หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ความฟิตเป็นอย่างไร

ในความหมายทั่วไปที่สุดความฟิต (fittness) เป็นความสามารถของร่างกายที่มีอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม และความกดดันที่มีต่อสภาพจิต และร่างกายทางกายภาพ

ตามความเข้าใจใน ปัจจุบัน ในความหมายที่มีประโยชน์กว่าคือ ความสามารถทางร่างกายภาพที่่สามารถวัดทดสอบได้ ถึงความแข็งแรง ความเร็ว ความคงทน

สุขภาพกับความฟิตไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกัน นักกีฬาที่เก่งก็อาจเจ็บป่วยได้ หากได้รับเชื้อโรค ในทางที่กลับกันคนที่ตรวจแล้วพบว่าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร สภาพร่างกายอาจไม่ฟิต แต่ก็ไม่มีเชื้อโรคอะไร

เมื่อก่อนถ้า อยากดูว่าร่างกายใครฟิตหรือไม่ฟิตก็อาจดูจากอิริยบทจากการทำงาน การเดินเหิน กระฉับกระเฉงหนือไม่ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวบอกความสามารถของร่างกายได้ระดับหนึ่ง ในสังคมปัจจุบัน อิริยบทการเดิน การทำงาน ยกของมีน้อยลงทำให้มีการวัดจากการออกกำลังกายที่มีการวางแผน ไม่ได้มาจากการทำงาน เหมือนกับชาวสวน ชาวไร่ ที่ทำนาทำไร่ กรรมกร

องค์ประกอบพื้นฐานของความฟิตสามารถจะดูได้จากความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายมีความสามารถในการทำงานโดยทั่วไป ตามปกติร่างกายสามารถหาพลังงาน และออกซิเจนที่ร่างกายต้องการในการดำเนินกิจกรรมทางกายภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหัวใจ และระบบการหายใจที่เรียกว่าความฟิต CR กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนของกล้ามเนื้อในร่างกายที่ขยายออกไป เช่นการเดินเร็ว การวิ่ง การจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ซึ่งขีดจำกัดของความคงทน CR หาได้จากการหายใจ และการเต้นของหัวใจ

ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับแรงสูงสุดที่กลุ่มกล้ามเนื้อสามารถให้ได้ในท่าหนึ่งมี 2 ชนิดคือ
     1. ความแข็งแรง Isometric เป็นแรงที่ให้กับแรงต้านที่คงที่
     2. ความแข็งแรง Isotonic เป็นแรงที่ให้ตลอดช่วงการเคลื่อนไหวที่ยอมให้ได้ของกล้ามเนื้อหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อ

ความคงทนของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับความสามารถของกลุ่มกล้ามเนื้อเฉพาะที่ให้ทำหน้าที่อย่างหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความคงทนจึงมีทั้งแบบ Isometric และ Isotonic 
      ความคงทนแบบ Isometric เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะคงแรงไว้เท่าที่จะเป็นไปได้ ต้านทานต่อความต้านทานคงที่ หรือตำแหน่งที่คงที่ เช่นการใช้แขนยกดัมเบลต่อเนื่องช่วงเวลาหนึ่ง
      ความคงทนแบบ Isotonic เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวซ้ำๆ ทำซ้ำ ต่อแรงต้านได้หลายครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้ 
     ทั้งสองกรณีดังกล่าวหาขีดจำกัดได้ จากกลุ่มกล้ามเนื้อที่จะไม่สามารถกระทำต่อไป
องค์ประกอบของความฟิต ท่ี่มีการกำหนดไว้คือ

ความยืดหยุ่นของข้อต่อ
เกี่ยวข้องกับช่วงที่ข้อต่อเคลื่อนที่ จะขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อที่อยู่ใกล้มากกว่า โครงสร้างข้อต่อตัวเอง

ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความคงทนของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของข้อต่อ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน เช่นกล่าวว่า ความสามารถของกล้ามเนื้อสูงสุด 200 lb. โดยตลอดช่วงเคลื่อนไหวทั้งหมดสามารถจะเคลื่อนได 50lb. ตลอดช่วงได้นานกาว่การเคลื่อนที่ 80 lb.
ความสามารถในการเคลื่อนไหวความสามารถทางกายของแต่ละคนจำกัดอยู่ไม่เพียงแต่จากความฟิตของร่างกาย แต่ยังมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่นการประสานงาน สมดุล การรบกวน การตอบสนอง อัตราเร็ว เวลาที่ใช้เคลื่อนไหว กำลังงานเช่นอัตราเร็วในเคลื่อนที่ส่วนของร่างกาย

องค์ประกอบที่มีผลต่อความฟิต1 อายุ ต้องยอมรับว่าร่างกายเสื่อสภาพลงตามวัย แต่ละคนอาจจะเร็วช้าไม่เท่ากัน
2 เพศ ความแข็งแรงของเพศชาย มีมากกว่าดูจากสถิติการแข็งขันผู้หญิงตามหลังผู้ชายเสมอ
3 รูปร่างบุคคล สมส่วน หรือไม่ ดูได้จากรูปร่างนักกีฬาจะต่างกับคนทั่วไป

โดยสรุป
การ สร้างความฟิตของร่างกายในสังคมปัจจุบันทำให้ต้องมีการออกกำลังกายเพิ่มเติม ที่เป็นการวางแผนเพื่อ ให้ร่างกายสามารถรับออกซิเจนและพลังงานที่จำเป็นเพื่อดำเนินกิจกรรมทั่วไป ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Cadio-Vascular และระบบหายใจ เรียกรวมๆ ว่า Circulo Respiratory Fitness (CRF)
CRF อ้างถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัดส่วนที่เหมาะสมของกล้ามเนื้อ ในช่วงเวลาหนึ่ง เป็นการเดินเร็วๆ วิ่งจ๊อกกิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับ แรงสูงสุดที่กลุ่มของกล้ามเนื้อสามารถทำได้มี 2 ชนิดคือ

1. Isometric strength ให้แรงต้านกับความต้านทานคงที่
2. Isotonic strength ให้แรงต่อเนื่องตลอดเวลา ช่วงการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ของกลุ่มกล้ามเนื้อหนึ่งที่มีผลต่อข้อต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น