หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คนชอบมุสาพึงระวัง

เมื่อเร็วๆนี้ ได้เปิดอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มีข้อความตอนหนึ่งพอประมวลได้ว่า "พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ว่า คนที่พูดมุสาได้โดยไม่ละอายใจเลยนั้น บาปอื่นใดที่มีคนผู้นนั้นสามารถทำได้ทุกอย่าง" ทำให้นึกเปรียบเทียบกับข่าวที่อยู่ในกระแสและในบริบทของมหาวิทยาลัยของเรา


ตัวอย่างเช่นมีการกล่าวหากันว่าถูกจับแก้ผ้า อีกฝ่ายก็ออกมาตอบโต้ว่าตีหน้าเศ้ราเล่าความเท็จ เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดความจริงทั้งสองฝ่าย และพูดความเท็จทั้งสองฝ่าย จึงต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นผู้พูดมุสา เราคนธรรมดาจะไปตัดสินใครผิดใครถูกคงไม่ได้ แต่ได้แต่นึกถึงหลักธรรมดังที่ยกมาข้างตน ว่าใครเคยทำบาปมามากกว่ากัน มีหลักฐานให้เห็นมาบ้างหรือเปล่า หรือคอยดูต่อไปในอนาคตว่าทำชั่วอันเป็นบาปอีกหรือไม่ เพราะถ้าพูดโดยไม่ละอายใจไม่ได้หลงผิดแล้วก็ทำชั่วหรือบาปได้ทุกอย่าง และแม้จะไม่ได้รับการลงโทษแต่จะติดอยู่ในจิตใต้สำนึกของผู้นั้นที่จะเป็นวิบากกรรมต่อไปตามกฏแห่งกรรม

ในกรณีการสอบไล่ปลายภาคเรียนที่จะถึงนี้ การที่นักศึกษาตั้งใจที่จะทุจริตในการสอบ หรือมีเจตนาในการทุจริต เปรียบเหมือนกับการมุสาอย่างไม่ละอาจใจ นักศึกษาผู้นั้นก็มีโน้มเอียงที่จะทำบาปอื่นได้ทั้งหมด ก็เหมือนกับถูกตราหน้าว่าคนชั่ว ทำบาป น่าจะเป็นบุคคลที่น่าเฝ้าระวังต่อไป ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะมีแนวโน้มว่าจะไปทำบาปอื่นๆ ได้ เพื่อให้ผู้เข้าสอบพึงสังวรณ์วไว้น่าจะเขียนกระดาษหน้าห้องสอบว่า "คนที่ตั้งใจทุจริตในการสอบได้ มีความโน้มเอียงที่จะทำชั่วอย่างอื่นได้หมด ที่ทุกคนพึงระวัง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น