ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผลผลิตยางส่งออกมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ขณะที่ราคายางพาราสูงเป็นประวัติการอย่างไม่เคยมีมาก่อน เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ประเทศไทยเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้น สาเหตุที่ทำให้มีความต้องการยางมากขึ้นเพราะการเติมโตทางเศรษฐกิจในจีนที่สูงต่อเนื่องแม้น้ำมันจะราคาลดลงก็ตาม และหากราคาน้ำมันแพงขึ้นก็จะยิ่งใช้ยางพารามากขึ้นอีก
จากปรากฏการณ์ยางราคาแพง ทำให้ยางมีราคาเป็นเงินเป็นทอง การได้กรีดยางเมื่อไรก็เป็นเงินเท่านั้นทั้งเจ้าของและผู้ที่รับจ้างตัด ตอนราคายางไม่แพงมากนักเจ้าของสวนเคยแบ่งกับคนรับจ้างตัดยางแบ่งครึ่งกัน หรือไม่ก็ 60:40 และช่วงหลังเมื่อราคาดีขึ้นเจ้าของสวนหลายที่ก็เริ่มขยับเป็น 70:30 ก็ยังคงมีคนรับจ้างตัดถ้าคิดให้ดีแล้วการรับจ้างตัดยางมีรายได้ไม่เลวเลย ไม่ต้องลงทุนไม่ต้องซื้อปุ๋ยไม่ต้องมีที่ดินแต่มีรายได้ดีมากในระยะนี้ ถ้าคิดถึงต้นทุนด้วยแล้วคนรับจ้างตัดยางเป็นไปได้ว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีกว่าเจ้าของสวนเสียอีก
จากที่ยางราคาดีนี่เองจึงเกิดเทคโนเพื่อให้ได้ผลผลิตเป็นน้ำยางที่มากขึ้นกว่าเดิม เช่นมีคนเล่าว่าเหมือนกับใช้ฮอร์โมนไปเร่งให้ได้น้ำยางมากขึ้น ซึ่งก็มีบริษัทรับจ้างทำโดยเสียค่าใช้จ่ายต้นละไม่เกิน60บาทแต่ได้ผลผลิตมากกว่าเดิม 2-3 เท่าก็นับว่าคุ้มค่าในการลงทุน หลายคนสงสัยว่าต้นยางจะโทรมเร็วทำให้ตายหรือหมดอายุเร็วเรื่องนี้ได้รับคำอธิบายว่าไม่ควรทำกับต้นยางที่อายุไม่มาก แต่ทำกับต้นยางที่อายุเกิน10ปีขึ้นไปหรือต้นที่เกือบหมดอายุแล้วก็ยังทำให้ได้ผลผลิตน้ำยางมากขึ้น ดีกว่าขุดขายเนื้อไม้อย่างเดียว
ขณะนี้เจอปัญหาว่าฝนตกไม่หยุด ทำให้ชาวสวนยางตัดยางไม่ได้ก็ส่งผลให้ขาดรายได้มหาศาล ยังไม่มีใครสามารถคิดเทคโนโลยีที่สามารถให้ตัดยางในหน้าฝนหรือขณะที่ฝนตกได้ น่าจะมีฮอร์โมนที่ทำให้ตัดยางได้ จากสาเหตุที่เมื่อฝนตกแล้วเกิดความชื้นเมื่อกรีดยางน้ำยางที่กรีดจะถูกชะล้างไปทำให้หน้ายางตายไม่สามารถกรีดแล้วให้น้ำยางได้อีก ต้องไปกรีดหน้ายางไหม่ หากใครทดลองวิจัยแล้วทำให้กรีดยางได้แม้ฝนตกละก็จะก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาล มีคนเสนอว่าน่าจะนำปลาสติกคลุมแล้วใช้เครื่องทำไอร้อนเป่าไม่ให้มีความชื้ออาจจะช่วยให้กรีดยางได้อีก แต่จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้ที่กรีดยางขณะฝนตกแล้วไม่ทำให้หน้ายางที่กรีดเสียไป ถ้าแกัปัญหานี้ได้ให้ตัดยางได้จำนวนวันที่เพิ่มขึ้นเมื่อไรเมื่อนั้นยางพาราก็จะเป็นยางเงินยางทองอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น