หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โลกธรรม8

ในพระไตรปิฎกมีส่วนเกี่ยวกับโลกธรรมตามที่พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่ามีโลกธรรม 8 ประก่อนที่หมุนไปตามโลกธรรมและโลกก็หมุนไปตามโลกธรรม 8 ประการ ซึ่งโลกธรรมในที่นี้นั้นก็คือธรรมของโลก โลกในที่นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นคือสัตว์ของโลก และคงเน้นที่มนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ที่ครอบครองโลกอยู่ในขณะนี้ อันได้แก่ (1) ลาภ (2) เสื่อมลาภ (3) ยศ (4) ความเสื่อมยศ (5) สรรเสริญ (6) นินทา (7) สุข (8) ทุกข์ จะเห็นว่ามนุษย์ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ทุกผู้ทุกนาม ไม่อาจหลีกเลี่ยง ธรรมทั้งแปดดังกล่าว ไม่ว่ายากดีมีจน สติจะสมประกอบหรือไม่ก็ตาม ถ้าลืมตาขึ้นดูโลกและดำเนินชีวิตอยู่ในโลก

โดยสรุปที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ กับอริยะสาวก และปุถุชน โดยธรรมไม่ได้แตกต่างกันแต่อยู่ความแตกต่างของผู้รับฟัง คำว่าอริยะสาวกก็ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ถ้าเป็นปุถุชนธรรมดา ก็ยังมีความยินดียินร้าย ยินดีเมื่อประสบกับโลกธรรมฝ่ายดี คือลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และยินร้ายเมื่อประสบกับโลกธรรมฝ่ายร้าย คือเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และทุกข์ ไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้น ยังไม่ทราบชัดตามความเป็นจริงว่า โลกธรรมฝ่ายดีและฝ่ายร้ายนั้น เมื่อเกิดแก่เราแล้ว ทั่นไม่เที่ยง มีทุกข์ และแปรปรวนไม่มีตัวตนที่แท้จริงตามหลักของไตรลักษณ์ หากโลกธรรมไม่ว่าฝ่ายใดเกิดขึ้นหากไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว ก็ยังไม่พ้นจากความทุกข์ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย

โลกธรรมแปด เมื่อเกิดกับอริยสาวกย่อมตระหนักชัดถึงความเป็นจริงว่า ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่เที่ยงแท่ แปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นไม่สามารถครอบงำจิตได้ ไม่มีความยินดียินร้าย ถือว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง อยู่เหนือโลกธรรมทั้งแปด เหนือพ้นไปจาก ความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั่นก็คือธรรไม่ว่าที่เป็นที่พึงปรารถนาหรือที่ไม่พึงปรารถนาก็ไม่สามารถเข้ามากระทำครอบงำหรือยำยีจิต หรือสามารถที่จะขจัดความยินดียินร้ายออกไปได้จนหมดสิ้นแล้ว ก็จะทราบหนทางแห่งความสงบเย็นคือนิพาน

อย่างไรก็ตามมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ก็มีทั้งความทุกข์บ้างสุขบ้าง ก็ยังมีโลกธรรมทั้งแปดมาครอบงำ อยู่ในสังคมของเรา ตามเวลาที่ผ่านไป เราเห็นตัวอย่างของโลกธรรมแปดอยู่ตลอดเวลา เห็นคนได้ลาภ และเสื่อมลาภ เห็นคนเคยรวย และกลับยากจน เห็นคนถูกนินทาว่าร้าย บางครั้งเราเองก็เข้าไปผสมโรงอยู่ด้วยอย่างไม่รู้ตัว หรือยากที่จะหลีกเลี่ยง คนเราจะมีความสุขมากหรือทุกข์น้อยลง ก็ตรงที่เราพยายามทำจิตใจให้มั่นคง มีสติละลึกได้ถึง ความทุกข์ จากความเกิด แก่ เจ็บตาย ว่าจะก้าวพ้นไปได้อย่างไรซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ตรัสไว้เป็นหลักสัจธรรมในอริยสัจสี่ โดยมีมรรควิธี 8 ประการในการดับทุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น