หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เกาะติดสถานะการณ์การจลาจลที่กทม.

ได้ติดตามข่าวสถานะการณ์ชุมนุมด้วยใจที่เป็นห่วง ทำอย่างไรจึงจะคืนความสงบสุขให้คลืนกลับสู่ประเทศไทย จะยังไงก็แล้วแต่เราทุกคนต่างก็ได้รับผลกรรมที่เกิดขึ้นไม่โดยตรงก็โดยอ้อมโดยถ้วนหน้ากัน เราชาวอุดมศึกษามีเครื่องมือทางปัญญาอันทรงพลัง ก็คงต้องชี้แนะเสนอทางออก จากเหตุความสับสน ความวุ่นวาย จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นภาวะไร้ระเบียบ ที่ต่างประเทศพูดถึงกันถ้าหากรัฐควบคุมอะไรไม่ได้ เหมือนเป็นรัฐซ้อนรัฐแล้วประเทศเราก็จะเป็นประเทศที่ล้มเหลว (fail state)


ในรายละเอียดเกี่ยวกับรัฐที่ล้มเหลวนั้น ในรายการทีวีที่คุณแทนคุณเป็นผู้ดำเนินรายการ เชิญคุณ โสภณ สุภาพงษ์ มาพูดที่ทำให้เราได้ตระหนักว่าถ้าเราไม่ช่วยกันแล้ว เราอาจเป็นรัฐหรือประเทศที่ล้มเหลวแล้ว ต่างชาติอาจเข้ามาแทรกแซงได้ ตัวชี้วัดเริ่มเข้าข่ายมากขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นความเป็นรัฐชาติก็อาจสูญสลายไป ระบบเศรษฐกิจของเราก็จะล่มสลายตามไปด้ว ก็ต้องถามต่อวส่าแล้วเราจะอยู่กันอย่างไร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีคนที่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นและมีคนบงการอยู่ด้านนอก คนที่ขุมนุมอยุู่นั้นเป็นเพียงเครื่องมือหรือเป็นเบี้ย ผู้บงการดังกล่าวนับว่าเป็นคนที่มีใจอำมหิตที่จ้องทำลายประเทศต้องการให้เป็นรัฐที่ล้มเหลว เขาก็บ่อนทำลายทำอย่างไรให้ประเทศวุ่นวายมีจราจล ให้มีคนตายมากเท่าไรยิ่งดีก็ยิ่งเข้าเงื่อนไขโดยไม่ต้องคำนึงเลยว่าเป็นการฆ่าทำลายคนที่บริสุทธิ์ เพื่อตอกย้ำว่ารัฐไม่สามารถให้ความคุ้มครองประชาชน ไม่สามารถควบคุมอำนาจรัฐ ใช้อำนาจรัฐได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

หากเราชาวมหาวิทยาลัย ชาวอุดมศึกษา ยังไม่ตระหนักในเรื่องที่ประเทศของเรากลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว เป็นเหมือนกับประเทศแถบอัฟริกาละก็ อยู่นิ่งเฉยต่อไป และรอวันที่มีต่างชาติเข้ามาแทรกแซงประเทศไทย และวันนั้นเราคงจะไม่มีอิสระพอที่จะทำอะไรได้อย่างอิสระอีกต่อไป สิ่งที่ชาวอุดมศึกษาทำได้ไม่เพียงแต่การคิด การพูด การกระทำ แต่ต้องใชัปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ที่จะแก้ปัญหาได้โดยสันติวิธีที่มีรูปแบบที่ชัดเจน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น