หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

The Present

ความหมายของคำว่า Present อาจแปลว่าปัจจุบัน หรือแปลว่าของขวัญ ซึ่งเป็นชื่อหนังสือที่ Dr Spencer Johnson เป็นคนเขียนขึ้น ได้เสนอหลักการและเคล็ดลับในการทำให้ชีวิตและการทำงานให้มีความสุขมากขึ้น


ถ้ายังจำได้ Dr. Spencer เคยเขียนหนังสือฮิตติดอันดับโลกคือ “Who Move My Cheese” งานของเขามากกว่า 20 เรื่องเขียนโดยใช้ความจริงง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง เพื่อช่วยลดความเครียดทำให้การทำงานที่บ้านและที่ทำงานประสบความสำเร็จมากขึ้น ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสร้างความสุขด้วยเรื่องราวหลักแหลม ที่จับใจผู้อ่าน เป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาซับซ้อนได้ดีที่สุด และเสนอทางแก้ง่ายๆ และใช้ได้ผล

หนังสือ The Present เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ หนาเพียง 104 หน้า เป็นเรื่องเล่าของผู้เฒ่าปัญญาหลักแหลมและอุดมปัญญาให้แก่เด็กน้อยถึงวิธีที่จะทำให้มีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิตและในการทำงาน

ดำเนินเรื่องเล่าที่ผู้เฒ่าบอกว่าในโลกนี้มีของขวัญชิ้นหนึ่งที่ลำเลิศกว่าของฝันใดๆ ทั้งสิ้นที่เด็กน้อยจะได้รับในชีวิต เป็นของขวัญที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิต ใครได้รับของขวัญนี้แล้วจะมีความสุขมากขึ้น และสามารถทำสิ่งต่างๆ ตามที่ต้องการได้ดีกว่าเดิม ของขวัญนี้จะทำให้เด็กน้อยมีความสุขได้ในหลายลักษณะมูลค่าไม่อาจวัดได้ด้วยทองคำหรือเงินตรา

เมื่อเด็กน้อยเติมใหญ่ก็ถามว่าของขวัญคืออะไร จะทำให้ประสบผลสำเร็จอย่างไร ผู้เฒ่าตอบว่า คือการได้รับสิ่งที่ปรารถนามากขึ้น อะไรที่คิดว่าสำคัญจะให้ความเอาใจใส่มากขึ้น ทำให้ได้คะแนนมากขึ้น ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น ได้รับการยอมรับชมเชยจากคนอื่น ความสำเร็จอาจไม่ได้หมายถึงเฉพาะการหาเงินได้มากและร่ำรวย แต่อาจมีความสุขจากรู้สึกสงบและพึงพอใจในตัวเองมากขึ้น ความสำเร็จคือสิ่งที่ทุกคนจะต้องให้คำจำกัดความด้วยตัวเองในแต่ละขั้นตอนของชีวิต

จนเมื่อเขารู้สึกผิดหวังเหนื่อยหน่ายในชีวิตด้วยเหตุนานับประการ ทำให้ขาดความสนใจที่จะทำงานอย่างแท้จริง เพราะไปอยู่ในอดีตกับอนาคตเสียหมด ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันจนการงานตกต่ำ ชีวิตขาดความหวัง เขาจึงไปทวงถามของขวัญ (present) กับผู้เฒ่าเพื่อจะเอามาแก้ปัญหา ผู้เฒ่าก็ตอบว่าของขวัญนั้นเราจะต้องหาด้วยตนเอง ไม่มีใครให้ใครได้ และตัวเองเท่านั้นที่จะมีอำนาจค้นพบว่ามันคืออะไร และผู้เฒ่าได้แนะว่าหากจะหาของขวัญให้พบต้องพยายามนึกถึงว่าเวลาเมื่อมีความสุขที่สุด และรู้สึกประสบผลสำเร็จที่สุดเวลาใด เขาได้ไปครุ่นคิด ก็คิดได้ว่าคนเราเมื่อมีจิตมุ่งมั่นเต็มที่ต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งในขณะนั้น ไม่วอกแวกนึกถึงอดีตหรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาใม่ถึง ใจจดจ่อกับงาน โดยไม่นึกถึงสิ่งอื่นใด สามารถจะสร้างสิ่งที่สวยงาม ที่สร้างสรรได้ดี

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า อยู่กับปัจจุบันให้ความสำคัญเต็มที่ มีความพอใจตั้งใจสิ่งที่ทำอยู่ และสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ก็จะมีความรู้สึกดีมีความสุข เขานึกได้ในที่สุดว่าของขวัญที่เขากำลังมองหาอยู่ที่แท้ก็คือ The present ที่หมายถึงปัจจุบันนั่นเอง การหาของขวัญเจอก็คือการตระหนักว่าต้องอยู่กับห้วงเวลาปัจจุบัน เน้นให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นและกระทำอยู่ในปัจจุบัน มุ่งมั่นซาบซึ้งในส่งที่เกิดขึ้น และมีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น เมื่อไม่ถูกระทบกระทั่งหรือรบกวนจากการกระทำในอดีต หรือจากความฝันที่ฝันเฟิ่องหรือจากความกังวลใจในอนาคตแล้วก็จะรู้สึกมีความสุข และรู้สึกว่าประสบผลสำเร็จ และจะทำให้มีพลังและศักยภาพในการทำงานได้เต็มที่และจะมีความรู้สึกเป็นสุข

ในเวลาปัจจุบันเมื่อประสบบางสิ่งที่เลวร้ายขอให้นึกถึงสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ พยายามมองหาสิ่งดีๆ เพื่อให้มีพลังและความเชื่อมั่นสู้กับสิ่งเลวร้ายเหล่านั้นให้ได้ สรุปว่าให้ความสำคัญกับปัจจุบัน ชื่อชมกับสิ่งที่ดีในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และพุ่งความสนใจและให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญในปัจจุบัน ถึงไม่ได้ตำแหน่ง ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ผิดหวังในความรัก ก็ยังมีงานที่ดีทำให้องค์กรที่มั่นคง

สุดท้ายผู้เฒ่ายังได้เสริมว่าการจัดการเกี่ยวกับอดีต อนาคตและปัจจุบันต้องมีความสมดุลกัน เราต้องเรียนรู้อดีตที่ผิดพลาด เพื่อเอาไว้เป็นบทเรียนส่วนถ้าเป็นสิ่งที่ทำไว้ดีในอดีตก็ต้องเอามาศึกษาพัฒนาตนเองมากขึ้นและต่อไป สำหรับอนาคตเราต้องมีการวางแผนที่ดี เพราะการวางแผนสำหรับอนาคตจะช่วยลดความกลัวและความกังวลใจลง ต้องมีการวางแผนอนาคตให้ดีกว่าปัจจุบัน การขาดจิตนาการ การวางแผนและการลงมือปฏิบัติ เป็นสาเหตุพื้นฐานที่ทำให้เราไปไม่ถึงสิ่งที่เราหวังได้

ถ้าไม่อยู่กับปัจจุบันก็จะไม่ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวเรา ถ้าไม่เรียนรู้จากอดีตก็วางแผนอนาคตไม่ได้ และถ้าไม่มีแผนสำหรับอนาคตก็จะล่องลอยไร้จุดหมาย การมีชีวิตอย่างมีจุดหมายนั้น ไม่ได้หมายถึงการรู้ว่าจุดหมายคืออะไร หรือรู้ว่าต้องทำอะไรเท่านั้น หากต้องรู้ว่าจะทำไปทำไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น