หน้าเว็บ

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

ควันหลงนำเสนอผลงานวิชาการที่ไบเทคบางนา

บรรยากาศเมื่อไปถึง งานค่อนข้างเงียบเหงา แต่เมื่อเดินเข้าไปบริเวณจัดงานก็พอดูคึกคักบ้าง ปีนี้ราชภัฏนครก็นำผลงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโทวิทยาศาสตร์ศึกษา 4 เรื่องนำเสนอในรูปของโปสเตอร์และบทความ และเป็นผลงานของอาจารย์อีก 4 ท่าน 5 รายการ คืออาจารย์ประวิทย์ อาจารย์ผศ.ดร.ศุภวรรณ อาจารย์ มยูร และ อาจารย์ขณิษฐา รวมที่ไปนำเสนอ ทั้งหมด 9 รายการ ที่มีตราราชภัฏนครไปปรากฏ ถ้านับดูก็น่าจะมากที่สุดของมหาวิทยาลัยราชภัฏแล้วเฉพาะส่วนที่เป็นโปสเตอร์ การนำเสนอด้วยโปสเตอร์นั้น

โดยหลักๆ ต้องมีชื่อเรื่องเป็นไทยอังกฤษ มีบทคัดย่อ บทนำ วิธีการวิจัย มีบทสรุปและ การอ้างอิง ก่อนที่จะนำมาแสดงได้ก็ต้องส่งให้ตรวจสอบก่อนและอาจส่งให้มาแก้ไขก่อน ถ้าผ่านก็จะมีหนังสือแจ้งมาให้นำโปสเตอร์ไปแสดงได้ โดยเจ้าของต้องนำไปติดเอง ตามวันและสถานที่ตามหมายเลขที่ติดไว้ที่บอร์ด กรรมการจะนัดมาดูโปสเตอร์ที่บอร์ดหนึ่งครั้งที่เจ้าของจะต้องอยู่ตอบคำถามใน กรณีที่มีการประกวดด้วย การเข้าร่วมงานนำเสนอผลงานในครั้งนี้มีบรรยายที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่นเรื่องนาโนเทคโนโลยี เรื่องการเปลียนแปลงของภูมิอากาศ ที่ทำให้ทราบว่าตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคน้ำแข็งแต่เนื่องจากเราใช้พลังงาน ฟอสซิลมากทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขั้นพระกาฬทำให้ยืดการเข้าสู่โลกยุคน้ำแข็ง ออกไป และเนื่องจากคาร์บอนไดออกไซต์อันเป็นตัวการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนั้น มีวัฏจักร์ที่ค้างอยู่ได้ในชั้นบรรยากาศนานถึง 200 ปี ดังนั้นไม่ว่าเราจะลดแกสนี้ให้น้อยลงอย่างไร โลกก็ยังร้อนต่อไปอีก 200 ปี ที่จะเย็นลงนั้นยากเพราะยังคงมีการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซต์อย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ การปลูกอ้อยให้ได้ไร้ละ 100 ตัน ซึ่งอยู่ในกระบวนการการจดลิขสิทธิ์ กรรมวิธีในการทำให้ได้ผลผลิตสูงเช่นนั้น หากชาวบ้านเอาแนววิธีไปใช้ช่วยทำให้ผลผลิตสูงขึ้นได้เช่นจากเดิมไม่ถึง 20 ตันต่อไรก็จะเพิ่มขึ้น เป็น 50 ตันต่อไรได้ 

สำหรับด้านไอที ก็ได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับซอพท์แวร์รุ่นใหม่ๆ เช่น ค่ายอะโดบี เจ้าของผลงานไฟล์พีดีเอ็ฟ (pdf) ได้เพิ่มความสามารถให้นอกจากใส่รูปแล้วใส่เสียงและวิดีโอได้อีกด้วย สำหรับโฟโตชอพท์ไม่ต้องพูดถึงการใช้งานที่ง่ายขึ้น และเทคนิคใหม่ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ รวมทังการทำภาพเคลื่อนไหวที่จะนำมาใช้ทางการศึกษาในกรณีของแฟลต ที่สร้างภาพเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นมาก คงต้องขอต่ออีกสักตอน คราวหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น