แมลงมุมกล่าวกันว่าในพื้นที่มีพืชสีเขียวที่
1 ไรจะมีแมลงมุมอยู่ประมาณ 50000 ตัว มีความสำคัญต่อสมดุลตามธรรมชาติ
ในแต่ละปีแมลงมุมจะทำลายแมลงอื่นมากกว่า 100
เท่าของจำนวนแมลงมุมที่มีอยู่
แมลงสาปแมลงสาปมีความทรหดอดทนที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ธุรกันดารแล้วยังทนต่อรังสีนิวเคลียร์ได้ดี
กล่าวได้ว่ามีความสามารถในการอยู่รอด ถ้าเด็ดหัวมันให้ไม่ให้เลือดมันไหลได้แล้ว
ก็ต้องลองค่อยๆเด็ดหัวแมลวสาปดู ถ้าเลือดไหลออกมากมันจะตาย
ถ้าเลือดไม่ไหลออกมาแล้วละก็มันสามารถอยู่ต่อไปได้นานอีกหลายสัปดาห์แม้ไม่มีหัวก็ตาม
เมื่อมันตายในเวลาต่อมานั้นก็เพราะมันขาดอาหารนั่นเอง
หอยทากหอยทากจะสร้างสารใสเหนียวปล่อยออกมาเพื่อปูทางในการป้องกันอยู่ใต้ตัวมันขณะที่มันเคลื่อนที่ไปตามทางที่ปล่อยสารนั้นไว้
การปล่อยสารนี้มีผลสำคัญที่ทำให้หอยทากสามารถคืบคลานไปด้านที่คมของใบมีดโกนได้โดยไม่ระคายผิวตัวทากเลยแม้แต่น้อย
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตสัตว์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชีวิตสัตว์ แสดงบทความทั้งหมด
วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ปลาชะโดที่ไม่ธรรมดา
เพิ่งได้เคยเห็นฝูงลูกปลาชะโดเป็นครั้งแรกในลำคลองที่ตัวเมืองเชียรใหญ่ ที่แปลกก็ตรงที่ไม่เคยเห็นที่จะมีฝูงปลาเป็นร้อยๆ ตัวว่ายน้ำไปด้วยกันโดยมีแม่ปลาชะโดดูแลอยู่ข้างล่าง ด้วยความสนใจก็เลยถามคนแถวๆนั้น จึงทราบปลาชะโดนั้นมีอาการหวงลูกของมันด้วย ใครจะไปจับลูกของมัน มันจะเข้ามากัดทันที และแม่ปลาชะโดนี้ตามที่เขาเล่าบอกว่ามันยังเลี้ยงลูกของมันต่อไปแม้ว่าลูกมันจะตัวโตขึ้นมากแล้วก็ตาม
ลักษณะปลาชะโดคล้ายกับปลาช่อนมาก หัวแหลมกว่ามีสีเทาบนเหลือง และปลายหางแผ่แบบใหญ่กว่าของปลาช่อน และบริเวณลำตัวตอนล่างมีลายที่ละเอียดกว่าของปลาช่อนซึ่งถ้าไม่สังเกตสำหรับปลาแห้งที่ผ่าตากแล้วถ้าไม่มีหลักสังเกตจะดูไม่ออกระหว่างปลาช่อนกับปลาชะโด ซึ่งแน่นอนว่าปลาช่อนรับประทานเนื้ออะหร่อยกว่าเนื้อปลาชะโด ราคาก็น่าจะแพงกว่า
เขาเล่าว่าปลาชะโดเป็นปลาที่กินปลาอื่นเป็นอาหารเช่นปลานิลนั้น ตอนที่ปลาชะโดกินปลานิลนั้น มันกินไปทั้งตัวก็จริงแต่มันมีการขูดเกล็ดและคายเกล็ดปลานิลออกมาให้เห็นด้วย
ได้ถามว่าแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับ ชะโดตีแปลง ก็ได้รับคำตอบว่าปลาชะโดก่อนที่จะวางไขหรือทำอะไรสักอย่างนั้นมีการเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเตียนก่อน จึงเป็นที่มาของทรงผมของคนที่เรียกว่าชะโดตีแปลงนั่นเอง
ลักษณะปลาชะโดคล้ายกับปลาช่อนมาก หัวแหลมกว่ามีสีเทาบนเหลือง และปลายหางแผ่แบบใหญ่กว่าของปลาช่อน และบริเวณลำตัวตอนล่างมีลายที่ละเอียดกว่าของปลาช่อนซึ่งถ้าไม่สังเกตสำหรับปลาแห้งที่ผ่าตากแล้วถ้าไม่มีหลักสังเกตจะดูไม่ออกระหว่างปลาช่อนกับปลาชะโด ซึ่งแน่นอนว่าปลาช่อนรับประทานเนื้ออะหร่อยกว่าเนื้อปลาชะโด ราคาก็น่าจะแพงกว่า
เขาเล่าว่าปลาชะโดเป็นปลาที่กินปลาอื่นเป็นอาหารเช่นปลานิลนั้น ตอนที่ปลาชะโดกินปลานิลนั้น มันกินไปทั้งตัวก็จริงแต่มันมีการขูดเกล็ดและคายเกล็ดปลานิลออกมาให้เห็นด้วย
ได้ถามว่าแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับ ชะโดตีแปลง ก็ได้รับคำตอบว่าปลาชะโดก่อนที่จะวางไขหรือทำอะไรสักอย่างนั้นมีการเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเตียนก่อน จึงเป็นที่มาของทรงผมของคนที่เรียกว่าชะโดตีแปลงนั่นเอง
วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สัตว์ไร้โรค
ที่ว่าเป็นสัตว์ไร้โรคเพราะยังไม่ค่อยพบเจอว่าสัตว์เหล่านี้นำเชื้อโรคใดมาสู่คน ตัวอย่างเช่นจิ้งจก ใครมีบ้านอยู่ก็ไม่อยากให้จิ้งจกเข้ามาอยู่ร่วมกันเพราะมันขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง ถ้าจะเป็นตัวนำโรคได้บ้างก็ขี้ของมันนี่แหละที่จะนำโรคมาแต่ก็ไม่ค่อยปรากฏเท่าใด กลับกลายเป็นว่าจิ้งจกกลับทำประโยชน์ในแง่ที่ว่ามันช่วยกินแมลงต่างๆรวมทั้งยุงที่เข้ามาในบ้าน บางบ้านเห็นจริงจกอยู่ ประโยชน์ที่เคยได้ยินของจิ้งจกคือนำไปทำยาบางประเภทได้ แต่ทีนำมาประกอบอาหารยังไม่เห็นเด่นชัด อาจจะมีคนนำมาทำเป็นอาหารในบางท้องที่ของโลก
สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่เคียงคู่กับบ้านไม่ค่อยเห็นว่ามันนำโรคใดมาให้ ได้แก่มดส่วนใหญ่ที่เข้ามาในบ้านก็เป็นมดตัวเล็กๆ ที่โตขึ้นแบบมดแดงนั้นก็อยู่นอกบ้าน มดคันไฟมดดำขนาดใหญ่ก็มักอยู่นอกบ้าน ที่มันเข้ามาในบ้านส่วนใหญ่เป็นมดตัวเล็กวิ่งเร็ว มาอาศัยอยู่ในบ้านที่ใดนั้นหลบซ่อนตัวดีมาก แต่ที่รู้ว่ามันอยู่กับเราก็เมื่อเราทิ้งเศษอาหารใดไว้มันมากันอย่างรวดเร็ว อาหารหลายอย่างมี่มดมาไต่ตอมเราก็ยังรับประทานได้ บางครั้งมดมาตายอยู่ด้วยก็กินได้ คนโบราณอาจถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เสียดายของกินที่มดมาตอมแล้วถึงกับมีคำกล่าวกับเด็กๆ ว่าใครกินมดแล้วจะทำให้ส่วยหล่อก่อมี อันนี้ก็ชี้ให้เห็นว่ามดไม่ได้นำเชื้อโรคใดมา ความจริงมดมันก็เดินวิ่งอยู่ในที่ที่น่าจะมีเชื้อโรค น่าจะมีใครศึกษาดูว่ามันติดเชื้อโรคสิ่งสกปรกมาหรือเปล่า หรือว่าเท้ามันเล็กมากจนไม่สามารถติดเชื้อใดๆ มาได้
สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่เคียงคู่กับบ้านไม่ค่อยเห็นว่ามันนำโรคใดมาให้ ได้แก่มดส่วนใหญ่ที่เข้ามาในบ้านก็เป็นมดตัวเล็กๆ ที่โตขึ้นแบบมดแดงนั้นก็อยู่นอกบ้าน มดคันไฟมดดำขนาดใหญ่ก็มักอยู่นอกบ้าน ที่มันเข้ามาในบ้านส่วนใหญ่เป็นมดตัวเล็กวิ่งเร็ว มาอาศัยอยู่ในบ้านที่ใดนั้นหลบซ่อนตัวดีมาก แต่ที่รู้ว่ามันอยู่กับเราก็เมื่อเราทิ้งเศษอาหารใดไว้มันมากันอย่างรวดเร็ว อาหารหลายอย่างมี่มดมาไต่ตอมเราก็ยังรับประทานได้ บางครั้งมดมาตายอยู่ด้วยก็กินได้ คนโบราณอาจถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เสียดายของกินที่มดมาตอมแล้วถึงกับมีคำกล่าวกับเด็กๆ ว่าใครกินมดแล้วจะทำให้ส่วยหล่อก่อมี อันนี้ก็ชี้ให้เห็นว่ามดไม่ได้นำเชื้อโรคใดมา ความจริงมดมันก็เดินวิ่งอยู่ในที่ที่น่าจะมีเชื้อโรค น่าจะมีใครศึกษาดูว่ามันติดเชื้อโรคสิ่งสกปรกมาหรือเปล่า หรือว่าเท้ามันเล็กมากจนไม่สามารถติดเชื้อใดๆ มาได้
เรื่องของปูที่ไม่ธรรมดา
วันนี้มีคนนำปูดำมาให้ก็หลายตัว เป็นปูสดยังเป็นๆ ซึ่งก็ต้องมัดก้ามไว้ไม่ให้หนีบคนที่จะมาจับ แต่พอจะทำให้สุกหรือทำเป็นกับข้าวกินก็เกิดสงสาร ถ้าจับใส่หม้อต้มเลยปูก็คงทรมานเจ็บปวดก่อนตาย ก็เลยคิดว่าถ้าเราตัดตัวปูเป็นสองท่อนให้มันตายเสียก่อนแล้ว ปูก็น่าจะทรมานน้อยกว่า ว่าแล้วก็ตัดปูเป็นสองท่อนตามแนวขวางแยกขาออกไปสองด้าน ก็คิดว่าปูคงตายแล้วก็ไปแก้เชือกที่ผูกก้ามหนีบอันใหญ่ออก ทันใดนั้นอย่างไม่คาดคิดมันยังมีแรงหนีบเอานิ้วเสียเหลือดกระฉูดเลย คนที่มาเห็นก็เลยจัดการต้มปูให้โดยไม่ต้องนึกถึงความสงสารอีกต่อไป
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ปลาชะโดที่ไม่ธรรมดา
เพิ่งได้เคยเห็นฝูงลูกปลาชะโดเป็นครั้งแรกในลำคลองที่ตัวเมืองเชียรใหญ่
ที่แปลกก็ตรงที่ไม่เคยเห็นที่จะมีฝูงปลาเป็นร้อยๆ
ตัวว่ายน้ำไปด้วยกันโดยมีแม่ปลาชะโดดูแลอยู่ข้างล่าง
ด้วยความสนใจก็เลยถามคนแถวๆนั้น จึงทราบปลาชะโดนั้นมีอาการหวงลูกของมันด้วย
ใครจะไปจับลูกของมัน มันจะเข้ามากัดทันที
และแม่ปลาชะโดนี้ตามที่เขาเล่าบอกว่ามันยังเลี้ยงลูกของมันต่อไปแม้ว่าลูกมันจะตัวโตขึ้นมากแล้วก็ตาม
ลักษณะปลาชะโดคล้ายกับปลาช่อนมาก หัวแหลมกว่ามีสีเทาบนเหลือง และปลายหางแผ่แบบใหญ่กว่าของปลาช่อน และบริเวณลำตัวตอนล่างมีลายที่ละเอียดกว่าของปลาช่อนซึ่งถ้าไม่สังเกตสำหรับปลาแห้งที่ผ่าตากแล้วถ้าไม่มีหลักสังเกตจะดูไม่ออกระหว่างปลาช่อนกับปลาชะโด ซึ่งแน่นอนว่าปลาช่อนรับประทานเนื้ออะหร่อยกว่าเนื้อปลาชะโด ราคาก็น่าจะแพงกว่า
เขาเล่าว่าปลาชะโดเป็นปลาที่กินปลาอื่นเป็นอาหารเช่นปลานิลนั้น ตอนที่ปลาชะโดกินปลานิลนั้น มันกินไปทั้งตัวก็จริงแต่มันมีการขูดเกล็ดและคายเกล็ดปลานิลออกมาให้เห็นด้วย
ได้ถามว่าแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับ ชะโดตีแปลง ก็ได้รับคำตอบว่าปลาชะโดก่อนที่จะวางไขหรือทำอะไรสักอย่างนั้นมีการเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเตียนก่อน จึงเป็นที่มาของทรงผมของคนที่เรียกว่าชะโดตีแปลงนั่นเอง
ลักษณะปลาชะโดคล้ายกับปลาช่อนมาก หัวแหลมกว่ามีสีเทาบนเหลือง และปลายหางแผ่แบบใหญ่กว่าของปลาช่อน และบริเวณลำตัวตอนล่างมีลายที่ละเอียดกว่าของปลาช่อนซึ่งถ้าไม่สังเกตสำหรับปลาแห้งที่ผ่าตากแล้วถ้าไม่มีหลักสังเกตจะดูไม่ออกระหว่างปลาช่อนกับปลาชะโด ซึ่งแน่นอนว่าปลาช่อนรับประทานเนื้ออะหร่อยกว่าเนื้อปลาชะโด ราคาก็น่าจะแพงกว่า
เขาเล่าว่าปลาชะโดเป็นปลาที่กินปลาอื่นเป็นอาหารเช่นปลานิลนั้น ตอนที่ปลาชะโดกินปลานิลนั้น มันกินไปทั้งตัวก็จริงแต่มันมีการขูดเกล็ดและคายเกล็ดปลานิลออกมาให้เห็นด้วย
ได้ถามว่าแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับ ชะโดตีแปลง ก็ได้รับคำตอบว่าปลาชะโดก่อนที่จะวางไขหรือทำอะไรสักอย่างนั้นมีการเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเตียนก่อน จึงเป็นที่มาของทรงผมของคนที่เรียกว่าชะโดตีแปลงนั่นเอง
ชีวิตสัตว์ที่คาดไม่ถึง
แมลงมุมกล่าวกันว่าในพื้นที่มีพืชสีเขียวที่
1 ไรจะมีแมลงมุมอยู่ประมาณ 50000 ตัว มีความสำคัญต่อสมดุลตามธรรมชาติ
ในแต่ละปีแมลงมุมจะทำลายแมลงอื่นมากกว่า 100
เท่าของจำนวนแมลงมุมที่มีอยู่
แมลงสาปแมลงสาปมีความทรหดอดทนที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ธุรกันดารแล้วยังทนต่อรังสีนิวเคลียร์ได้ดี กล่าวได้ว่ามีความสามารถในการอยู่รอด ถ้าเด็ดหัวมันให้ไม่ให้เลือดมันไหลได้แล้ว ก็ต้องลองค่อยๆเด็ดหัวแมลวสาปดู ถ้าเลือดไหลออกมากมันจะตาย ถ้าเลือดไม่ไหลออกมาแล้วละก็มันสามารถอยู่ต่อไปได้นานอีกหลายสัปดาห์แม้ไม่มีหัวก็ตาม เมื่อมันตายในเวลาต่อมานั้นก็เพราะมันขาดอาหารนั่นเอง
หอยทากหอยทากจะสร้างสารใสเหนียวปล่อยออกมาเพื่อปูทางในการป้องกันอยู่ใต้ตัวมันขณะที่มันเคลื่อนที่ไปตามทางที่ปล่อยสารนั้นไว้ การปล่อยสารนี้มีผลสำคัญที่ทำให้หอยทากสามารถคืบคลานไปด้านที่คมของใบมีดโกนได้โดยไม่ระคายผิวตัวทากเลยแม้แต่น้อย
แมลงสาปแมลงสาปมีความทรหดอดทนที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ธุรกันดารแล้วยังทนต่อรังสีนิวเคลียร์ได้ดี กล่าวได้ว่ามีความสามารถในการอยู่รอด ถ้าเด็ดหัวมันให้ไม่ให้เลือดมันไหลได้แล้ว ก็ต้องลองค่อยๆเด็ดหัวแมลวสาปดู ถ้าเลือดไหลออกมากมันจะตาย ถ้าเลือดไม่ไหลออกมาแล้วละก็มันสามารถอยู่ต่อไปได้นานอีกหลายสัปดาห์แม้ไม่มีหัวก็ตาม เมื่อมันตายในเวลาต่อมานั้นก็เพราะมันขาดอาหารนั่นเอง
หอยทากหอยทากจะสร้างสารใสเหนียวปล่อยออกมาเพื่อปูทางในการป้องกันอยู่ใต้ตัวมันขณะที่มันเคลื่อนที่ไปตามทางที่ปล่อยสารนั้นไว้ การปล่อยสารนี้มีผลสำคัญที่ทำให้หอยทากสามารถคืบคลานไปด้านที่คมของใบมีดโกนได้โดยไม่ระคายผิวตัวทากเลยแม้แต่น้อย
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหนึ่งเดียวที่บินได้
ก็เห็นจะมีแต่ค้างคาวที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่บินได้จริง ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดูเหมือนว่าจะบินได้ แต่เป็นแผ่อวัยวะคล้ายปีกทำให้ร่อนไปได้ไกล เช่นกระรอกบางพันธ์ หรือพวกสัตว์ที่เรียกว่า gliding opossum ที่หน้าคล้ายหนู่แผ่อวัยวะคล้ายผังผืดออกต้านลม ทำให้ร่อนได้ไปไกล
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สัตว์หายากสองชนิด
ชนิดแรกคือคางคกสายรุ้งที่คิดหายไปจากโลกเกือบร้อยปีก็เพิ่งมาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง อีกชนิดหนึ่งคือกิวีขาว ที่ชาวเมารีให้ความเคารพคล้ายช้างเผือกของเรา
หมายเหตุ: ภาพจากผู้จัดการ ข่าววิทยาศาสตร์
หมายเหตุ: ภาพจากผู้จัดการ ข่าววิทยาศาสตร์
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
แง่มุมชีวิตจระเข้กับโคอาลาที่ไม่ธรรมดา
การฝักเป็นตัวของจระเข้
การวางไข่ของจระเข้มักจะขุดและกลบไว้ใต้ดินทราย หลังจากที่ได้วางไข่เป็นเวลา 3 เดือน ไข่จระเข้ก็พร้อมที่จะฝักออกมาเป็นตัว แต่เนื่องจากว่าจระเข้ทารกไม่สามารถที่จะขุดดินทรายที่อยู่ด้านบนออกมาได้ ลูกทารกจระเข้ก็ได้แต่มองลอดออกจากเปลือกไขที่ฟักออกมาเป็นตัวแล้ว คงจะได้ส่งเสียงหรือสัญญาณอะไรบางอย่าง และแม่ของมันที่มาคอยดูแลปกป้องลูกจระเข้ทารกคงจะได้ยินเสียงเรียกร้องจากลุกจระเข้ แม่จระเข้จึงขุดให้ลูกๆ ได้ออกมาเป็นอิสระสู่โลกภายนอก
โคอาลา (Koala)
โคอาลา เป็นสัตว์ในกลุ่มเดียวกับพวกจิงโจ้มีถึงหน้าท้อง หน้าตาคล้ายหมีทำให้คนเข้าใจผิดเรียกว่าหมีโคอาลา แต่จริงๆไม่ใช่พวกหมี เป็นสัตว์อยู่ในทวีปออสเตรเลีย ได้ปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์มากอยู่กับต้นไม้ชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ คือต้นยูคาลิปตัส โคอาลาไม่ต้องการอะไรอื่นอีกเลย แม้แต่น้ำก็ไม่ไปหาที่อื่นดูดซึมเอาจากใบยูคาลิปตัส เป็นสัตว์ภาคพื้นดินที่มีน้อยมากที่ไม่หาน้ำเพิ่มเติมจากอาหาร
ความจริงในใบยูคาลิปตัสมีสารพิษ แต่โคอาลาก็มีระบบย่อยไฟเบอร์พิเศษที่มีแบคทีเรียช่วยย่อย ตัวหนึ่งจะกินใบยูคาลิปตัสประมาณ 200- 500 กรัม และโคอาลาเป็นสัตว์ที่นอนมากวันละ 16-18 ชั่วโมงเพื่อประหยัดพลังงาน
การวางไข่ของจระเข้มักจะขุดและกลบไว้ใต้ดินทราย หลังจากที่ได้วางไข่เป็นเวลา 3 เดือน ไข่จระเข้ก็พร้อมที่จะฝักออกมาเป็นตัว แต่เนื่องจากว่าจระเข้ทารกไม่สามารถที่จะขุดดินทรายที่อยู่ด้านบนออกมาได้ ลูกทารกจระเข้ก็ได้แต่มองลอดออกจากเปลือกไขที่ฟักออกมาเป็นตัวแล้ว คงจะได้ส่งเสียงหรือสัญญาณอะไรบางอย่าง และแม่ของมันที่มาคอยดูแลปกป้องลูกจระเข้ทารกคงจะได้ยินเสียงเรียกร้องจากลุกจระเข้ แม่จระเข้จึงขุดให้ลูกๆ ได้ออกมาเป็นอิสระสู่โลกภายนอก
โคอาลา (Koala)
โคอาลา เป็นสัตว์ในกลุ่มเดียวกับพวกจิงโจ้มีถึงหน้าท้อง หน้าตาคล้ายหมีทำให้คนเข้าใจผิดเรียกว่าหมีโคอาลา แต่จริงๆไม่ใช่พวกหมี เป็นสัตว์อยู่ในทวีปออสเตรเลีย ได้ปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์มากอยู่กับต้นไม้ชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ คือต้นยูคาลิปตัส โคอาลาไม่ต้องการอะไรอื่นอีกเลย แม้แต่น้ำก็ไม่ไปหาที่อื่นดูดซึมเอาจากใบยูคาลิปตัส เป็นสัตว์ภาคพื้นดินที่มีน้อยมากที่ไม่หาน้ำเพิ่มเติมจากอาหาร
ความจริงในใบยูคาลิปตัสมีสารพิษ แต่โคอาลาก็มีระบบย่อยไฟเบอร์พิเศษที่มีแบคทีเรียช่วยย่อย ตัวหนึ่งจะกินใบยูคาลิปตัสประมาณ 200- 500 กรัม และโคอาลาเป็นสัตว์ที่นอนมากวันละ 16-18 ชั่วโมงเพื่อประหยัดพลังงาน
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เรื่องของจรเข้
จระเข้เป็นสัตว์ที่มีพละกำลังมาก สามารถสบัดฟาดหางด้วยแรงที่ทำให้ศัตรูสลบไปได้ และมีฟันเป็นแนวยาวตามร่องปาก สามารถจะงับดัวยแรงที่สามารถที่จะตัดแขนคนให้ขาดได้ อย่างไรก็ตามจระเข้ก็มีจุดอ่อนอยู่ที่กล้ามเนื้อในการที่จะเปิดปากหรืออ้า ปากออกไปนั้นอ่อนแอมาก คนสามารถที่จะเอาแขนข้างเดียวกอดปิดปากจระเข้ที่โตเต็มทีได้โดยมันไม่มีทาง เปิดออกได้
การย่อยอาหารของจระเข้ก็ไม่ธรรมดา น้ำย่อยของจระเข้ประกอบด้วยกรดเกลือ(hydrochloric) ปริมาณสูงพอที่จะละลายปลายหอกโลหะ หรือตะขอเหล็กขนาด 6 นิ้วที่มันเขมือบกลืนลงไปได้
การย่อยอาหารของจระเข้ก็ไม่ธรรมดา น้ำย่อยของจระเข้ประกอบด้วยกรดเกลือ(hydrochloric) ปริมาณสูงพอที่จะละลายปลายหอกโลหะ หรือตะขอเหล็กขนาด 6 นิ้วที่มันเขมือบกลืนลงไปได้
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เรียนรู้เรื่องปูที่ไม่ธรรมดา
วันนี้มีคนนำปูดำมาให้ก็หลายตัว เป็นปูสดยังเป็นๆ ซึ่งก็ต้องมัดก้ามไว้ไม่ให้หนีบคนที่จะมาจับ แต่พอจะทำให้สุกหรือทำเป็นกับข้าวกินก็เกิดสงสาร ถ้าจับใส่หม้อต้มเลยปูก็คงทรมานเจ็บปวดก่อนตาย ก็เลยคิดว่าถ้าเราตัดตัวปูเป็นสองท่อนให้มันตายเสียก่อนแล้ว ปูก็น่าจะทรมานน้อยกว่า ว่าแล้วก็ตัดปูเป็นสองท่อนตามแนวขวางแยกขาออกไปสองด้าน ก็คิดว่าปูคงตายแล้วก็ไปแก้เชือกที่ผูกก้ามหนีบอันใหญ่ออก ทันใดนั้นอย่างไม่คาดคิดมันยังมีแรงหนีบเอานิ้วเสียเหลือดกระฉูดเลย คนที่มาเห็นก็เลยจัดการต้มปูให้โดยไม่ต้องนึกถึงความสงสารอีกต่อไป
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554
การเคลื่อนย้ายตัวอ่อน
ความก้าวหน้าทางด้าน ovum transplant ของสัตว์เลี้ยง (live stock) ดังเช่นวัวกระทิงในเท็กซัส สามารถที่จะจับคู่ผสมกับวัวในสก๊อตแลน และอีกหลาย progeny โดยการนำตัวอ่อนไปเลี้ยง (incubated) ในมดลูกของกระต่าย ที่สามารถเคลื่อนย้ายโดยเครื่องบินไปอยู่ในประเทศใดในโลกก็ได้ ออสเตรเลีย อาเจนตินา หรือ เคนยา เพื่อการนำไปทำ implant ในวัวที่นั่น
Hippopotamus
เป็นสัตว์ที่คลอดลูกใต้น้ำ และดูแลเลี้ยงดูลูก (nurses) ลูกเล็กๆ ในแม่น้ำ โดยลูกฮิปโปตัวน้อย จะขึ้นมาสูดอากาศหายใจเป็นระยะ
วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554
นกWoodchuck จำศิล
ในหน้าหนาวนก Woodchuck หายใจเพียง 10 ครั้งต่อชั่วโมงขณะจำศิล และเมื่อไม่จำศิลขณะที่ตื่นอยู่้จะหายใจประมาณ 2100 ครั้งต่อชั่วโมง
วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554
การนอนกับการหากินของสัตว์
การนอนการกินของสัตว์ เช่นช้าง และสั้นหางสั้นคล้ายหนูจะใช้เวลานอนวันละประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่ลิงกอริลล่า และพวกแมวใช้เวลานอนประมาณ 14 ชั่วโมง หากดูช่วงเวลานอนของสัตว์สองกลุ่มดังกล่าวแล้วพบว่าเวลาตั้งแต่ 2 ชั่วโมงถึง 14 ชั่วโมง นั้นเป็นชั่วเวลาสำหรับการออกหากินกลางคืนได้อย่างสุขสำราญนั่นเอง
วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554
พึงระวังตัวต่อกินคน
เราเคยได้ยินเรื่องของตัวต่อที่ไปต่อยหรือไชผู้โชคร้ายถึงตาย โดยเฉพาะเด็กและคนแก่สาเหตุที่ทำให้คนถึงตายได้ เพราะพิษที่ตัวต่อปล่อยเข้าไปหลังจากต่อยเข้าไปในกล้ามเนื้อหรือกระแสเลือด ทำให้ปวดแสบปวดร้อน และหากโดนหลายๆแผลที่โดนตัวต่อไช ทำให้แพ้อย่างรุนแรงและทำให้ถึงตายได้ ตัวต่อไชที่ทำให้คนตายได้เมื่อไม่นานมานี้เป็นเรื่องที่ทำคุณบูชาโทษ มีเรื่องเล่ากันว่ามีคนที่เอาอาหารที่เป็นเนื้อไปให้ตัวต่อกินอยู่เสมอ จนกระทั่่งวันหนึ่งอาจจะลืมหรือด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เขาเกิดไม่ได้ให้อาหารตัวต่อดังทุกวัน ตัวต่อเหล่านั้นกลับมารุ่มทึ้งไชและกัดกินเนื้อเขาคนนั้นจนตาย เรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์ให้คิดว่า สัตว์ร้ายสัตว์มีพิษทั้งหลายก็พึงระวัง ที่บ้านพักผู้เขียนเคยมีตัวต่อมาทำรังที่ใต้ถุนบ้านพักที่เป็นไต้ถุนสูง และคิดว่าจะอยู่ร่วมกันมันได้ต่างก็ไม่ไปรบกวนกัน แต่เมื่อเดินอยู่ใตรังมันก็รู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกัน วันหนึ่งหลานๆ มาพักที่บ้าน ก็เอาลูกบอลมาเดาะเล่นที่ใตถุนบ้าน ตัวต่อเหล่านั้นก็กรูออกมาต่อยหลานๆ ไปหลายแผลแต่ก็วิ่งหนึไปได้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยไว้ใจจนกระทั่งวันหนึ่งก็สำเร็จโทษเอารังมันออกไป โดยมีคนอาสามานำออกให้เพราะเขาอยากได้รัง และตัวอ่อนสามารถนำไปทำอาหารได้ | ||
........................................................................................................................... |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)