ปีนี้มีการรณรงค์โดยใช้ข้อความว่า "ดื่มไม่ขับ"
ก็เป็นที่รู้กันว่าคำว่าดื่มนั้นหมายถึงดื่มเหล้าหรือ่ของมึนเมาทั้งหลายซึ่งดีกว่าที่จะใช้คำว่า
"เมาไม่ขับ" ดังในปีที่ผ่านๆมา เพราะถ้าเมาแล้วก็ไม่สามารถควบคุมได้ว่าไม่ขับ
เพราะคนเมามักไม่รู้ว่าตัวเองเมา
ดังนั้นการที่ดื่มแล้วไม่ขับนั้นไม่ได้หมายความว่าดื่มน้ำดื่มกาแฟ
แต่เป็นการดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาได้
จากการศึกษาหลายสำนักพบว่าแม้ว่าจะดื่มไม่มากเพียงแก้วเดียวก็ทำให้การควบคุมในการขับขี่ลดลงจากปกติเกือบครึ่งแล้วโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า
ในประเทศญี่ปุ่นนั้นแม้จะดื่มเหล้าไม่มากแค่จิบๆ
เท่านั้นเขาก็จะไม่ขับรถแล้วเคยมีกรณีที่สามีขับรถไปบ้านเพื่อนและไปกินอาหารบ้านเพื่อนคงจะดื่มเหล้าสาเกไปด้วยเพื่อนก็ไม่ยอมให้ขับรถกลับเองแล้ว
บางรายก็โทรให้ภรรยามาขับรถกลับ
การให้ความสำคัญในเรื่องนี้ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นน้อยในญี่ปุ่นและประชาชนคนญึ่ปุ่นก็ให้ความร่วมมือกันดี
ที่เห็นใครดื่มแล้วก็ช่วยกันห้ามช่วยกันเตือนว่าไม่ให้ขับรถ
หรือถ้าเห็นว่ายังทำอีกก็โทรบอกตำรวจให้มาจัดการ
บางเมืองในญ่ี่ปุ่นพบว่าไม่ค่อยมีโจรผู้ร้ายห้องขังก็ยังไม่ว่างเปล่า
ก็มีจับมาขังไว้บ้างก้คือพวกที่เมาเหล้า หายเมาตอนเช้าก็ปล่อยกลับบ้านไป
เช่นเดียวกันในอะเมริกาประชาชนก็มักให้ความร่วมมือดี
มักจะโทรบอกตำรวจเช่นกันหากเห็นพฤติกรรมการดื่มและขับรถ
และตำรวจเขาก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีด้วย
เพราะมักจะตรวจตราสอดส่องเรื่องนี้มากเหมือนกัน
ไปเที่ยวบาร์คลับตอนกลางคืนหลังจากบาร์คลับเลิกตำรวจก็จะมาตรวจอัลกอฮอร์หากหรือทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง
หากเกิดระดับอัลกอฮอร์มาตรฐาน หรือให้เดินไม่ตรงแนวก็จะไม่ยอมให้ขับรถ
มีคนไทยเคยไปอบรมที่อะเมริกาเช่ารถขับไปเที่ยวกัน ก็ซื้อเบียร์ไปกินในรถกัน
ก็ไม่รู้ใครโทรบอกตำรวจให้ตรวจรถถูกเรียกตรวจแล้วตำรวจก็ไม่อนุญาติให้นำเบียร์ไปในรถต้องเททิ้ง
บางประเทศในยุโรปสำหรับคนที่ขับรถบัสโดยสาร
ทั้งทางใกล้ไกลต้องมีใบบันทึกการขับรถประจำวันที่ตำรวจจะเรียกมาตรวจได้
มีกฏอยู่ข้อหนึ่งว่าวันหนึ่งต้องขับรถได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมง
ดังนั้นถ้าจะให้เขาขับรถมากกว่านี้นั้นคนขับก็จะไม่ทำ
เพราะถ้าตำรวจเรียกตรวจเมื่อไรก็จะมีความผิด อันนี้เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย
ในประเทศมาเลเซียมีการติดตั้งกล่องดำเพื่อไว้ติดตามตรวจสอบรถที่วิ่งว่าอยู่ตำแหน่งไหนและด้วยความเร็วเท่าใด
หากขับรถเกินความเร็วที่กำหนดจะมีเสียงเตือนและอาจมีโทษ
สำหรับประเทศไทยก็ยังไม่ค่อยเห็นมาตรการใหม่ๆที่ก่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
หากพบว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นคนดื่มเหล้าก็ต้องออกมาตรการใหม่ๆ
เช่นเพิ่มโทษคนที่ตรวจพบว่ามีอัลกอฮอร์เกินกว่ากำหนดต้องได้รับโทษทันทีอย่างน้อยกักบริเวณจนระดับอัลกอฮอร์ลดลงในระดับปกติและมีโทษปรับเป็นเงิน
สำหรับคนที่เกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าดื่มเหล้านั้นจะต้องมีโทษอย่างน้อยกักบริเวณอบรมการขับขี่อย่างน้อย
1 สัปดาห์เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น