หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ธรรมชาติของสรรพสิ่ง

เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างจะมี ธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบๆตัวมนุษย์ และธรรมชาติของตัวมนุษย์เอง


สำหรับธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมตัวมนุษย์ มนุษย์ได้เริ่มเกิดความสงสัยและตั้งคำถามทำให้ทราบความจริงของธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น และดูเหมือนว่าจะรู้มากขึ้นเท่าใดก็จะมีความไม่รู้มากขึ้นเท่านั้นด้วย เพราะเมื่อตอบคำถามหนึ่งได้แล้ว นำไปอธิบายได้แล้ว แต่จะยังคงไม่มีความสมบูรณ์อยู่อีก ที่ก่อให้เกิดคำถามต่อมาอีกไม่สิ้นสุด

เช่นเดียวกันกับธรรมชาติของมนุษย์เองอันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้ที่เพิ่มขึ้นตามการเรียนรู้ที่มากขึ้น ยังไม่มีใครที่ทราบได้ถึงการทำงานภายในร่างกายที่แท้จริงได้หมด ยังมีการค้นพบในเรื่องการทำงานของร่่างกายมนุษย์ใหม่ๆ ที่มาอธิบายความรู้ที่มีอยู่เดิมได้เรื่อยๆ ตั้งแต่ปัญหารากฐานอันเป็นโครงสร้างของสาร ที่ลงลึกไปเลยขอบเขตความสามารถของตาที่มองเห็น ต้องใช้เครื่องมือช่่วยในการมองอันได้แก่กล้องจุลทรรศน์แบบต่างๆ

นอกจากธรรมชาติในทางกายภาพที่เรามองเห็นจับต้องได้ รู้สึกได้ แล้วยังมีธรรมชาติในทางชีวภาพในสภาพของสิ่งมีชีวิต มีการเติบโต มีการเสื่อมสภาพและสลายไป และมีการเกิดใหม่ และนอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ ที่เกี่ยวข้องกับความคิด การรับรู้ ความรู้สึก และอารมณ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มนุษย์จะต้องจัดความสัมพันธ์ให้ได้อย่างเหมาะสมจึงจะคงอยู่รอดต่อไปได้ ซึ่งรวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่่างธรรมชาติของเรื่่องต่่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ทำอย่างไรให้เกื้อกูลกัน รู้เหตุรู้ผลของสิ่งต่างๆ ว่าเกื้อหนุนกันอย่างไร มีความเป็นเอกภาพ และสมดุลย์ ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติอย่างหนึ่งที่สามารถปรับความสมดุลย์ด้วยตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น