หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จับประเด็นมาวิพากษ์

ผมมักแวะไปร้านหนังสือ ดูว่ามีหนังสืออะไรบ้างที่น่าสนใจ ที่ต้องการรู้อยากศึกษาก็จะซื้อมา วันนี้มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่าสอนการคิด (teaching thinking) เป็นหนังสือแปลจากนักการศึกษาที่มีชื่อเสียงคือ โบโน ได้นำเสนอเกี่ยวกับการคิดหลายอย่างที่ไปสอดคล้องกับทางพุทธศาสนา ที่ยังไม่อยากซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะว่าการแปลนั้นยังไม่ค่อยได้อรรถรสนัก หรือผมอาจไม่ชอบสไตล์นี้ก็ได้ แต่มีอยู่ตอนหนึ่งของหน้าแรกบทที่ 10 เขียนเป็นประโยคไฮท์ไลท์ไว้ว่า


การคิด เกี่ยวข้องกับการรับรู้

การรับรู้ เกี่ยวข้องกับรูปแบบ

รูปแบบ เกี่ยวข้องกับจิต

มีจิต ก็กำหนดจิต

การคิดเป็นเรื่องซับซ้อนการสอนการคิดจึงไม่ใช่เรื่องที่จะสอนกันได้ง่ายๆ แม้แต่นิยามการคิด ก็มีหลากหลายเหลือเกิน อะไรก็เป็นการคิดได้หมด นักคนเขียนหนังสือเกี่ยวกับการคิดแบบต่างๆ มากมายเป็น เช่น การคิดแบบสร้างสรรค์ การคิดแบบวิพากษ์ การคิดแบบบูรณาการ การคิดเชิงตรรกะ การคิดแบบอนาคต การคิดแบบวิทยาศาสตร์ การคิดเชิงปรัชญา การคิดแบบนามธรรม จะมีการคิดลักษณะนี้ มากมาย ประโยคที่ผมยกมาข้างบนนั้นคงจะอธิบายการคิดทุกแบบ เพราะจะมีการคิดได้ต้องมีการรับรู้ก็ถูกอีก ที่รับรู้มาก็ต้องมีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งคอนเซ็ปท์ใดคอนเซ็ปซ์หนึ่ง และเมื่อมีรูปแบบก็ต้องมีจิตเป็นตัวรับรู้ และเมื่อมีจิตเราก็สามารถที่จะกำหนดจิตเพื่อรับรู้หรือไม่ให้รับรู้ก็ได้ ถ้าฝึกจิตให้เก่งก็จะทำได้

จำได้ว่าตอนที่ผมสอนคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ นั้นกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์ก็คิดได้ระดับหนึ่งองค์ประกอบที่สามารถทำให้คอมพิวเตอร์คิดได้ก็คือคอมพิวเตอร์มีความจำหรือหน่วยความจำ และการตัดสินใจ คอมพิวเตอร์มีกระบวนการรับรู้ให้ข้อมูลเข้าไปเก็บในหน่วยความจำ และคอมพิวเตอร์ตัดสินใจอะไรได้เพราะมีวงจรคำนวณและตรรกะ ที่ตัดสินได้ว่าถูกหรือ ผิด มากหรือน้อย ดำหรือขาวเป็นต้น ด้วยเหตุนี้การคิดจะมีได้ก็ต่อเมื่อต้องจำได้และตัดสินใจ ดังนั้นจะเห็นว่าเราตัดสินใจบนพื้นฐานของความจำที่มีทุกขณะ บางครั้งก็จำทำไปโดยอัตโนมัติ เช่นจะข้ามถนนก็ต้องรู้จักองค์ประกอบอื่นๆ คือจำได้คือถนน รถยนต์ ทางข้ามเป็นต้น จึงจะตัดสินใจข้ามถนนได้ไม่ผิดพลาด

แต่ก็มีบางอย่างที่เราไม่อยากจำเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ ถ้านักร้องคงต้องจำเนื้อร้อง ทำนองให้ได้ อย่างเราๆ คาราโอเกะก็ถมไปแล้ว เรามักจะจำคนใกล้ชิดได้ ถ้าจำไม่ได้คงจะเป็นอัลไซเมอร์ หรือต้องไปตรวจเช็คสมองได้แล้ว และความจำของเราจะจำได้ดีก็ต้องมีส่วนร่วมเคยทำกิจกรรมด้วยกัน เคยอยู่ร่วมชั้นกันหลายปี เป็นต้น คนเรามักเลือกจำบางอย่างเท่านั้น ปัจจุบันถ้าใครจำได้ดีกว่าย่อมได้เปรียบเพราะนำไปคิดต่อได้เยอะไม่ต้องค้นกลูเกิลมากนัก เช่นเดียวกันกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยความจำมากย่อมมีประสิทธิภาพสูงไปด้วย เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการบอกสมรรถนะคอมพิวเตอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น