หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มาตรการความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนที่ไม่ธรรมด

ปีนี้มีการรณรงค์โดยใช้ข้อความว่า "ดื่มไม่ขับ" ก็เป็นที่รู้กันว่าคำว่าดื่มนั้นหมายถึงดื่มเหล้าหรือ่ของมึนเมาทั้งหลายซึ่งดีกว่าที่จะใช้คำว่า "เมาไม่ขับ" ดังในปีที่ผ่านๆมา เพราะถ้าเมาแล้วก็ไม่สามารถควบคุมได้ว่าไม่ขับ เพราะคนเมามักไม่รู้ว่าตัวเองเมา ดังนั้นการที่ดื่มแล้วไม่ขับนั้นไม่ได้หมายความว่าดื่มน้ำดื่มกาแฟ แต่เป็นการดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาได้ จากการศึกษาหลายสำนักพบว่าแม้ว่าจะดื่มไม่มากเพียงแก้วเดียวก็ทำให้การควบคุมในการขับขี่ลดลงจากปกติเกือบครึ่งแล้วโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า

ในประเทศญี่ปุ่นนั้นแม้จะดื่มเหล้าไม่มากแค่จิบๆ เท่านั้นเขาก็จะไม่ขับรถแล้วเคยมีกรณีที่สามีขับรถไปบ้านเพื่อนและไปกินอาหารบ้านเพื่อนคงจะดื่มเหล้าสาเกไปด้วยเพื่อนก็ไม่ยอมให้ขับรถกลับเองแล้ว บางรายก็โทรให้ภรรยามาขับรถกลับ การให้ความสำคัญในเรื่องนี้ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นน้อยในญี่ปุ่นและประชาชนคนญึ่ปุ่นก็ให้ความร่วมมือกันดี ที่เห็นใครดื่มแล้วก็ช่วยกันห้ามช่วยกันเตือนว่าไม่ให้ขับรถ หรือถ้าเห็นว่ายังทำอีกก็โทรบอกตำรวจให้มาจัดการ บางเมืองในญ่ี่ปุ่นพบว่าไม่ค่อยมีโจรผู้ร้ายห้องขังก็ยังไม่ว่างเปล่า ก็มีจับมาขังไว้บ้างก้คือพวกที่เมาเหล้า หายเมาตอนเช้าก็ปล่อยกลับบ้านไป

เช่นเดียวกันในอะเมริกาประชาชนก็มักให้ความร่วมมือดี มักจะโทรบอกตำรวจเช่นกันหากเห็นพฤติกรรมการดื่มและขับรถ และตำรวจเขาก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีด้วย เพราะมักจะตรวจตราสอดส่องเรื่องนี้มากเหมือนกัน ไปเที่ยวบาร์คลับตอนกลางคืนหลังจากบาร์คลับเลิกตำรวจก็จะมาตรวจอัลกอฮอร์หากหรือทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง หากเกิดระดับอัลกอฮอร์มาตรฐาน หรือให้เดินไม่ตรงแนวก็จะไม่ยอมให้ขับรถ มีคนไทยเคยไปอบรมที่อะเมริกาเช่ารถขับไปเที่ยวกัน ก็ซื้อเบียร์ไปกินในรถกัน ก็ไม่รู้ใครโทรบอกตำรวจให้ตรวจรถถูกเรียกตรวจแล้วตำรวจก็ไม่อนุญาติให้นำเบียร์ไปในรถต้องเททิ้ง

บางประเทศในยุโรปสำหรับคนที่ขับรถบัสโดยสาร ทั้งทางใกล้ไกลต้องมีใบบันทึกการขับรถประจำวันที่ตำรวจจะเรียกมาตรวจได้ มีกฏอยู่ข้อหนึ่งว่าวันหนึ่งต้องขับรถได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าจะให้เขาขับรถมากกว่านี้นั้นคนขับก็จะไม่ทำ เพราะถ้าตำรวจเรียกตรวจเมื่อไรก็จะมีความผิด อันนี้เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย ในประเทศมาเลเซียมีการติดตั้งกล่องดำเพื่อไว้ติดตามตรวจสอบรถที่วิ่งว่าอยู่ตำแหน่งไหนและด้วยความเร็วเท่าใด หากขับรถเกินความเร็วที่กำหนดจะมีเสียงเตือนและอาจมีโทษ 

สำหรับประเทศไทยก็ยังไม่ค่อยเห็นมาตรการใหม่ๆที่ก่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หากพบว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นคนดื่มเหล้าก็ต้องออกมาตรการใหม่ๆ เช่นเพิ่มโทษคนที่ตรวจพบว่ามีอัลกอฮอร์เกินกว่ากำหนดต้องได้รับโทษทันทีอย่างน้อยกักบริเวณจนระดับอัลกอฮอร์ลดลงในระดับปกติและมีโทษปรับเป็นเงิน สำหรับคนที่เกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าดื่มเหล้านั้นจะต้องมีโทษอย่างน้อยกักบริเวณอบรมการขับขี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น