หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เมื่อประชาธิปไตยสดุด

หลายคนอยู่ไกลปืนเที่ยงจากสถานะการณ์ที่กรุงเทพฯ ต่างก็จับกลุ่มคุยกันติดตามสถานะการณ์ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และต่างก็สรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่อ้างมาแต่ต้นว่าเพื่อมาเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยสันติวิธีนั้น ไม่เป็นความจริง แต่เป็นธุรกรรมอำพรางสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีเป้าหมายอย่างอื่นที่เป็นที่รู้กัน


มีบางคนถามขึ้นมาว่าพวกที่มาก่อความวุ่นวายจริงๆ นั้นมีสักกี่คน ผู้เขียนก็ตอบไปว่าเป็นกลุ่มๆ เป็นร้อยคนก็มี ก็ได้ยินเสียงพูดต่อว่า นั่นแหละสักกี่เปอร์เซนต์ของคนทั้งประเทศ ซึ่งก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ การก่อกวน ก่อความวุ่นวาย ก่อจลาจล รวมทั้งก่อการร้ายของคนกลุ่มนี้ รัฐบาลคงจะนิ่งเฉยดูดายไม่ได้ เพราะได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยาก อย่าได้ไปต่อต้านขัดขวางด้วยกำลังเอง แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ด้วยการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลดูเหมือนจะไม่ทันใจผู้สนับสนุนนัก แต่ก็ทำให้เกิดความสูญเสียบ้างเป็นธรรมดา ถ้าดูช่วงเวลาคั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมและมีการปะทะ ถ้านับการสูญเสียทั้งหมดที่เสียชีวิตรวมราวครึ่งร้อย แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ และความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงและเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่คนเสียชีวิตจำนวนมากกว่าหลายเท่าจากอุบัติเหตุในช่วงวันสงกรานต์และวันปีใหม่ ซึ่งความรู้สึกแตกต่างกัน ที่ยังคงรู้สึกมีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์มากกว่าโดยภาพรวม

เมื่อหันมาดูประชาธิปไตยที่เรียกร้องกันนั้น ก็ยังไม่ทราบแน่นอนว่าเข้าใจประชาธิปไตยกันหรือไม่ว่าคืออะไร ถ้ามีความเข้าใจก็คงไม่เกิดวิกฤตินำมาสู่การจลาจลอยู่ในปัจจุบัน ถ้าว่าไปแล้วประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่มั่นคงอย่างในอังกฤษและฝรั่งเศษนั้น ที่เริ่มประชาธิปไตยมายาวนานนั้น เริ่มต้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่ลัมลุกคลุกคลานมาเหมือนกัน ในอังกฤษมีการปลงพระชนกษัตริย์ อันเชิญกษัตริย์มาปกครองใหม่ มีการปฏิวัติ ในฝรั่งเศษมีการปฏิวัติเลิกระบบกษัตริย์ มีความวุ่นวายและปฏิวัติอีกนับสิบครั้ง และประชาธิปไตยในประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องฟันฝ่าพงหนามอันเป็นอุปสรรค์ต่อไป แม้ว่าจะสะดุดเป็นครั้งคราว แต่ความรู้สึกของคนไทยน่าจะมีเหมือนกันไม่ว่ายุคไหนจะมีประชาธิปไตยเต็มใบหรือไม่เต็มใบก็ตาม ก็คือความมีอิสระภาพ ยังมีความเป็นไท ที่ยังทำอะไรต่ออะไรได้ และอาจจะเลยเถิดไปจนทำให้ไม่เคารพกฏหมายหรือละเมิดสิทธิผู้อื่นได้ง่าย โดยมองความเป็นธรรมกับพวกพ้องผู้มีพระคุณมากเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น