เมื่อไม่กี่ปีมานี่ผมได้ยินคำว่าคอมพิวเตอร์ยูบิควิตัส (ubiquitus) บ่อยครั้งขึ้น ตามความหมายของคำนี้นั้นหมายถึงสิ่งที่สามารถเห็นได้ทุกที่ที่ไป ซึ่งคงจะไม่ใช่ทุกที่จริงๆ แต่ที่เข้าใช้คำนี้นั้นก็เพื่อเน้นให้เห็นว่ามีการใช้กันมากทุกๆ ด้านแล้ว แต่ถ้าลองนึกถึงอีกคำหนึ่งคือคำว่าดิจิทัล (digital) ซึ่งความหมายตามตัวอักษรคือ ที่เป็นตัวเลขเกี่ยวกับตัวเลข การทำงานของคอมพิวเตอร์ก็ใช้หลักการของตัวเลข จึงได้ชื่อว่าดิจิทัลคอมพิวเตอร์ เพื่อเน้นย้ำว่าใช้หลักการของตัวเลข และต่อมาได้ขยายขอบเขตไปใช้ในอุปกรณ์อื่นๆ เครื่องมืออื่นๆ ที่ใช้หลักการทางตัวเลขในการทำงานก็เรียกเครื่องมือเครื่องใช้นั้นต่อท้ายว่าดิจิทัล บางอย่างใช้กันจนเป็นที่รู้กันละไว้ไม่มีคำว่าดิจิทัลต่อท้าย ตัวอย่างง่ายๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ ก็ไม่ค่อยมีใครเรียกว่าโทรศัพท์มือถือดิจิทัล แต่หลายอย่างยังคงเรียกอยู่ เช่นกล้องถ่ายรูปดิจิทัล เครื่องเสียงระบบดิจิทัล เป็นต้น ดังนั้นถ้าจะเรียงสิ่งที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งมากกว่าคอมพิวเตอร์ แล้วน่าจะเรียกว่า ดิจิทัลยูบิควิตัสมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์ เครื่องใช้ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ด้วยอยู่ทุกที่มากกว่าแน่นอน
ด้วยความที่มีการผลิตสินค้าที่ใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้นทุกที และรู้สึกถึงความทันสมัย และทำงานอัตโนมัติได้ อำนวยความสะดวกให้พวกเราได้ดีกว่า เมื่อก่อนจะวัดอุณหมิก็ต้องไปดูที่ตัวเลขตามความสูงของปรอท ในระบบดิจิทัลแก็แสดงเป็นตัวเลขให้เห็นได้ทันที เช่นเดียวกับเคริ่องมือวัดความดันเมื่อก่อนเมื่อวัดความดันอ่านตัวเลขตามตำแหน่งขึ้นลงของปรอทปัจจุบันก็เป็นตัวเลขแสดงผลได้ทันที่เป็นต้น
เมื่อพูดถึงการทำงานของระบบดิจิทัลนั้น สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางด้านไฟฟ้าหรือฟิสิกส์มากนักก็สามารถที่จะเข้าใจได้ไม่ยากนักนอกจากการศึกษาวงจรดิจิทัลในขั้นสูง ดังที่ทราบกันแล้วว่าหลักการทางตัวเลขอย่างหนึ่งที่ใช้ในระบบดิจิทัลก็คือตัวเลขฐานสองที่มีเฉพาะเลข 0 และเลข 1 ดังนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องนำไปใช้ในการทำงานต่อไปจะต้องแปลงหรือเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของเลข 0 และ 1 ซึ่งสร้างวงจรได้ง่าย และวงจรพื้นฐานของดิจิทัลมีไม่กี่ชนิด สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมากนักก็สามารถทำความเข้าใจวงจรดิจิทัลได้ไม่ยาก สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น