนับสนุนการร่วมไม้ร่วมมือมากขึ้นโดยการฝึกให้มีพฤติกรรมเช่นนั้น ที่จะนำผู้เรียนไปสู่ความรับผิดชอบในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ในการนี้ต้องใช้ยุทธวิธีต่างๆ กล่าวคือ


รู้จักผู้เรียนของตัวเอง

ส่งเสริมการเรียนรู้ที่นำทางด้วยตนเอง

พัฒนาให้ผู้เรียนรับรู้ ได้รู้เกี่ยวกับการเรียนรู้ของตัวเอง

นำผู้เรียนเข้าสู่สถานการณ์การเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นและให้มีประสบการณ์

ให้คุณค่ากับการปฏิสัมพันธ์

ให้และรับ การสะท้อนผลการเรียนรู้

มุ่งเน้นการเรียนรู้ในชั้นเรียนให้มาก

เลือกยุทธวิธีและเทคนิคที่เหมาะสมกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์การเรียนรู้

อ้างอิง จากการนำเสนอ ใน ICASE Asian Symposium 2007 Science Education for All โดย Vantipa Roadrangka

ทัศนะความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์และปรัชญา

ตามที่เราทราบความเป็นมาของที่มาของวิทยาศาสตร์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ว่าเดิมที่นั่นเรียกว่าวิชาปรัชญาธรรมชาติ แต่เมื่อมีการพัฒนาของสาขาวิชาต่างๆ มาขึ้น และมีการศึกษาเป็นความรู้ที่ชัดแจ้งมากขึ้น จึงเป็นที่มาของสาขาวิชาต่างๆ ที่แยกตัวออกจากปรัชญาธรรมชาติ


เปียอาเจต์ (Piajet) มองวิทยาศาสตร์เหมือนวิธีการเข้าสู่เป้าหมาย วิทยาศาสตร์เป็นเหมือนกับกิจกรรมสำหรับการแก้ปัญหาทางปรัชญา ดังนั้นตามทัศนะของเขา วิทยาศาสตร์และปรัชญามีความสัมพันธ์กันเป็นการเฉพาะที่มีความเกี่ยวเนื่องกันดังกล่าว ดังนั้นวิทยาศาสตร์นำทางโดยการพิจารณาทางปรัชญา แต่ปรัชญาเหมือนกับการได้รับกำลังส่งเสริมบำรุงโดยอาศัยคำตอบทางวิทยาศาสตร์

จุดร่วมและจุดต่างของความรู้ชัดแจ้งและที่ฝังลึกในตัวคน

ไม่ว่าจะเป็นความรู้แบบชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) หรือความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) ต่างก็ต้องนำไปใช้หรือมีการปรับปรุงก่อนนำมาใช้ให้เหมาะตามบริบทและเวลาแล้วก็ตาม ก็จะต้องมีการเรียนรู้ยกระดับขึ้นอีกสำหรับความรู้ที่ชัดแจ้ง ขั้นต่อไปเป็นการรวมรวมจัดเก็บไว้ให้เรียกใช้ง่ายและสะดวก สามารถเข้าถึงและตรวจสอบให้ชัดแจ้ง


แต่สำหรับความรู้ที่ฝังลึก นั้นหลังจากที่ปรับใช้แล้ว หากมีใจที่จะแบ่งปัน มีการแนะนำให้ผู้อื่น ซึ่งผู้มีความรู้อยู่ในตัวมักจะมีความชำนาญจนมีทักษะ แม้กระนั้นก็ตามเมื่อนำไปแบ่งปันให้ผู้อื่นก็จะพบปัญหาที่ให้ต้องปรับปรุงให้เหมาะสมตามสถานะการณ์อีก จึงเป็นการเรียนรู้ร่วมกันกับผู้อื่นด้วย แล้วความรู้นั้นก็อาจมีการยกระดับใหม่หรือสร้างขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมแล้วจึงปรับใช้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นว่าไม่ว่าเป็นความรู้ที่ชัดแจ้งหรือความรู้ทีฝังลึกในตัวคนต่างก็ต้องนำออกมาใช้ เป็นจุดร่วมกัน และไม่ว่าเป็นความรู้แบบใดยิ่งใช้มากก็ยิ่งก่อให้เกิดการพัฒนาไป ปรับปรุงความรู้ดีขึ้นได้เรื่อยๆ

ตามแนวคิดของ ดร.ประพันธ์ผาสุกยืด นั้นการพัฒนาความรู้ที่ชัดแจ้งนั้นต้องมีเครื่องมือและเทคโนโลยี (Tool & Technology) หรือ 2Tที่จะใช้ในการจัดเก็บ สืบค้น และเรียกใช้ได้เร็วและสะดวก รวมทั้งใช้ในการตรวจสอบความถูกต้อง ว่ามีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับใด ส่วนความรู้ที่ฝังลึกในตัวคนนั้นต้องอาศัย กระบวนการ (process) และคน (People) ในกระบวนงานจำเป็นต้องมีรายละเอียดของงานและขั้นตอนงาน ในการนำความรู้ไปใช้ต้องเกี่ยวข้องกับคนที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีปฏิสัมพันธุ์กันที่เรียกว่าเน้นใช้ 2P

โดยสรุปความรู้แบบชัดแจ้ง และแบบฝังลึกทั้งสองอย่างต้องมีความสมดุลย์กัน ซึ่งจะต้องมีการเน้นทั้ง 2T และ 2P ที่จะต้องหนุนเนื่องเสริมกันและกัน จึงจะเรียกว่ามีความสมดุล