ได้มีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์ ในการทำแผนการจัดการความรู้ในส่วนของการทำระบบและกลไกในการจัดการความรู้ เมื่อดูหลักการต่างๆ ที่กำหนดให้ทำนั้นเพราะมีคะแนนมีเครดิตให้ตามการประเมินของสมศ. สกอ. และกพร. อยู่บนพื้นฐานความเชื่อว่าองค์กรทั้งหลายนั้นที่ยังคงดำเนินการต่อไปได้นั้นก็เพราะความรู้ทั้งนั้น แต่จะไปได้ดีแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับความรู้ที่มีนั้นเป็นความรู้จริงใช้ประโยชน์ได้จริงแค่ไหน หรือมีความรู้ในตัวตนแค่ไหน ดังนั้นองค์กรใดที่มีการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบก็น่าจะก่อให้องค์กรนั้นพัฒนา ดังนั้นจึงต้องมีการบังคับว่าสถาบันต่างๆ ต้องทำการจัดการความรู้โดยกำหนดตัวชี้วัดต่างๆไว้แม้แต่กลไกการจัดการความรู้ก็เป็นตัวชีวัดหนึ่ง
การจัดการความรู้ที่เป็นระบบซึ่งพยายามที่จะให้ครอบคลุมให้หมดทุกอย่าง จึงให้มีการพิจารณากันตั้งแต่ว่าตามแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย ในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์นั้นต้องใช้ความรู้อะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะกว้างๆมาก ซึ่งแน่นอนว่าต่อมาเมื่อลงรายละเอียดไปเรื่อยๆ ก็จะถึงขั้นจัดการสมรรถนะ ที่จะต้องมีการฝึกบุคลากรให้มีความสามารถที่เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ ฝึกให้บุคลากรมีความสามารถหลักที่เรียกกันว่า Personal Mastery โดยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ใช้หลักการการเป็นองค์กรเรียนรู้ และการจัดการความรู้อีก
ในเมืออย่างไรก็หลีกเลี่ยงการจัดการเรียนรู้ไม่ได้ เพราะการจัดการความรู้ ในทางการศึกษา ทางการเรียนการสอนก็เป็นการจัดการความรู้ที่เก่าแก่ที่สุด การจัดการความรู้ปัจจุบันจึงมาเน้นให้ความสำคัญที่ให้มีความเป็นระบบมากขึ้น สำหรับการจัดการความรู้เพื่อให้ได้เป้าหมายก็มีการเสนอไว้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็พอสรุปได้ในขั้นต้นก็คือ การจัดหาความรู้ที่รวมไปถึงการรวมรวมความรู้ที่เกี่ยวข้องและการสร้างความรู้ มีการประมวลโดยการเลือกจากการสังเคราะห์วิเคราะห์และมีจัดเก็บเป็นคลังความรู้และการสืบค้น เพื่อที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มีการแพร่กระจายการถ่อยทอดความรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น