หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รายงานข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วม

ช่วงที่มีน้ำท่วม โคลนถล่มมาทำเอาบ้านพังไปหลายหลัง ในช่วงนี้แหละที่มีรายงานข่าวแบบเกาะติดสถานะการณ์ บ้างก็รายงานเกินจริง เป็นต้นว่าช่วงที่ทะเลโคลนไหลท่วมบ้านที่กระบึ่ที่ภูเขาพนมเบญจา ก็มีรายงานว่ามีชาวบ้านสูญหายไปหลายร้อยคน แต่ความจริงมีบ้านคนอยู่แค่ 20 หลังคา จะมีคนสูญหายเป็นร้อยๆ คงไม่ได้สงสัยว่าจะเข้าใจว่ามีหมู่บ้าน 20 หมู่บ้านหรือเปล่า

รายงานข่าวอีกที่หนึ่งขณะที่น้ำกำลังไหลแรง ข้ามถนนผู้รายงานก็บอกเลยว่า ที่น้ำได้ไหลแรงและเร็วก็เพราะมีถนนมากั้น ตามหลักแล้วถ้ามีอะไรมากั้นขวางทางน้ำไว้ก็น่าจะทำให้ไหลช้าลงลดความเร็วลงได้บ้าง
และก่อนหน้าที่จะมีน้ำท่วม ก็มีแผ่นดินไหวในพม่าก็มีพิธีกรทีวีช่องหนึ่งให้ความสนใจเรื่องแผ่นดินไหวมากติดตามผลกระทบในประเทศไทยที่มีเสียหายเล็กน้อยหลายที่ขณะนั้นก็ไม่มีภาพให้เห็นว่าในประเทศพม่าเสียหายอย่างไร ต่อมาภายหลังก็เห็นว่าบางเมืองเสียหายบ้านพังเกือบหมด พิธีก่อนก็ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ก็ยิ่งคำถามว่าจะเกิดสึนามิหรือไม่ เหมือนกับว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากสึนามิยั้งงั้นแหละ แต่ไม่มีจังหวัดใดที่ติดชายแดนพม่าที่อยู่ติดทะเลที่จะทำให้เกิดสึนามิได้ และสึนามีที่จะเกิดขึ้นก็จะส่วนใหญ่ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวจะต้องอยู่ในทะเล

ลักษณะการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าว อยู่ในรูปของการรายงานที่อยู่ในพื้นที่จริง ขณะที่น้ำยังท่วมอยู่ ผู้รายงานข่าวบางคนก็ดูจะรายงานด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับพยายามให้ดูเสียหายมากแล้วคนจะสนใจดูรับฟังยังไงยังงั้น เป็นเหตุทำให้รายงานเกินจริงก็มี มีการรายงานข่าวคนที่ออกมาพูดในเชิงตำหนิที่ช่วยชาวบ้านได้ไม่ทันท่วงที ถึงขั้นกล่าวหานายกว่าไม่ใส่ใจเพราะลงไปดูแลน้ำท่วมช้าก็มี เปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเขากว่าจะมาเมืองที่เสียหายมากที่สุดก็อีกตั้งหลายวัน เพราะวิธีคิดของคนญี่ปุ่นอาจจะต่างกัน ไทยเพราะคนญี่ปุ่นรักชาติจริงจัง จึงขึ้นชื่อในเรื่องของชาตินิยม หากลงไปช่วยมาก(แบบไม่เกินไป)ก็อาจจะเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีกันว่าไม่สามารถช่วยตัวเอง ไม่มีความสามารถที่จะช่วยเหลือดูแลกันเลยกัน และการให้ผู้นำสูงสุดไปในดินแดนอันตรายก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้นำจึงต้องเคลียร์ให้แน่ใจก่อนที่ผู้นำจะลงพื้นที่ เพราะน่าจะเอาสติปัญญาสมองไปแก้ปัญหาประเทศที่สำคัญกว่า
ข่าวที่ได้รับความสนใจกันมากคือข่าวคนเสียชีวิตเนื่องจากหนีไม่ทัน ข่าวการสูญเสียของชาวบ้าน ก็จะได้รับความสนใจ ก็จะเป็นการดีถ้าหากเมื่อทราบข่าวกันแล้วก็ส่งความช่วยเหลือไปให้ น้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้วผู้ที่ไปช่วยเหลือคนน้ำท่วมก็โดนน้ำท่วมตายเสียเอง ปีนี้ก็เช่นเดียวกันก็มีคนออกไปช่วยผู้อื่นท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวก็มีเสียชีวิตไปอีก ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการติการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ได้ไม่ดียังมีข้อบกพร่อง ก็ให้คิดเป็นเรื่องธรรมดา เพราะในสภาวะเช่นนี้ยากที่จะช่วยได้ทันท่วงที ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองกันไปก่อนที่ความช่วยเหลือจะมาถึง

แต่ข่าวที่ชมผู้มาช่วยเหลือก็มีน้อยแต่ความจริง มีการร่วมแรงร่วมใจกันเกือบทุกภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือ ส่วนใดที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือหลงเหลืออยู่ก็มีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อเข้าไปแล้วจะมีผู้ไปให้ความช่วยเหลือ และก็ต้องชมการช่วยเหลือที่ระดมกันมา ผู้ที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติในครั้งนี้คงไม่ได้คาดคิดว่าจะมีความรุนแรงขนาดนี้ และโดยภาพรวมของการช่วยเหลือสำหรับผู้ประสบภัย ก็ไม่พบว่ามีใครถึงกับอดตาย และไร้ที่อยู่อาศัยโดยไม่มีใครมาเหลียวแล ก็แสดงให้เห็นว่าสังคมเรายังมีเมตตาธรรมที่จะช่วยเหลือผู้ตกยากลำบาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น