เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการประกาศตัวให้รางวัลนวัตกรรมการคิดค้นยอดเยี่ยม งานสิทธิบัตรยอดเยี่ยม โดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาลัยออกฟอร์ดประเทศอังกฤษ ได้ตั้งคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสร้างแว่นที่ มองได้ชัดโดยตัวของมันเองหรือปรับโฟกัสได้เองตามผู้สวมใส่ ผลจากการคิดค้นทำให้ได้แว่นตาที่สามารถปรับโฟกัสได้เอง จุดโฟกัสก็คือจุดที่เมื่อผ่านแว่นตาแล้วจะมองเห็นภาพคมชัดที่สุด ได้มีการนำแว่นชนิดนี้ทดลองกับผู้ยากไร้ในอัฟริกา ซึ่งก็ได้ผลดี และที่น่ายินดีก็คือแว่นชนิดนี้ ราคาไม่แพง ถูกกว่าเลนซ์ที่ใช้อยู่มาก ถ้าเป็นเช่นนี้ แนวโน้มที่จะทำให้เลนซ์ที่เราใช้ในปัจจุบันกลาวเป็นสิ่งล้าสมัยไปได้เช่นเดียวกับเครื่องเล่นเทปทั้งหลายที่หายไปเกือบหมดในท้องตลาด
ความคิดสร้างสรรค์ที่จะช่วยผู้อื่นให้ได้มองเห็นภาพได้ชัด นำไปสู่การสร้างนวัตกรรม ซึ่งจากการคำนวณสำหรับผู้มีปัญหาทางสายตาทำให้ผลผลิตลดลง การมองเห็นภาพได้ชัดจะช่วยเพิ่มผลผลิตขึ้น โดยการประมาณการ อาจถึงปีละห้าแสนล้านดอลล่าทีเดียว
ยังมีแว่นอีกชนิดที่ออกแบบให้คนตามบอดใส่ ซึ่งก็คงไม่เกี่ยวข้องกับแว่นที่กล่าวถึงข้างบน แต่ก็เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยให้คนตาบอดไม่หลงทาง ทำให้คนตาบอร์ดรู้ว่ามีอะไรขวางหน้า ทำให้หลบหลีกได้ง่าย ถือว่าเป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์อีกอย่างหนึ่งเหมือนกันงานนี้เป็นผลผลิตของหนุ่มชาวอินเดียที่น่ายกย่อยอีกคน.
วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ชุมชนที่ยั่งยืนของระบบนิเวศ
ในความพยายามที่จะสร้างและหล่อเลี้ยงชุมชนที่ยั่งยืนนั้น เราสามารถที่จะเรียนรู้จากบทเรียนอันทรงคุณค่าจากระบบนิเวศ ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนที่ยั่งยืนของพืช สัตว์ และ โลกของจุลชีพ เพื่อที่จะเข้าใจระบบนิเวศ เราจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงหลักการของนิเวศวิทยา การที่จะเข้าใจหลักการทางนิเวศวิทยา เราจำต้องมีวิธีการใหม่ในการมองโลก นั่นคือเราต้องคิดในเทอมของความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยง และบริบท สำหรับวิธีคิดใหม่ในทางวิทยาศาสตร์นั้น ที่รู้จักกันดีก็คือการคิดเชิงระบบนั่นเอง
สอดคล้องกับแนวคิดของ ปริจ๊อบ คาปลาที่เขียนบทความชื่อ the language of nature ที่บ่งชี้ว่า เราทุกคนจำต้องเข้าสู่การเป็นผู้รู้เข้าใจทางนิเวศวิทยา ที่เรียกว่า eco-literate แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการที่มองภาพรวมจากหลายสาขาวิชาที่ได้ศึกษากันในศตวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสำรวจสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และระบบสังคม และทราบกันดีว่าระบบต่างๆ ดังกล่าวเหล่านี้ต่างบูรณาการเข้าด้วยกันทั้งหมด ที่คุณสมบัติของมันไม่สามารถที่จะลดรูปหรือแยกส่วนในการศึกษาออกจากกัน เป็นความรู้จึงจะทำให้อยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำให้โอกาสของของคนรุ่นต่อไปลดน้อยลงหรือด้อยค่าลงไป นั่นก็คือสิ่งแวดทางสังคม ทางกายภาพ วัฒนธรรม ก็จะเป็นไปตามความคาดหวัง ความพอใจ และความต้องการของเรา ที่ไม่ทำให้ความหลากหลายของโลกธรรมชาติลดน้อยถอยลงไป
สอดคล้องกับแนวคิดของ ปริจ๊อบ คาปลาที่เขียนบทความชื่อ the language of nature ที่บ่งชี้ว่า เราทุกคนจำต้องเข้าสู่การเป็นผู้รู้เข้าใจทางนิเวศวิทยา ที่เรียกว่า eco-literate แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการที่มองภาพรวมจากหลายสาขาวิชาที่ได้ศึกษากันในศตวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสำรวจสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และระบบสังคม และทราบกันดีว่าระบบต่างๆ ดังกล่าวเหล่านี้ต่างบูรณาการเข้าด้วยกันทั้งหมด ที่คุณสมบัติของมันไม่สามารถที่จะลดรูปหรือแยกส่วนในการศึกษาออกจากกัน เป็นความรู้จึงจะทำให้อยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทำให้โอกาสของของคนรุ่นต่อไปลดน้อยลงหรือด้อยค่าลงไป นั่นก็คือสิ่งแวดทางสังคม ทางกายภาพ วัฒนธรรม ก็จะเป็นไปตามความคาดหวัง ความพอใจ และความต้องการของเรา ที่ไม่ทำให้ความหลากหลายของโลกธรรมชาติลดน้อยถอยลงไป
การปรับตัวของชีวิต
มีคนเคยกล่าวประโยคว่า คนที่จะอยู่รอดนั้นไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดแต่เป็นคนที่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้ หลายคนอาจจะแย้งว่าก็ต้องเป็นคนที่ฉลาดถึงจะปรับตัวได้ดี ก็คือฉลาดในการปรับตัว แต่ความฉลาดในที่นี้อาจหมายถึงฉลาดมีความรู้เก่งในบางเรื่อง แต่ไม่เก่งในเรื่องการปรับตัวก็ได้
ในโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ระบบนิเวศใดๆ ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยอยู่เฉยๆ ไม่ปรับตัวก็จะอยู่ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ หรืออย่างกระทันหันรวดเร็วก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงช้าหรือเร็ว สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศก็ต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้
การปรับตัวในสิ่งมีชีวิตมีวัตถุประสงค์หลักอยู่สองประการ คืิอให้ตัวเองมีชีวิตรอดปลอดภัย และอีกประการหนึ่งก็เพื่อให้สามารถสืบพันธ์ดำรงเผ่าพันธ์ได้ต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตรวมทั้งมนุษย์ต้องปรับตัวให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน ซึ่งการอยู่รอดเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่จะดำรงเผ่าพันธ์ต่อไป นั่นก็คือมีความพร้อมทั้งแหล่งที่อยู่และสิ่งแวดล้อมสำหรับสืบทอดรุ่นต่อไปให้อยู่รอดปลอดภัยด้วย
ในโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ระบบนิเวศใดๆ ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยอยู่เฉยๆ ไม่ปรับตัวก็จะอยู่ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ หรืออย่างกระทันหันรวดเร็วก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงช้าหรือเร็ว สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศก็ต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้
การปรับตัวในสิ่งมีชีวิตมีวัตถุประสงค์หลักอยู่สองประการ คืิอให้ตัวเองมีชีวิตรอดปลอดภัย และอีกประการหนึ่งก็เพื่อให้สามารถสืบพันธ์ดำรงเผ่าพันธ์ได้ต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตรวมทั้งมนุษย์ต้องปรับตัวให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน ซึ่งการอยู่รอดเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่จะดำรงเผ่าพันธ์ต่อไป นั่นก็คือมีความพร้อมทั้งแหล่งที่อยู่และสิ่งแวดล้อมสำหรับสืบทอดรุ่นต่อไปให้อยู่รอดปลอดภัยด้วย
ทำไมคนชอบกินไก่บ้าน
ไก่บ้านเป็นไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อย ให้หาอาหารกินเองบ้าง ให้อาหารที่เหลือบ้าง เหตุที่คนนิยมกินไก่บ้านนั้นก็เพราะเชื่อว่าไก่ไม่เคลียดที่ไก่ได้มีอิสระเสรีไม่ถุกจำกัดในที่แคบๆ เช่นไก่เลี้ยงแบบพัฒนาทั้งหลาย ซึ่งใช้ทั้งสารเคมีที่ช่วยเร่งการเติบโต และไก่จะเคลียดไม่ค่อยได้ออกกำลังอยู่ในที่แคบๆก็เลยกินไม่หยุดจึงโตเร็วก็เป็นไปได้ แต่กล้ามเนื้อไก่พวกนี้จะขับสารพิษออกมาด้วย คนกินเข้าไปก็มีพิษเหมือนกัน
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกับคนที่เคลียดมากๆ ร่างกายก็ปล่อยสารพิษออกมาเหมือนกันที่มีผลทำให้อ่อนเพลียเบื่ออาหารได้ และทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงและเสื่อมเร็ว
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกับคนที่เคลียดมากๆ ร่างกายก็ปล่อยสารพิษออกมาเหมือนกันที่มีผลทำให้อ่อนเพลียเบื่ออาหารได้ และทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงและเสื่อมเร็ว
วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ตึกสูงที่สุดในลาว
เป็นตึกอยู่ในเวียงจันทร์ชื่อ ดอนจันทร์พาเลซ (Donjan Palace) เป็นตึกสูง 14 ชั้นที่นักธุรกิจชาวมาเลย์มาลงทุนในลาว
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ควันหลงน้ำท่วม
การเกิดน้ำท่วมภาคใต้คราวนี้ถือว่าหนักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และฝนตกมากกว่าทุกครั้งดังปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ เมื่อดูปริมาณน้ำจากวิดีโอและภาพถ่ายทางอากาศแล้วนั้นอาจกล่าวได้ว่า ถึงแม้ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่าน้ำก็ยังท่วมอยู่ดี เพียงแต่ว่าอาจจะลดความรุนแรงของน้ำลงไม่ไห้ไหลรุนแรงมากเกินไป ที่จะทำให้บ้านเรือนพังเสียหายจนหนีไม่ทันนั้นก็อาจเกิดได้น้อยกว่านี้
ส่วนการสร้างสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำทำให้น้ำไหลระบายไปไม่สะดวกก็ทำให้น้ำท่วมขังอยู่นานขึ้นก็เป็นไปได้ ปกติแล้วน้ำจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำตามแรงความโน้มถ่วงเมื่อมีอะไรมาขวางทางน้ำ น้ำก็ยังคงพยายามเคลื่อนไปในทางที่เห็นว่าสะดวกคล่องตัวที่สุดเสมอ ในประเด็นนี้น่าจะนำมาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ว่าการเคลื่อนที่ของน้ำไปข้างหน้านั้นโดยธรรมชาติของมันก็พยายามหาเส้นทางที่ดีที่สุดเหมาะสมที่สุด เมื่อฝนตกหนักแต่ละครั้งเราก็จะเห็นว่าเส้นทางที่น้ำจะไหลมารวมตัวกันอยู่ ณที่ใด ซึ่งก็คงเดาทายกันได้ว่าคือที่ต่ำ ใครที่สร้างสิ่งปลุกสร้างที่เป็นทางผ่านลงไปสู่ที่ต่ำ จากแหล่งน้ำขนาดใหญ่เช่นป่าจากภูเขาหรือเทือกเขาใหญ่ หากป่าถูกทำลายมากแล้วละก็น้ำก็ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ยิ่งมีปริมาณมากก็ยิ่งเคลื่อนตัวลงมาเร็วและแรงจะกัดเซาะสิ่งก่อสร้างที่ผ่านไปให้พังทะลายไปได้ ดังที่เราจะเห็นตัวอย่างในคราวนี้ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ทางรถไฟ บ้านเรือนที่ขวางทางน้ำ
การเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก หากฝนตกเป็นระยะเวลานาน และตกหนักด้วยแล้วมักตามมาด้วยแผ่นดินถล่ม ดินโคลนเคลื่อนไถลมาทับสิ่งปลูกสร้างต่างๆ หากชลาใจว่าไม่รุนแรงแล้วก็อาจทำความเสียหายถึงชีวิตเพราะหนีไม่ทัน เช่นเดียวกับการเกิดสึนามิ ผลของการเลือกเส้นทางเดินที่เหมาะสมของน้ำ ก็จะก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ๆตามมา ด้วยการเคลื่อนตัวของน้ำปริมาณมากๆ ได้พัดพาเอาทรายหินดิน มาด้วย อาจก่อให้เกิดลำน้ำใหม่ เนินดินใหม๋ หรืออาจก่อให้เกิดหาดทรายใหม่ ที่ที่เคยสร้างบ้านอาศัยอยู่ ก็อาจไม่สามารถที่จะสร้างบ้านอยู่ได้อีกต่อไป คิดให้ดีก็เหมือนกับธรรมชาติจะบอกว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน ที่มนุษย์คิดว่าจะเอาชนะธรรมชาติโดยอาศัยเทคโนโลยีนั้น ธรรมชาติก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีพลังใดยิ่งใหญ่กว่าพลังจากธรรมชาติ
หากคิดว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ อาจคิดได้ว่าว่าการกระทำของมนุษย์เป็นการกระทำกับธรรมชาติให้ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป ย่ิ่งมนุษย์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใดก็ย่อมทำให้เกิดการปั่นป่วนมากขึ้นเท่านั้น ในรูปของพายุ แผ่นดินไหว ความแห้งแล้ว บางบริเวณ และฝนตกหนักบางบริเวณ จากคำกล่าวโบราณในลัทธิเต๋าที่บอกว่า "การสงบนิ่งสยบความเคลื่อนไหว" นั้นเป็นเรื่องน่าคิด เพราะถ้าเราสงบนิ่งหรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดแล้ว ย่อมก่อให้เกิดความปั่นปวนแปรปรวนน้อย การเกิดภัยพิบัติต่างๆ ก็ย่อมน้อยลงไปเอง
ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ ก็เกิดมหันตภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น เราได้เห็นความสมานสามัคคีกลมเกลียวกันของคนญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ จากคำบอกเล่า และข่าวที่ออกมานั้น เราได้เห็นความเป็นระเบียบวินัยเป็นอย่างสูง ไม่มีการฉกชิงวิ่งราวการับแจกแบ่งปันน้ำอาหาร มีการเข้าคิวกับมารับแจกสิ่งของอย่างไม่ย่อท้อแม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บเพียงใดเป็นไปด้วยความมีระเบียบเรียบร้อย และบ้านเรือนก็ไม่ถูกปล้นสะดมเมื่อต้องละทิ้งบ้านเรือนชั่วคราว เมื่อหันมาดูประเทศไทยโดยภาพรวมก็อาจเปรียบเทียบกันไม่ได้ เรายังไม่ประสานพร้อมเพียงกันทั้งประเทศที่แสดงให้เห็นถึงความรักสามัคคีแบบญ่ี่ปุ่น ยังมีสื่อมวลชนออกมาเหมือนกับจะตำหนิรัฐบาลที่ช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที รวมทั้งบางพรรคการเมืองก็ยังมีการเสียดสีการดำเนินงานของรัฐบาล
ผู้เขียนไม่ทราบได้แน่ชัดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร ที่เขามีแตกต่างจากเราเท่าที่เคยได้ไปสัมผัสเคยไปอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นปีกว่า คือการมีท้องถิ่นชุมชนที่เข้มแข็งที่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ ช่วยเหลือกันเองก่อนที่ส่วนกลางจะมาช่วยเหลือ เทียบกับประเทศไทยแล้วเราอาจยังห่างเขาหลายขุม เพราะทุกเมืองญี่ปุ่นจะมีการเตือนภัย และสร้างแหล่งหลบภัยมีการซ้อม เพื่อทดสอบการใช้งานของระบบเตือนภัย และประชาชนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี โชคดีที่เราได้เห็นการช่วยเหลือตัวเองของญี่ปุ่นทำให้เราเกิดกำลังใจที่จะช่วยเหลือตัวเอง คนในเมืองก็เข้าใจคนที่อยู่นอกเมืองที่ประสบภัยมากขึ้น จึงได้ยินคนเมืองหลายคนพูดว่าให้ไปช่วยคนที่ลำบากกว่า
การแจกของช่วยเหลือน้ำท่วมคราวนี้ เป็นสองละลอกเพราะน้ำท่วมใหญ่สองครั้ง ก็มีเสียงบ่นว่าการแจกจ่ายของจำเป็นสำหรับยังชีพที่จำเป็นไม่ทั่วถึง บางที่ก็ไปกระจุกตัว มากันหลายครั้ง บางที่ก็ไม่เห็นมีใครมาแจก จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ประสบภัยน้ำท่วม บางครั้งก็ฟังดูเหมือนกับว่าตำหนิว่าไม่มีใครมาเหลียวแล ยังไม่ค่อยได้ยินได้ฟังว่าได้พยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างไรบ้างที่ไม่รอผู้อื่นมาช่วย ชุมชนท้องถิ่นช่วยเหลือกันเองอย่างไร แต่ก็มีบางที่บอกว่าน้ำสูงเกือบมิดศีรษะ ไม่มีใครนำสิ่งของมาแจกจ่าย ต้องว่ายน้ำไปขนข้าวสารเรือท้องแบนก็ไม่มี กำนันผู้ใหญ่บ้านก็ไม่มีใครนำมาแจก ก็พยายมคิดให้ว่า ผู้ที่จะมาแจกก็อาจคิดว่าอบพยบกันไปหมดแล้วเพราะน้ำท่วมสูงขนาดนั้นไม่น่าจะมีใครอยู่
ในบางท้องที่น้ำได้ลดลงไปแล้วไม่ได้เดือดร้อนอะไรแต่ก็มีคนนำสิ่งของไปแจกจ่าย ซึ่งดูๆ ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนมากมายนักแต่ก็ได้รับการแจกจ่าย บางคนก็ไม่ยอมรับของแจกจ่ายเพราะไม่ได้เดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่ก็มีอีกหลายคนก็รับของแจกไว้ทั้งๆที่ไม่ได้เดือดร้อนจากน้ำท่วมเลย หากคิดได้ว่ายังมีคนที่เดือดร้อนจริงๆอีกมาก แล้วนำไปให้ญาติคนรู้จักที่เดือดร้อนจริงๆ ก็จะเป็นกุศลมากกว่า
ส่วนการสร้างสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำทำให้น้ำไหลระบายไปไม่สะดวกก็ทำให้น้ำท่วมขังอยู่นานขึ้นก็เป็นไปได้ ปกติแล้วน้ำจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำตามแรงความโน้มถ่วงเมื่อมีอะไรมาขวางทางน้ำ น้ำก็ยังคงพยายามเคลื่อนไปในทางที่เห็นว่าสะดวกคล่องตัวที่สุดเสมอ ในประเด็นนี้น่าจะนำมาเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ว่าการเคลื่อนที่ของน้ำไปข้างหน้านั้นโดยธรรมชาติของมันก็พยายามหาเส้นทางที่ดีที่สุดเหมาะสมที่สุด เมื่อฝนตกหนักแต่ละครั้งเราก็จะเห็นว่าเส้นทางที่น้ำจะไหลมารวมตัวกันอยู่ ณที่ใด ซึ่งก็คงเดาทายกันได้ว่าคือที่ต่ำ ใครที่สร้างสิ่งปลุกสร้างที่เป็นทางผ่านลงไปสู่ที่ต่ำ จากแหล่งน้ำขนาดใหญ่เช่นป่าจากภูเขาหรือเทือกเขาใหญ่ หากป่าถูกทำลายมากแล้วละก็น้ำก็ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ยิ่งมีปริมาณมากก็ยิ่งเคลื่อนตัวลงมาเร็วและแรงจะกัดเซาะสิ่งก่อสร้างที่ผ่านไปให้พังทะลายไปได้ ดังที่เราจะเห็นตัวอย่างในคราวนี้ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ทางรถไฟ บ้านเรือนที่ขวางทางน้ำ
การเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก หากฝนตกเป็นระยะเวลานาน และตกหนักด้วยแล้วมักตามมาด้วยแผ่นดินถล่ม ดินโคลนเคลื่อนไถลมาทับสิ่งปลูกสร้างต่างๆ หากชลาใจว่าไม่รุนแรงแล้วก็อาจทำความเสียหายถึงชีวิตเพราะหนีไม่ทัน เช่นเดียวกับการเกิดสึนามิ ผลของการเลือกเส้นทางเดินที่เหมาะสมของน้ำ ก็จะก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ๆตามมา ด้วยการเคลื่อนตัวของน้ำปริมาณมากๆ ได้พัดพาเอาทรายหินดิน มาด้วย อาจก่อให้เกิดลำน้ำใหม่ เนินดินใหม๋ หรืออาจก่อให้เกิดหาดทรายใหม่ ที่ที่เคยสร้างบ้านอาศัยอยู่ ก็อาจไม่สามารถที่จะสร้างบ้านอยู่ได้อีกต่อไป คิดให้ดีก็เหมือนกับธรรมชาติจะบอกว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน ที่มนุษย์คิดว่าจะเอาชนะธรรมชาติโดยอาศัยเทคโนโลยีนั้น ธรรมชาติก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีพลังใดยิ่งใหญ่กว่าพลังจากธรรมชาติ
หากคิดว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ อาจคิดได้ว่าว่าการกระทำของมนุษย์เป็นการกระทำกับธรรมชาติให้ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป ย่ิ่งมนุษย์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใดก็ย่อมทำให้เกิดการปั่นป่วนมากขึ้นเท่านั้น ในรูปของพายุ แผ่นดินไหว ความแห้งแล้ว บางบริเวณ และฝนตกหนักบางบริเวณ จากคำกล่าวโบราณในลัทธิเต๋าที่บอกว่า "การสงบนิ่งสยบความเคลื่อนไหว" นั้นเป็นเรื่องน่าคิด เพราะถ้าเราสงบนิ่งหรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดแล้ว ย่อมก่อให้เกิดความปั่นปวนแปรปรวนน้อย การเกิดภัยพิบัติต่างๆ ก็ย่อมน้อยลงไปเอง
ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ ก็เกิดมหันตภัยแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น เราได้เห็นความสมานสามัคคีกลมเกลียวกันของคนญี่ปุ่นในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ จากคำบอกเล่า และข่าวที่ออกมานั้น เราได้เห็นความเป็นระเบียบวินัยเป็นอย่างสูง ไม่มีการฉกชิงวิ่งราวการับแจกแบ่งปันน้ำอาหาร มีการเข้าคิวกับมารับแจกสิ่งของอย่างไม่ย่อท้อแม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บเพียงใดเป็นไปด้วยความมีระเบียบเรียบร้อย และบ้านเรือนก็ไม่ถูกปล้นสะดมเมื่อต้องละทิ้งบ้านเรือนชั่วคราว เมื่อหันมาดูประเทศไทยโดยภาพรวมก็อาจเปรียบเทียบกันไม่ได้ เรายังไม่ประสานพร้อมเพียงกันทั้งประเทศที่แสดงให้เห็นถึงความรักสามัคคีแบบญ่ี่ปุ่น ยังมีสื่อมวลชนออกมาเหมือนกับจะตำหนิรัฐบาลที่ช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที รวมทั้งบางพรรคการเมืองก็ยังมีการเสียดสีการดำเนินงานของรัฐบาล
ผู้เขียนไม่ทราบได้แน่ชัดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร ที่เขามีแตกต่างจากเราเท่าที่เคยได้ไปสัมผัสเคยไปอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นปีกว่า คือการมีท้องถิ่นชุมชนที่เข้มแข็งที่สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ ช่วยเหลือกันเองก่อนที่ส่วนกลางจะมาช่วยเหลือ เทียบกับประเทศไทยแล้วเราอาจยังห่างเขาหลายขุม เพราะทุกเมืองญี่ปุ่นจะมีการเตือนภัย และสร้างแหล่งหลบภัยมีการซ้อม เพื่อทดสอบการใช้งานของระบบเตือนภัย และประชาชนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี โชคดีที่เราได้เห็นการช่วยเหลือตัวเองของญี่ปุ่นทำให้เราเกิดกำลังใจที่จะช่วยเหลือตัวเอง คนในเมืองก็เข้าใจคนที่อยู่นอกเมืองที่ประสบภัยมากขึ้น จึงได้ยินคนเมืองหลายคนพูดว่าให้ไปช่วยคนที่ลำบากกว่า
การแจกของช่วยเหลือน้ำท่วมคราวนี้ เป็นสองละลอกเพราะน้ำท่วมใหญ่สองครั้ง ก็มีเสียงบ่นว่าการแจกจ่ายของจำเป็นสำหรับยังชีพที่จำเป็นไม่ทั่วถึง บางที่ก็ไปกระจุกตัว มากันหลายครั้ง บางที่ก็ไม่เห็นมีใครมาแจก จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ประสบภัยน้ำท่วม บางครั้งก็ฟังดูเหมือนกับว่าตำหนิว่าไม่มีใครมาเหลียวแล ยังไม่ค่อยได้ยินได้ฟังว่าได้พยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างไรบ้างที่ไม่รอผู้อื่นมาช่วย ชุมชนท้องถิ่นช่วยเหลือกันเองอย่างไร แต่ก็มีบางที่บอกว่าน้ำสูงเกือบมิดศีรษะ ไม่มีใครนำสิ่งของมาแจกจ่าย ต้องว่ายน้ำไปขนข้าวสารเรือท้องแบนก็ไม่มี กำนันผู้ใหญ่บ้านก็ไม่มีใครนำมาแจก ก็พยายมคิดให้ว่า ผู้ที่จะมาแจกก็อาจคิดว่าอบพยบกันไปหมดแล้วเพราะน้ำท่วมสูงขนาดนั้นไม่น่าจะมีใครอยู่
ในบางท้องที่น้ำได้ลดลงไปแล้วไม่ได้เดือดร้อนอะไรแต่ก็มีคนนำสิ่งของไปแจกจ่าย ซึ่งดูๆ ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนมากมายนักแต่ก็ได้รับการแจกจ่าย บางคนก็ไม่ยอมรับของแจกจ่ายเพราะไม่ได้เดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่ก็มีอีกหลายคนก็รับของแจกไว้ทั้งๆที่ไม่ได้เดือดร้อนจากน้ำท่วมเลย หากคิดได้ว่ายังมีคนที่เดือดร้อนจริงๆอีกมาก แล้วนำไปให้ญาติคนรู้จักที่เดือดร้อนจริงๆ ก็จะเป็นกุศลมากกว่า
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เรียนรู้เรื่องปูที่ไม่ธรรมดา
วันนี้มีคนนำปูดำมาให้ก็หลายตัว เป็นปูสดยังเป็นๆ ซึ่งก็ต้องมัดก้ามไว้ไม่ให้หนีบคนที่จะมาจับ แต่พอจะทำให้สุกหรือทำเป็นกับข้าวกินก็เกิดสงสาร ถ้าจับใส่หม้อต้มเลยปูก็คงทรมานเจ็บปวดก่อนตาย ก็เลยคิดว่าถ้าเราตัดตัวปูเป็นสองท่อนให้มันตายเสียก่อนแล้ว ปูก็น่าจะทรมานน้อยกว่า ว่าแล้วก็ตัดปูเป็นสองท่อนตามแนวขวางแยกขาออกไปสองด้าน ก็คิดว่าปูคงตายแล้วก็ไปแก้เชือกที่ผูกก้ามหนีบอันใหญ่ออก ทันใดนั้นอย่างไม่คาดคิดมันยังมีแรงหนีบเอานิ้วเสียเหลือดกระฉูดเลย คนที่มาเห็นก็เลยจัดการต้มปูให้โดยไม่ต้องนึกถึงความสงสารอีกต่อไป
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเห็นว่ามีใครผูกก้ามปูม้าป้องกันหนีบ เพราะที่วางขายอยู่ถ้าเป็นปูม้านั้นล้วนตายแล้ว และโดยธรรมชาติของมันหลังจากถูกจับขึ้นจากน้ำทะเลก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่สำหรับปูดำหลังจากจับได้สามารถอยู่ได้โดยไม่เสียชีวิตเป็นเวลาหลายวันกว่ามันจะตาย ด้วยเหตุนี้สำหรับปูดำใกล้ตายหรือที่ตายแล้วถือว่าเป็นปูที่นำมาทำอาหารแล้วไม่อะหร่อย สู้ปูที่เพิ่งจับได้ใหม่ๆไม่ได้ เกี่ยวกับปูดำมีเรื่องแปลกอยู่อีกอย่างหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปูดำตายได้ง่ายก็คือเมื่อยุงมากัดตาปู แล้วมันแพ้ทางกันปูจะตายอย่างรวดเร็ว
ปูที่ลอกคราบจะเป็นปูนิ่ม แม้แต่กระดองปูก็ยังนิ่มสามารถบริโภคได้หมด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้หลายอย่าง ปูนิ่มที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นมีน้อยมาก เพราะเมื่อปูลอกคราบเป็นช่วงที่ปูอ่อนแอมากที่สุด กระดองปูจะมีแคลเซียมาสะสมอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นเกาะป้องกันตัว ดังนั้นปูนิ่มจึงต้องมีการเพาะเลี้ยง ควบคุมจังหวะการลอกคราบที่จะนำไปบริโภคไดัมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงปูนิ่มเป็นอุตสาหกรรมกันทีเดียว
ชวนขันวันหยุด
สะกดคำเด็กชาย1 : ผมเรียนรู้การสะกดคำไม่ได้เลย
เด็กชาย2 : ทำไมละ
เด็กชาย1 : ก็ครูของผมเล่นเปลี่ยนคำให้สะกดอยู่เรื่อยเลย
หนังกระรอกภรรยา: คุณคงไม่คาดหวังให้ฉันสวมเสื้อหนังกระรอกเก่านี้ไปจนตลอดชีวิตนะ
สามี : ทำไมละ กระรอกมันก็ยังทำเช่นนั้นเลย
ปัตตาคารลูกค้าที่มากินอาหารพูดบ่นกับพนักงานเสิร์ฟว่า "ไม่มีไก่ในซุปไก่เลย"
พนักงานเสิร์ฟพูดตอบกลับไปว่า "ก็ไม่มีม้าในพวกซุปม้าเช่นกัน"
เด็กชาย2 : ทำไมละ
เด็กชาย1 : ก็ครูของผมเล่นเปลี่ยนคำให้สะกดอยู่เรื่อยเลย
หนังกระรอกภรรยา: คุณคงไม่คาดหวังให้ฉันสวมเสื้อหนังกระรอกเก่านี้ไปจนตลอดชีวิตนะ
สามี : ทำไมละ กระรอกมันก็ยังทำเช่นนั้นเลย
ปัตตาคารลูกค้าที่มากินอาหารพูดบ่นกับพนักงานเสิร์ฟว่า "ไม่มีไก่ในซุปไก่เลย"
พนักงานเสิร์ฟพูดตอบกลับไปว่า "ก็ไม่มีม้าในพวกซุปม้าเช่นกัน"
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
กรรมอดีตปัจจุบัน
กรรมตามความหมายนี้ก็คือผลการกระทำซึ่งมีทั้งการกระทำดีและไม่ดี ผลการกระทำไม่ใช่จากอดีตชาติเท่านั้น แต่เป็นผลกรรมในชาตินี้ด้วยที่หนุนเนื่องกันมา ผสมผสานกัน ถ้าเชื่อว่าผลกรรมทุกอย่างมาจากอดีตชาติอย่างเดียวที่ทำให้เป็นปัจจุบัน ก็จะทำให้เรายอมจำนนไม่ต้องทำอะไร เพราะชตามันต้องเป็นอย่างนั้น
ศาสนาพุทธเชื่อในเรื่องกรรม ผลการกระทำที่ผ่านมาทำกรรมไม่ดีมาก็มีส่วนให้ได้รับผลไม่ดีได้ แต่ถ้ามาทำกรรมดีชดเชย จะรู้ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรมาก่อนก็ทำกรรมดีไว้ก่อนแล้วเผื่อชาติที่แล้วไว้ด้วยก็จะทำให้อะไรดีขึ้นได้ ทำให้กรรมหนักลดความรุนแรงลงได้
ศาสนาพุทธเชื่อในเรื่องกรรม ผลการกระทำที่ผ่านมาทำกรรมไม่ดีมาก็มีส่วนให้ได้รับผลไม่ดีได้ แต่ถ้ามาทำกรรมดีชดเชย จะรู้ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรมาก่อนก็ทำกรรมดีไว้ก่อนแล้วเผื่อชาติที่แล้วไว้ด้วยก็จะทำให้อะไรดีขึ้นได้ ทำให้กรรมหนักลดความรุนแรงลงได้
อาหารต้านมะเร็งและหลอดเลือดอุดตัน
ปกติแล้วเราควรรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับการป้องกันที่มีสารพิษและอาหารที่มีไขมันสูง จึงควรรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน มีวิตามินอีและซีอยู่ในปริมาณมาก พบว่าการเป็นมะเร็งและหลอดเลือดอุดตันจะน้อยกว่าคนอื่น สารอาหารดังกล่าวมีมากในแครอท แอพปริคอด แคลตาลูป ผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม ผักเขียวเข้ม บล็อกโคลี คะน้า กวางตุ้ง
วิตามินซีและอีสามารถป้องกันมะเร็งได้ สามารถหาซื้อมากินเสริมได้ โดยเฉพาะวิตามินซีมีมากในฝรั่ง น้ำฝรั่ง และผลมะขามป้อม มะนาว และผลไม้และผักสด
วิตามินซีและอีสามารถป้องกันมะเร็งได้ สามารถหาซื้อมากินเสริมได้ โดยเฉพาะวิตามินซีมีมากในฝรั่ง น้ำฝรั่ง และผลมะขามป้อม มะนาว และผลไม้และผักสด
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
โมเลกุลของชีวิต
โมเลกุลทั้งหมดที่ปรากฏในระบบชีวิตประกอบด้วยธาตุเคมีหลักเพียง 6 ชนิดคือ คาร์บอน(carbon) ไฮโดรเจน(hydrogen) ไนโตรเจน(nitrogen) ออกซิเจน(oxygen) ฟอสฟอรัส (phosphorus) และซัลเฟอร์ (sulfur) เป็นธาตุที่มีอยู่เสมอเมื่อเกี่ยวข้องกับการพัฒนาก่อเกิดชีวิตขึ้นมา เพื่อให้จำได้ง่ายใช้ตัวย่อคือ CHNOPS
มีโมเลกุล 4 ชนิดหลักของระบบชีวิตได้แก่ คาร์โบไฮเดรด(carbohydrates) โปรตีน (protein), ไลปิด (lipids) และกรดนิวคลีอิค (nucleic acids) โมเลกุลแต่ละแบบดังกล่าวมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน และมีบทบาทที่แตกต่างกัน คาร์โบไฮเดรทนำพลังงาน และสร้างเนื้อเยื่อโครงสร้างบางอย่าง โปรตีนเป็นเหมือนแรงงานทางเคมีภายในเซลและจัดสร้างเนื้อเยื่อบางอย่างเช่นกัน ไลปิดเป็นส่นสำคัญของเซลล์เมมเบรน (cell membranes) เป็นแหล่งเก็บพลังงาน ส่วนกรดนิวคลีอิค (DNA และ RNA) ทำหน้าที่นำข่าวสารสำคัญในการปฏิบัติงานในเซลล์
มีโมเลกุล 4 ชนิดหลักของระบบชีวิตได้แก่ คาร์โบไฮเดรด(carbohydrates) โปรตีน (protein), ไลปิด (lipids) และกรดนิวคลีอิค (nucleic acids) โมเลกุลแต่ละแบบดังกล่าวมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน และมีบทบาทที่แตกต่างกัน คาร์โบไฮเดรทนำพลังงาน และสร้างเนื้อเยื่อโครงสร้างบางอย่าง โปรตีนเป็นเหมือนแรงงานทางเคมีภายในเซลและจัดสร้างเนื้อเยื่อบางอย่างเช่นกัน ไลปิดเป็นส่นสำคัญของเซลล์เมมเบรน (cell membranes) เป็นแหล่งเก็บพลังงาน ส่วนกรดนิวคลีอิค (DNA และ RNA) ทำหน้าที่นำข่าวสารสำคัญในการปฏิบัติงานในเซลล์
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
หลักสูตร
เป็นแผนดำเนินการที่จะก่อให้เกิดการกระทำ เอกสารที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ที่รวมเอาเทคนิควิธีการ ยุทธวิธีเพื่อให้บรรลุผลเป้าหมายที่ต้องการ ในเรื่องการสอนและการเรียนรู้
เป็นแผนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ว่าอะไรที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของผู้เรียน สามารถนำมาพิจารณาในรายวิชา เนื้อหา เป็นแนวทางที่จะซึมซับเอาสารสนเทศต่างๆ ไว้ และบ่งบอกถึงเนื้อหาวิชาที่แตกต่างกันตามระดับชั้น
โดยแผนการจัดชุดการเรียนรู้ ให้โอกาสแก่บุคคลที่จะให้การศึกษา หรือเป็นการจัดการศึกษาตามโครงสร้างแบบฉบับจัดให้มีการฝึกตามที่คาดหวังไว้ ตามรายละเอียดในหลักสูตร ประกอบไปด้วยสิ่งจำเป็นที่ต้องกำหนดไว้ในหลักสูตรคือ
-ตารางเวลาเรียนที่ใช้ในการสอนแต่ละวัน
-ตำราเอกสารที่ใช้ สื่อการเรียนรู้ อื่นๆ ที่นำมาใช้
-ลำดับของหัวข้อเนื้อหาที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้
-การประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ได้ใกล้เคียงกับที่เรียนรู้อย่างไร
-บอกถึงเนื้อหาที่ไปเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอื่นอย่างไร
และหลักสูตรที่เน้นการสร้างความรู้ จะคำนึงถึงผู้เรียนว่ามีพื้นฐานอะไรอยู่ก่อนแล้ว ที่นำมาสู่สถานะการณ์การเรียนรู้ จุดประสงค์แนวคิดของหลักสูตรคิดให้เป็นชุดของกิจกรรม และการปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ จากการเรียนรู้ เป็นการเฉพาะจะมีการทดสอบก่อนการเรียน ดุว่าได้เรียนรู้อะไรมาก่อนในเรื่องนั้นๆ รวมเรื่องที่มีวิจัยรองรับ และการสืบเสาะหาความรู้
เป็นแผนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ว่าอะไรที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของผู้เรียน สามารถนำมาพิจารณาในรายวิชา เนื้อหา เป็นแนวทางที่จะซึมซับเอาสารสนเทศต่างๆ ไว้ และบ่งบอกถึงเนื้อหาวิชาที่แตกต่างกันตามระดับชั้น
โดยแผนการจัดชุดการเรียนรู้ ให้โอกาสแก่บุคคลที่จะให้การศึกษา หรือเป็นการจัดการศึกษาตามโครงสร้างแบบฉบับจัดให้มีการฝึกตามที่คาดหวังไว้ ตามรายละเอียดในหลักสูตร ประกอบไปด้วยสิ่งจำเป็นที่ต้องกำหนดไว้ในหลักสูตรคือ
-ตารางเวลาเรียนที่ใช้ในการสอนแต่ละวัน
-ตำราเอกสารที่ใช้ สื่อการเรียนรู้ อื่นๆ ที่นำมาใช้
-ลำดับของหัวข้อเนื้อหาที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้
-การประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ได้ใกล้เคียงกับที่เรียนรู้อย่างไร
-บอกถึงเนื้อหาที่ไปเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอื่นอย่างไร
และหลักสูตรที่เน้นการสร้างความรู้ จะคำนึงถึงผู้เรียนว่ามีพื้นฐานอะไรอยู่ก่อนแล้ว ที่นำมาสู่สถานะการณ์การเรียนรู้ จุดประสงค์แนวคิดของหลักสูตรคิดให้เป็นชุดของกิจกรรม และการปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ จากการเรียนรู้ เป็นการเฉพาะจะมีการทดสอบก่อนการเรียน ดุว่าได้เรียนรู้อะไรมาก่อนในเรื่องนั้นๆ รวมเรื่องที่มีวิจัยรองรับ และการสืบเสาะหาความรู้
ได้แก่องค์ประกอบคำสอนคือ
1 การสอนให้คิดในระดับสูง
2 การสอนความรู้ในระดับลึก
3 การสอนให้เชื่อมโยงกับโลก
4 การสอนให้สังคมสนับสนุน
5 การสอนสนทนาที่พอเพียง
การสอนให้คิดในระดับสูง (high order thinking)
นักเรียนจัดการสารสนเทศแนวคิดของเนื้อหาที่เรียนรู้ในทางที่ให้ความหมายและสิ่งที่เกี่ยวข้องแก่นักเรียน นักเรียนจะควบรวมเอาความจริง (fact) กับและแนวคิด เพื่อนำมาสังเคราะทำให้เป็นทั่วไปหรือสามัญการ ใช้อธิบายและกำหนดสมมุติฐาน หรือให้ได้มาถึงซึ่งข้อสรุปบางอย่าง หรือเป็นการตีความ การจัดการสารสนเทศและแนวคิด (idea) จึงผ่านกระบวนการดังกล่าว ที่ปล่อยให้นักเรียนได้แก้ปัญหา และค้นพบความหมายและความเข้าใจใหม่
การสอนความรู้ระดับลึก
เมื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับแนวคิดหลักของหัวข้อเนื้อหาวิชา ความรู้ของนักเรียนจะอยู่ในระดับลึกเมื่อนักเรียนสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ชัด สร้างข้อโต้แย้ง แก้ปัญหาและสามารถหารคำอธิบาย
การสอนเชื่อมโยงเข้ากับโลก
นั้นคำสอนสามารถแสดงความเชื่อมโยงได้ในระดับหนึ่ง เมื่อนักเรียนไดยกประเด็นปัญหาสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และนักเรียนใช้ประสบการณ์ตัวเองเป็นเหมือนปริบทสำหรับประยุกใช้ความรู้
การสอนให้สังคมสนับสนุน
เมื่อครูด้วยความคาดหวังสูงสำหรับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนทั้งหมดแล้วการสนับสนุนทางสังคมจะมีสูง รวมไปถึงความจำเป็นที่ต้องเสี่ยง ในการใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ผู้เรียนรอบรู้กับงานที่ท้าทายทางวิชาการ ที่สมาชิกทั้งหมดในชั้นเรียนสามารถจะเรียนรู้ ความรู้และทักษะที่สำคัญ นับเป็นบรรยากาศที่ทุกคนในชั้นเรียนจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลร่วมกันระหว่างสมาชิกในชั้นเรียน
การสอนให้มีการแสดงออกพูดคุยสนทนา
เช่นการสนทนาในระดับสูง เป็นตังบ่งชีถึง การมีปฏิสัมพันธ์ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดของหัวข้อเนื้อหา ร่วมทั้งตัวบ่งชี้ที่จะเป็นการคิดในระดับสูง การแบ่งบันแนวคิดร่วมกันเป็นหลักฐานในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่ได้กำหนดเป็นลายลักษณ์และควบคุมได้ การพูดคุยตอบโต้สร้างความสอดคล้องในการมีส่วนร่วม แนวคิดต่างๆที่นำเสนอเข้ามาสามารถที่จะปรับปรุงอย่างเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจเนื้อหาหรือหัวข้อของเนื้อหา
1 การสอนให้คิดในระดับสูง
2 การสอนความรู้ในระดับลึก
3 การสอนให้เชื่อมโยงกับโลก
4 การสอนให้สังคมสนับสนุน
5 การสอนสนทนาที่พอเพียง
การสอนให้คิดในระดับสูง (high order thinking)
นักเรียนจัดการสารสนเทศแนวคิดของเนื้อหาที่เรียนรู้ในทางที่ให้ความหมายและสิ่งที่เกี่ยวข้องแก่นักเรียน นักเรียนจะควบรวมเอาความจริง (fact) กับและแนวคิด เพื่อนำมาสังเคราะทำให้เป็นทั่วไปหรือสามัญการ ใช้อธิบายและกำหนดสมมุติฐาน หรือให้ได้มาถึงซึ่งข้อสรุปบางอย่าง หรือเป็นการตีความ การจัดการสารสนเทศและแนวคิด (idea) จึงผ่านกระบวนการดังกล่าว ที่ปล่อยให้นักเรียนได้แก้ปัญหา และค้นพบความหมายและความเข้าใจใหม่
การสอนความรู้ระดับลึก
เมื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับแนวคิดหลักของหัวข้อเนื้อหาวิชา ความรู้ของนักเรียนจะอยู่ในระดับลึกเมื่อนักเรียนสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ชัด สร้างข้อโต้แย้ง แก้ปัญหาและสามารถหารคำอธิบาย
การสอนเชื่อมโยงเข้ากับโลก
นั้นคำสอนสามารถแสดงความเชื่อมโยงได้ในระดับหนึ่ง เมื่อนักเรียนไดยกประเด็นปัญหาสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และนักเรียนใช้ประสบการณ์ตัวเองเป็นเหมือนปริบทสำหรับประยุกใช้ความรู้
การสอนให้สังคมสนับสนุน
เมื่อครูด้วยความคาดหวังสูงสำหรับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนทั้งหมดแล้วการสนับสนุนทางสังคมจะมีสูง รวมไปถึงความจำเป็นที่ต้องเสี่ยง ในการใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ผู้เรียนรอบรู้กับงานที่ท้าทายทางวิชาการ ที่สมาชิกทั้งหมดในชั้นเรียนสามารถจะเรียนรู้ ความรู้และทักษะที่สำคัญ นับเป็นบรรยากาศที่ทุกคนในชั้นเรียนจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลร่วมกันระหว่างสมาชิกในชั้นเรียน
การสอนให้มีการแสดงออกพูดคุยสนทนา
เช่นการสนทนาในระดับสูง เป็นตังบ่งชีถึง การมีปฏิสัมพันธ์ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดของหัวข้อเนื้อหา ร่วมทั้งตัวบ่งชี้ที่จะเป็นการคิดในระดับสูง การแบ่งบันแนวคิดร่วมกันเป็นหลักฐานในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่ได้กำหนดเป็นลายลักษณ์และควบคุมได้ การพูดคุยตอบโต้สร้างความสอดคล้องในการมีส่วนร่วม แนวคิดต่างๆที่นำเสนอเข้ามาสามารถที่จะปรับปรุงอย่างเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจเนื้อหาหรือหัวข้อของเนื้อหา
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เรียนรู้แบบสร้างความรู้
สำหรับกลุ่มผู้สร้างความรู้ (constructivist) การเรียนรู้คือการแก้ปัญหาอยู่บนฐานของทฤษฎีของปัจเจก ผู้เรียนได้รับสิ่งเร้ากระตุ้นจากด้านใน ผู้เรียนต้องการสิ่งแวดล้อมที่สนองตอบ ที่ซึ่งความสำคัญอยู่ในรูปแบบการเรียนของผู้เรียนแต่ละคน ที่เป็นเหมือนกับผู้เรียนสะท้อนความคิดในการปรับความสมดุลเชิงรุก (active, selfregulating reflective learner)
ในการนี้เหมือนกับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการออกแบบคำสอนจากพฤติกรรมไปสู่ปัญญา ตามแนว constructivism ซึ่งพฤติกรรมมาจากเหตุการภายนอก ทีดูพฤติกรรมมนุษย์จากสิ่งแวดล้อม
ในการนี้เหมือนกับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการออกแบบคำสอนจากพฤติกรรมไปสู่ปัญญา ตามแนว constructivism ซึ่งพฤติกรรมมาจากเหตุการภายนอก ทีดูพฤติกรรมมนุษย์จากสิ่งแวดล้อม
ข้อคิด
สิ่งใหม่จะไม่ปรากฏ หากไม่ได้ฝันฝ่าความยากลำบาก อุปสรรค เหมือนช่วงเวลาชีวิตแห่งความมืดมน เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน
ไปวัดทำไม
ตอบแบบตรงไปตรงมากก็ไปทำกุศลให้แก่ตนเองและผู้อื่น ให้แก่ตนเองอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ไปสร้างปัญหาใดๆ ให้ใครได้ในช่วงนี้ และเมื่อไปทำกุศลในเรื่องดีก็จะทำให้จิตใจดีอิ่มเอิบ จะฝึกปฏิบัติทางจิตอะไรในการพัฒนาตนเองจากด้านในไม่มีการจับผิดใคร เพิ่มพลังแห่งความเมตตากรุณา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น
ไปวัดไม่ใช่ไปทำบุญเพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญต้องหาโอกาสตอนใดก็ได้สำหรับตามดูความคิดของตนที่เข้ามาปรุงแต่งให้ทัน ฝึกบ่อยๆ จะรู้เท่าทันและจะไม่ก่อให้เกิดทุกข์ นอกจากนี้ยังต้องฝึกดูความคิดที่เป็นผลงานของจิตที่เกิดอาการ เกิดอารมขึ้นแล้ว ทำอย่างไรให้เกิดปัญญาใช้ปัญญาในการทำงาน ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
หากไม่ไปที่วัดอยู่ทีบ้านเราก็ปฏิบัติได้ แต่ก็ทำให้ขาดการช่วยเหลือสัมพันธ์กัน ขาดการแบ่งปันแลกเปลี่ยนที่ก่อให้เกิดปัญญาแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นก็ได้
ไปวัดไม่ใช่ไปทำบุญเพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญต้องหาโอกาสตอนใดก็ได้สำหรับตามดูความคิดของตนที่เข้ามาปรุงแต่งให้ทัน ฝึกบ่อยๆ จะรู้เท่าทันและจะไม่ก่อให้เกิดทุกข์ นอกจากนี้ยังต้องฝึกดูความคิดที่เป็นผลงานของจิตที่เกิดอาการ เกิดอารมขึ้นแล้ว ทำอย่างไรให้เกิดปัญญาใช้ปัญญาในการทำงาน ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
หากไม่ไปที่วัดอยู่ทีบ้านเราก็ปฏิบัติได้ แต่ก็ทำให้ขาดการช่วยเหลือสัมพันธ์กัน ขาดการแบ่งปันแลกเปลี่ยนที่ก่อให้เกิดปัญญาแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นก็ได้
ผู้เรียนเป็นสำคัญ
ผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีการบังคับ ต่อว่า ค้นพบด้วยตนเอง วางแผนเอง เรียนรู้ด้วยการปฏบัติ สอดคล้องกับโรงเรียนวิถีพุทธ ในการสอนเมื่องครั้งพุทธกาล ไม่ต้องอธิบายให้ค้นพบเอง
ความฟิตเป็นอย่างไร
ในความหมายทั่วไปที่สุดความฟิต (fittness) เป็นความสามารถของร่างกายที่มีอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม และความกดดันที่มีต่อสภาพจิต และร่างกายทางกายภาพ
ตามความเข้าใจใน ปัจจุบัน ในความหมายที่มีประโยชน์กว่าคือ ความสามารถทางร่างกายภาพที่่สามารถวัดทดสอบได้ ถึงความแข็งแรง ความเร็ว ความคงทน
สุขภาพกับความฟิตไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกัน นักกีฬาที่เก่งก็อาจเจ็บป่วยได้ หากได้รับเชื้อโรค ในทางที่กลับกันคนที่ตรวจแล้วพบว่าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร สภาพร่างกายอาจไม่ฟิต แต่ก็ไม่มีเชื้อโรคอะไร
เมื่อก่อนถ้า อยากดูว่าร่างกายใครฟิตหรือไม่ฟิตก็อาจดูจากอิริยบทจากการทำงาน การเดินเหิน กระฉับกระเฉงหนือไม่ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวบอกความสามารถของร่างกายได้ระดับหนึ่ง ในสังคมปัจจุบัน อิริยบทการเดิน การทำงาน ยกของมีน้อยลงทำให้มีการวัดจากการออกกำลังกายที่มีการวางแผน ไม่ได้มาจากการทำงาน เหมือนกับชาวสวน ชาวไร่ ที่ทำนาทำไร่ กรรมกร
องค์ประกอบพื้นฐานของความฟิตสามารถจะดูได้จากความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายมีความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายสามารถหาพลังงาน และออกซิเจนที่ร่างกายต้องการในการดำเนินกิจกรรมทางกายภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหัวใจ และระบบการหายใจที่เรียกว่าความฟิต CR กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนของกล้ามเนื้อในร่างกายที่ขยายออกไป เช่นการเดินเร็ว การวิ่ง การจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ซึ่งขีดจำกัดของความคงทน CR หาได้จากการหายใจ และการเต้นของหัวใจ
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับแรงสูงสุดที่กลุ่มกล้ามเนื้อสามารถให้ได้ในท่าหนึ่งมี 2 ชนิดคือ
1. ความแข็งแรง Isometric เป็นแรงที่ให้กับแรงต้านที่คงที่
2. ความแข็งแรง Isotonic เป็นแรงที่ให้ตลอดช่วงการเคลื่อนไหวที่ยอมให้ได้ของกล้ามเนื้อหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อ
ความคงทนของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับความสามารถของกลุ่มกล้ามเนื้อเฉพาะที่ให้ทำหน้าที่อย่างหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความคงทนจึงมีทั้งแบบ Isometric และ Isotonic
ความคงทนแบบ Isometric เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะคงแรงไว้เท่าที่จะเป็นไปได้ ต้านทานต่อความต้านทานคงที่ หรือตำแหน่งที่คงที่ เช่นการใช้แขนยกดัมเบลต่อเนื่องช่วงเวลาหนึ่ง
ความคงทนแบบ Isotonic เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวซ้ำๆ ทำซ้ำ ต่อแรงต้านได้หลายครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งสองกรณีดังกล่าวหาขีดจำกัดได้ จากกลุ่มกล้ามเนื้อที่จะไม่สามารถกระทำต่อไป
องค์ประกอบของความฟิต ท่ี่มีการกำหนดไว้คือ
ความยืดหยุ่นของข้อต่อ
เกี่ยวข้องกับช่วงที่ข้อต่อเคลื่อนที่ จะขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อที่อยู่ใกล้มากกว่า โครงสร้างข้อต่อตัวเอง
ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความคงทนของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของข้อต่อ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน เช่นกล่าวว่า ความสามารถของกล้ามเนื้อสูงสุด 200 lb. โดยตลอดช่วงเคลื่อนไหวทั้งหมดสามารถจะเคลื่อนได 50lb. ตลอดช่วงได้นานกาว่การเคลื่อนที่ 80 lb.
ความสามารถในการเคลื่อนไหวความสามารถทางกายของแต่ละคนจำกัดอยู่ไม่เพียงแต่จากความฟิตของร่างกาย แต่ยังมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่นการประสานงาน สมดุล การรบกวน การตอบสนอง อัตราเร็ว เวลาที่ใช้เคลื่อนไหว กำลังงานเช่นอัตราเร็วในเคลื่อนที่ส่วนของร่างกาย
องค์ประกอบที่มีผลต่อความฟิต1 อายุ ต้องยอมรับว่าร่างกายเสื่อสภาพลงตามวัย แต่ละคนอาจจะเร็วช้าไม่เท่ากัน
2 เพศ ความแข็งแรงของเพศชาย มีมากกว่าดูจากสถิติการแข็งขันผู้หญิงตามหลังผู้ชายเสมอ
3 รูปร่างบุคคล สมส่วน หรือไม่ ดูได้จากรูปร่างนักกีฬาจะต่างกับคนทั่วไป
โดยสรุป
การ สร้างความฟิตของร่างกายในสังคมปัจจุบันทำให้ต้องมีการออกกำลังกายเพิ่มเติม ที่เป็นการวางแผนเพื่อ ให้ร่างกายสามารถรับออกซิเจนและพลังงานที่จำเป็นเพื่อดำเนินกิจกรรมทั่วไป ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Cadio-Vascular และระบบหายใจ เรียกรวมๆ ว่า Circulo Respiratory Fitness (CRF)
CRF อ้างถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนที่เหมาะสมของกล้ามเนื้อ ในช่วงเวลาหนึ่ง เป็นการเดินเร็วๆ วิ่งจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับ แรงสูงสุดที่กลุ่มของกล้ามเนื้อสามารถทำได้มี 2 ชนิดคือ
1. Isometric strength ให้แรงต้านกับความต้านทานคงที่
2. Isotonic strength ให้แรงต่อเนื่องตลอดเวลา ช่วงการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ของกลุ่มกล้ามเนื้อหนึ่งที่มีผลต่อข้อต่อ
ตามความเข้าใจใน ปัจจุบัน ในความหมายที่มีประโยชน์กว่าคือ ความสามารถทางร่างกายภาพที่่สามารถวัดทดสอบได้ ถึงความแข็งแรง ความเร็ว ความคงทน
สุขภาพกับความฟิตไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกัน นักกีฬาที่เก่งก็อาจเจ็บป่วยได้ หากได้รับเชื้อโรค ในทางที่กลับกันคนที่ตรวจแล้วพบว่าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร สภาพร่างกายอาจไม่ฟิต แต่ก็ไม่มีเชื้อโรคอะไร
เมื่อก่อนถ้า อยากดูว่าร่างกายใครฟิตหรือไม่ฟิตก็อาจดูจากอิริยบทจากการทำงาน การเดินเหิน กระฉับกระเฉงหนือไม่ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวบอกความสามารถของร่างกายได้ระดับหนึ่ง ในสังคมปัจจุบัน อิริยบทการเดิน การทำงาน ยกของมีน้อยลงทำให้มีการวัดจากการออกกำลังกายที่มีการวางแผน ไม่ได้มาจากการทำงาน เหมือนกับชาวสวน ชาวไร่ ที่ทำนาทำไร่ กรรมกร
องค์ประกอบพื้นฐานของความฟิตสามารถจะดูได้จากความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายมีความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายสามารถหาพลังงาน และออกซิเจนที่ร่างกายต้องการในการดำเนินกิจกรรมทางกายภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหัวใจ และระบบการหายใจที่เรียกว่าความฟิต CR กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนของกล้ามเนื้อในร่างกายที่ขยายออกไป เช่นการเดินเร็ว การวิ่ง การจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ซึ่งขีดจำกัดของความคงทน CR หาได้จากการหายใจ และการเต้นของหัวใจ
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับแรงสูงสุดที่กลุ่มกล้ามเนื้อสามารถให้ได้ในท่าหนึ่งมี 2 ชนิดคือ
1. ความแข็งแรง Isometric เป็นแรงที่ให้กับแรงต้านที่คงที่
2. ความแข็งแรง Isotonic เป็นแรงที่ให้ตลอดช่วงการเคลื่อนไหวที่ยอมให้ได้ของกล้ามเนื้อหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อ
ความคงทนของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับความสามารถของกลุ่มกล้ามเนื้อเฉพาะที่ให้ทำหน้าที่อย่างหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความคงทนจึงมีทั้งแบบ Isometric และ Isotonic
ความคงทนแบบ Isometric เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะคงแรงไว้เท่าที่จะเป็นไปได้ ต้านทานต่อความต้านทานคงที่ หรือตำแหน่งที่คงที่ เช่นการใช้แขนยกดัมเบลต่อเนื่องช่วงเวลาหนึ่ง
ความคงทนแบบ Isotonic เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวซ้ำๆ ทำซ้ำ ต่อแรงต้านได้หลายครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งสองกรณีดังกล่าวหาขีดจำกัดได้ จากกลุ่มกล้ามเนื้อที่จะไม่สามารถกระทำต่อไป
องค์ประกอบของความฟิต ท่ี่มีการกำหนดไว้คือ
ความยืดหยุ่นของข้อต่อ
เกี่ยวข้องกับช่วงที่ข้อต่อเคลื่อนที่ จะขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อที่อยู่ใกล้มากกว่า โครงสร้างข้อต่อตัวเอง
ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความคงทนของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของข้อต่อ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน เช่นกล่าวว่า ความสามารถของกล้ามเนื้อสูงสุด 200 lb. โดยตลอดช่วงเคลื่อนไหวทั้งหมดสามารถจะเคลื่อนได 50lb. ตลอดช่วงได้นานกาว่การเคลื่อนที่ 80 lb.
ความสามารถในการเคลื่อนไหวความสามารถทางกายของแต่ละคนจำกัดอยู่ไม่เพียงแต่จากความฟิตของร่างกาย แต่ยังมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่นการประสานงาน สมดุล การรบกวน การตอบสนอง อัตราเร็ว เวลาที่ใช้เคลื่อนไหว กำลังงานเช่นอัตราเร็วในเคลื่อนที่ส่วนของร่างกาย
องค์ประกอบที่มีผลต่อความฟิต1 อายุ ต้องยอมรับว่าร่างกายเสื่อสภาพลงตามวัย แต่ละคนอาจจะเร็วช้าไม่เท่ากัน
2 เพศ ความแข็งแรงของเพศชาย มีมากกว่าดูจากสถิติการแข็งขันผู้หญิงตามหลังผู้ชายเสมอ
3 รูปร่างบุคคล สมส่วน หรือไม่ ดูได้จากรูปร่างนักกีฬาจะต่างกับคนทั่วไป
โดยสรุป
การ สร้างความฟิตของร่างกายในสังคมปัจจุบันทำให้ต้องมีการออกกำลังกายเพิ่มเติม ที่เป็นการวางแผนเพื่อ ให้ร่างกายสามารถรับออกซิเจนและพลังงานที่จำเป็นเพื่อดำเนินกิจกรรมทั่วไป ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Cadio-Vascular และระบบหายใจ เรียกรวมๆ ว่า Circulo Respiratory Fitness (CRF)
CRF อ้างถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนที่เหมาะสมของกล้ามเนื้อ ในช่วงเวลาหนึ่ง เป็นการเดินเร็วๆ วิ่งจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับ แรงสูงสุดที่กลุ่มของกล้ามเนื้อสามารถทำได้มี 2 ชนิดคือ
1. Isometric strength ให้แรงต้านกับความต้านทานคงที่
2. Isotonic strength ให้แรงต่อเนื่องตลอดเวลา ช่วงการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ของกลุ่มกล้ามเนื้อหนึ่งที่มีผลต่อข้อต่อ
เกี่ยวข้องกับการวิจัย
เชิงปริมาณเหมาะสมกับการวิจัยแบบสำรวจ สุ่มตัวอย่างให้ครอบคลุม demographic data จำเป็นในการเปรียบเทียบข้อด้อย
การสุ่มตัวอย่างกำหนดให้ได้ว่ามากเท่าใดจึงเป็นตัวแทนจริงๆ จะเป็นตัวแทนของทั้งหมดหรือไม่
คนที่จะตอบคำถามวิจัยได้ต้องเข้าใจประเด็นคำถามอย่างแท้จริง
การแปลผลการวิจัยที่ค้นพบแปลเกินความเป็นจริง เอาไปใช้ต้องระมัดระวัง
การทบทวนเอกสาร (Literature Review) โดยการสำรวจหัวข้อและ เรื่องราว (topic and issue) ที่เกี่ยวข้องอยู่ในประเด็น (relevant literature) จะต้องทันสมัย (up to date)
การสรุปวรรณกรรมหรือเอกสารไม่เพียงก่อให้เกิด รายการงานเขียนวิชาการ (paper) จะต้องอ่านการวิพากษ์วิจารณ์วรรณกรรม สรุปโดยการเพิ่มเติมเสริมสร้างส่วนที่ขาดไป (gap) ที่ก่อให้เกิด Theoretical Framework/basis
ในการเขียนรายงานอธิบายสิ่งที่ทำเพื่อให้แน่ใจถึงคุณภาพของงานของเรา
ขั้นตอนวิธีการในการวิเคราะห์ข้อมูล อธิบายการพัฒนาเครื่องมือในการแทรกแซง เขียนอย่างมีเหตุผลมีตรรกศาสตร์ เขียนให้ coherence หมายถึงให้ไปด้วยกันสอดคล้องกัน
สรุปรวบยอดของส่วนการค้นพบทั้งหมด สรุปผลการวิจัยนำเสนอที่สอดคล้องกับคำถามวิจัย นำเสนอตารางต่างๆ เข้าประกอบได้ด้วย
การวิจัยอาจเปลี่ยนแปลงถ้าทำไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้ ต้องเปลี่ยนรูปแบบการวิจัยใหม่
การสุ่มตัวอย่างกำหนดให้ได้ว่ามากเท่าใดจึงเป็นตัวแทนจริงๆ จะเป็นตัวแทนของทั้งหมดหรือไม่
คนที่จะตอบคำถามวิจัยได้ต้องเข้าใจประเด็นคำถามอย่างแท้จริง
การแปลผลการวิจัยที่ค้นพบแปลเกินความเป็นจริง เอาไปใช้ต้องระมัดระวัง
การทบทวนเอกสาร (Literature Review) โดยการสำรวจหัวข้อและ เรื่องราว (topic and issue) ที่เกี่ยวข้องอยู่ในประเด็น (relevant literature) จะต้องทันสมัย (up to date)
การสรุปวรรณกรรมหรือเอกสารไม่เพียงก่อให้เกิด รายการงานเขียนวิชาการ (paper) จะต้องอ่านการวิพากษ์วิจารณ์วรรณกรรม สรุปโดยการเพิ่มเติมเสริมสร้างส่วนที่ขาดไป (gap) ที่ก่อให้เกิด Theoretical Framework/basis
ในการเขียนรายงานอธิบายสิ่งที่ทำเพื่อให้แน่ใจถึงคุณภาพของงานของเรา
ขั้นตอนวิธีการในการวิเคราะห์ข้อมูล อธิบายการพัฒนาเครื่องมือในการแทรกแซง เขียนอย่างมีเหตุผลมีตรรกศาสตร์ เขียนให้ coherence หมายถึงให้ไปด้วยกันสอดคล้องกัน
สรุปรวบยอดของส่วนการค้นพบทั้งหมด สรุปผลการวิจัยนำเสนอที่สอดคล้องกับคำถามวิจัย นำเสนอตารางต่างๆ เข้าประกอบได้ด้วย
การวิจัยอาจเปลี่ยนแปลงถ้าทำไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้ ต้องเปลี่ยนรูปแบบการวิจัยใหม่
Sceince education
วิทยาศาสตร์ศึกษา จะศึกษาเกี่ยวข้องกับ นักเรียน ผู้คนเรียนวิทยาศาสตร์กันอย่างไร ทำอย่างไรให้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ดีขึ้น และ ทำอย่างไรให้ครูได้สอนวิทยาศาสตร์ได้ดีขึ้น
ซอพท์แวร์ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์
มีซอพท์แวร์ด้านกราฟิกส์ที่สามารถนำเอาสิ่งที่ไม่ต้องการในภาพออกได้ โดยไม่เห็นร่องรอย ทำให้สิ่งที่รกหูรกตาหายไป เช่นภาพที่มีสายไฟระโยงระยางทำให้ค่อนข้างดี บางส่วนของภาพสามารถปรับตำแหน่งภาพได้โดยอาจไม่ทราบว่าตำแหน่งเดิมเป็นอย่างไร เช่นการปรับงวงของช้าง การทำให้ดุเป็นภาพเปอร์สเป็คทีฟก็ทำได้ง่าย หรือทำได้เลยถ้าต้องการ การต่อเติมภาพทำได้ง่ายการวาดก็ใกล้เคียงการวาดจริงมากขึ้น
ซอพท์แวร์ที่ใช้จัดทำ e-book, e-Mazgazine ผลิตเป็นหนังสือ วารสารออนไลน์ หรือจะทำให้การพลิกหน้าได้เหมือนกับหนังสือจริงก็ทำได้ไม่ยาก การทำภาพเคลื่อนไหวให้สัตว์ขยับปากขยิบตา พูด และให้บริเวณใกล้เคียงเคลื่อนที่คล้ายความเป็นจริงมากขึ้น โดยความสามารถของการทำภาพเคลื่อนไหว (animation) หนังสืออิเลคทรอนิกส์ปัจจุบันเป็นลักษณะของหนังสือที่มีภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอก็ได้ น่าจะเรียกว่าเป็นหนังสือมัลติมีเดียอิเลคทรอนิกส์ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของการนำแนวคิด ไอเดียกับข่าวสารมาสู่ชีวิต
ซอพท์แวร์ที่ใช้จัดทำ e-book, e-Mazgazine ผลิตเป็นหนังสือ วารสารออนไลน์ หรือจะทำให้การพลิกหน้าได้เหมือนกับหนังสือจริงก็ทำได้ไม่ยาก การทำภาพเคลื่อนไหวให้สัตว์ขยับปากขยิบตา พูด และให้บริเวณใกล้เคียงเคลื่อนที่คล้ายความเป็นจริงมากขึ้น โดยความสามารถของการทำภาพเคลื่อนไหว (animation) หนังสืออิเลคทรอนิกส์ปัจจุบันเป็นลักษณะของหนังสือที่มีภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอก็ได้ น่าจะเรียกว่าเป็นหนังสือมัลติมีเดียอิเลคทรอนิกส์ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของการนำแนวคิด ไอเดียกับข่าวสารมาสู่ชีวิต
การสร้่างความสนใจจากการทดลอง
การทดลองเป็นการลองผิดลองถูก ความสนใจที่ติดตัวมาในการหาคำตอบเป็นการกระตุ้นปลุกเร้าผู้เรียน ให้รับรู้ปัญหาเป็นเหมือนกับการท้าทาย ไม่ใช่อุปสรรค
การช่วยเหลือนักเรียนโดยการแยกแยะหัวข้อ เรื่องที่สนใจ ที่จะให้เริ่มต้นคำถามพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้ถามนักเรียนเพื่อให้เป็นงานอดิเรกนอกเวลา ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการตอบคำถาม บทความวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นักเรียนอ่าน สร้างความสนใจที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มีส่วนช่วยในการหาหัวข้อในการศึกษา
แนวทางการช่วยนักเรียนอีกแบบ โดยการพิจารณาการทดลองของนักเรียนที่ผ่านมา จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ที่สามารถหาได้รวมทั้งคำแนะนำจากโครงการ การแข่งขันทำงานตามโครงงานทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา นักเรียนอื่นอาจได้แรงบันดาลใจจากหนังสือต่างๆ เช่นไขความลับทางวิทยาศาสตร์ การสาธิตการศึกษาตัวแปรที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ ก็อาจมีส่วนปลุกเร้าความสนใจของนักเรียน
นอกจากนีแล้วยังอาจหาได้จากการตรวจสอบตรวจตราดูในหนังสือที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา หรือคู่มือปฏิบัติการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่าตัวแปรตามกิจกรรมในหนังสือ คู่มือที่นักเรียนอาจได้รับคำถามที่ดี เพื่อการศึกษาเรียนรู้ต่อไป
การช่วยเหลือนักเรียนโดยการแยกแยะหัวข้อ เรื่องที่สนใจ ที่จะให้เริ่มต้นคำถามพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้ถามนักเรียนเพื่อให้เป็นงานอดิเรกนอกเวลา ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการตอบคำถาม บทความวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นักเรียนอ่าน สร้างความสนใจที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มีส่วนช่วยในการหาหัวข้อในการศึกษา
แนวทางการช่วยนักเรียนอีกแบบ โดยการพิจารณาการทดลองของนักเรียนที่ผ่านมา จัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ที่สามารถหาได้รวมทั้งคำแนะนำจากโครงการ การแข่งขันทำงานตามโครงงานทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา นักเรียนอื่นอาจได้แรงบันดาลใจจากหนังสือต่างๆ เช่นไขความลับทางวิทยาศาสตร์ การสาธิตการศึกษาตัวแปรที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ ก็อาจมีส่วนปลุกเร้าความสนใจของนักเรียน
นอกจากนีแล้วยังอาจหาได้จากการตรวจสอบตรวจตราดูในหนังสือที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา หรือคู่มือปฏิบัติการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่าตัวแปรตามกิจกรรมในหนังสือ คู่มือที่นักเรียนอาจได้รับคำถามที่ดี เพื่อการศึกษาเรียนรู้ต่อไป
ระบบนิเวศ
การอยู่ร่วมกันของพืชและสัตว์ ในบริเวณที่กำหนด รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางกายภาพโดยรอบ ที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาระบบนิเวศก็คือนิเวศวิทยา (ecology)
วิวัฒนาการของชีวิต
ชีวิตบนโลกพัฒนาผ่านกระบวนการวิวัฒนาการ การกล่าวเช่นนี้รวมทุกอย่างตั้งแต่แบคทีเรียไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ และสัตว์ใหญ่เช่น ช้าง จิราฟ มโนทัศน์การวิวัฒนาการของชีวิตได้ให้พื้นฐานที่เป็นกรอบแนวคิดหลัก ที่วิทยาศาสตร์ของชีวิตใช้ในการจัดโครงสร้าง เพราะในทุกสาขามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกัน ทัศนะการวิวัฒนาการของชีวิต เป็นไปได้ว่าการที่มีบางคนศึกษาระบบนิเวศของทะเลสาปขนาดใหญ่ อาจจะใช้หลักการเดียวกับผู้ที่ร่วมงานที่ศึกษาชุดของโมเลกุล ระหว่างส่วนของ DNA แม้ว่าการมองในครั้งแรกอาจจะมองว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องร่วมกันเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจวิทยาศาสตร์ของชีวิตสมัยใหม่โดยปราศจากความเข้าใจเรื่องวิวัฒนาการ
แหล่งท่องเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราช
ศูนย์รวมที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดคือวัดพระมหาธาตุ ความจริงอาจจะไม่เชิงมาเที่ยวอย่างเดียว แต่มาเพื่อได้นมัสการตัวแทนแห่งความเชื่อทางพุทธศาสนาด้วย ที่วัดพระมหาธาตุเป็นศูนย์รวมทางพุทธศาสนา นับ 1000 ปี อันเป็นที่นับถือปูชาของคนในภูมิภาคนี้ และประเทศใกล้เคียง ขณะนี้กำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของเมืองนคร
ชมปลาโลมาสีชมพูที่อำเภอขนอม และหญ้าทะเลมากกว่า 80 ไร่
ชมป่าประที่ท่าศาลา สิชลขนอม มากกว่า 8000 ไร อาณาบริเวณกว้างที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชมบ้านนก คอนโดนกแอนที่อำเภอปากพนัง หัวไทร
เกาะกระ นอกชายฝั่งอ่าวนคร มีปะการังที่สวยและดีที่สุด
น้ำตกเมืองนคร น้ำตกพรหมโลก น้ำตกกรุงชิง น้ำตกอ้ายเขียว นำตกกระโรม
อำเภอลานสกาก็เป็นอีกที่ ดินแดนยอดภูเขาสูงที่สุดของเทือกเขาหลวง มีแหล่งไม้ผลัดใบสวยงามเหมือนฤดูใบไม้ร่วง คล้ายในเขตอบอุ่น มีอากาศดีที่สุดของประเทศ มีต้นมังคุดอายุมากที่สุด 200 ปี ขนาดสองคนโอป ผลใหญ่ มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในหกแห่งของเมืองนคร มีวังโบราณอันเป็นที่ประทับของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช
เทือกเขาหลวงในนครศรีธรรมราชมีป่าเฟิร์นอายุ 200 ล้านปี มีพันธ์กล้วยไม้มากกว่า 200 ชนิดในทุกสกุล อากาศที่ว่าดีที่สุดเคยวัดได้ที่ตำบลคีรีวงค์ดีกว่ามาตรฐาน 100 ไมครอนต่อลบ.เมตร ถึงร้อยเท่า คือวัดผงฝั่นได้เพียง 0.03 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งปนเปื้อนน้อยมาก
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของเมืองนคร
ชมปลาโลมาสีชมพูที่อำเภอขนอม และหญ้าทะเลมากกว่า 80 ไร่
ชมป่าประที่ท่าศาลา สิชลขนอม มากกว่า 8000 ไร อาณาบริเวณกว้างที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชมบ้านนก คอนโดนกแอนที่อำเภอปากพนัง หัวไทร
เกาะกระ นอกชายฝั่งอ่าวนคร มีปะการังที่สวยและดีที่สุด
น้ำตกเมืองนคร น้ำตกพรหมโลก น้ำตกกรุงชิง น้ำตกอ้ายเขียว นำตกกระโรม
อำเภอลานสกาก็เป็นอีกที่ ดินแดนยอดภูเขาสูงที่สุดของเทือกเขาหลวง มีแหล่งไม้ผลัดใบสวยงามเหมือนฤดูใบไม้ร่วง คล้ายในเขตอบอุ่น มีอากาศดีที่สุดของประเทศ มีต้นมังคุดอายุมากที่สุด 200 ปี ขนาดสองคนโอป ผลใหญ่ มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในหกแห่งของเมืองนคร มีวังโบราณอันเป็นที่ประทับของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช
เทือกเขาหลวงในนครศรีธรรมราชมีป่าเฟิร์นอายุ 200 ล้านปี มีพันธ์กล้วยไม้มากกว่า 200 ชนิดในทุกสกุล อากาศที่ว่าดีที่สุดเคยวัดได้ที่ตำบลคีรีวงค์ดีกว่ามาตรฐาน 100 ไมครอนต่อลบ.เมตร ถึงร้อยเท่า คือวัดผงฝั่นได้เพียง 0.03 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งปนเปื้อนน้อยมาก
แนวคิดกระดาษแปะ (Postit)
ก่อนที่จะผลิตสินค้าชนิดดังกล่าวออกมาขาย นั้นผู้คิดในครั้งแรกได้แนวคิดมาจากธรรมชาติ ที่พบว่ามีเมล็ดพืชบางชนิด ที่ปลิวไปลอยติดตามเสื้อผ้าได้ แล้วเอาออกยาก เช่นเมล็ดพืชที่มีหนามอยู่โดยรอบ ซึ่งเป็นพวกที่ติดแล้วเอาออกยาก เป็นแนวคิดที่บริษัท 3M นำไปทำผนึกเทปยึดต่าง รวมทั้งกระดาษ โพสอิท (Post it)
กำเนิดโลก
โลกของเราก่อตัวขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์ควบแน่นจากหมอกแกสระหว่างดาว จะมีสารหลงเหลืออยู่จำนวนไม่มากที่เคลื่อนที่หมุนรอบเป็นวงรูปทรงภายนอกเป็นรูปทรงจาน (disk) อันเป็นส่วนแกนหลัก ทฤษฎีที่เรายอมรับกันในปัจจุบันคือภายในจาน แรงโน้มถ่วงช่วยให้สารต่างๆอันเป็นองค์ประกอบยึดโยงเข้าด้วยกันกลายเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์เรียกกันว่า ดาวเคราะห์เริ่มก่อตัว(planetsimals) ประกอบด้วยหิน และของเหลวที่แข็งตัว จากขนาดไม่กี่ฟุตไปจนถึงเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตร ดาวเคราะห์เริ่มก่อตัวเหล่านี้เริ่มที่จะคงอยู่ด้วยกัน ก่อตัวเป็นดาวเคราะห์รวมทั้งโลกของเรา
Online Learning กับ Distance Learning
ไม่ว่าจะเป็น online learning หรือ distance learning ต่างก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้แบบ e-Learning และเมื่อพูดถึง e-Learning ไม่เพียงแต่จะการนำเครื่องมือทางอิเลคทรอนิกส์มาช่วยในการเรียนรู้เท่านั้น ซึ่งต่อมาพบว่าคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับช่วยในการเรียนรู้ และเมื่อให้คอมพิวเตอร์สื่อสารติดต่อกันได้ เป็นคอมพิวเตอร์โลกดังที่เรียกกันว่าเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และเมื่อพัฒนาเทคโนโลยี world wide web ขึ้นมาที่นำเอา hypertext และมัลติมีเดียมานำเสนอผ่านทางเบล้าเซอร์ ทำให้ใช้เป็นตัวกลางในการเรียนรู้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถใช้ได้ทุกที่และทุกเวลาที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้
ทำให้ในปัจจุบันเรายอมรับกันแล้วว่า การใช้อีเลินนิ่งทางอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเหมือนกับการเรียนรู้แบบฉบับทั่วไป (formal learning) อินเตอร์เน็ตทำให้รูปแบบการเรียนรู้แบบ e-Learning เป็นทั้ง online learning และ distance learning จึงแทบไม่มีความแตกต่างกัน ในการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้เข้ามาเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่เรียนรู้ในสถานที่ต่างๆผ่านระบบเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่มีอยู่ในรูปของเอกสารแบบอิเลคทรอนิกส์ ผ่านทางระบบอีเลินนิ่ง ที่มีระบบจัดการเรียนรู้ (LMS : Learning Management System) ผู้เรียนสามารถอ่านหนังสือและกิจกรรมต่างๆผ่านระบบ e-Learning หรืออ่านหนังสือผ่านระบบ e-Lybrary ที่ให้บริการเอกสาร หนังสือ วารสาร ในลักษระ e-Book หรือ e-Journal
ทำให้ในปัจจุบันเรายอมรับกันแล้วว่า การใช้อีเลินนิ่งทางอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเหมือนกับการเรียนรู้แบบฉบับทั่วไป (formal learning) อินเตอร์เน็ตทำให้รูปแบบการเรียนรู้แบบ e-Learning เป็นทั้ง online learning และ distance learning จึงแทบไม่มีความแตกต่างกัน ในการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้เข้ามาเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่เรียนรู้ในสถานที่ต่างๆผ่านระบบเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่มีอยู่ในรูปของเอกสารแบบอิเลคทรอนิกส์ ผ่านทางระบบอีเลินนิ่ง ที่มีระบบจัดการเรียนรู้ (LMS : Learning Management System) ผู้เรียนสามารถอ่านหนังสือและกิจกรรมต่างๆผ่านระบบ e-Learning หรืออ่านหนังสือผ่านระบบ e-Lybrary ที่ให้บริการเอกสาร หนังสือ วารสาร ในลักษระ e-Book หรือ e-Journal
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)