หน้าเว็บ

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ปัจจัยผลกระทบของการแตกความสามัคคี

ข้อคิดดีๆ จากท่าน ว.วชิระเมธี ซึ่งเช้านี้มีข้อความเขียนแสดงให้เห็นและพิธีกรอ่านให้ฟัง ซึ่งมีใจความว่า "หากคนในประเทศแตกความสามัคคี ไม่มีใครมาตีหรือเพื่อนไม่มาตีก็แตกอยู่แล้ว" ซึ่งเหมาะกับสถานะการณ์ขณะนี้ ที่คนไทยแตกความสามัคคี ที่มีการเรียกร้องต่างๆ โดยการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ซึ่งพบว่าก่อให้เกิดความขัดแย้งในชาติ ทำให้รู้สึกว่าเกิดความแตกความสามัคคีเหมือนกับที่ท่าน ว.วชิระเมธีได้ให้ข้อคิดไว้ หากว่ามีกลุ่มใดที่มาชุมนุมแล้วเราเห็นว่าก่อให้เกิดความรักความสามัคคีของ คนในชาติก็น่าจะให้ความสนับสนุนกันให้มากๆ เพราะถ้าคนในชาติไม่รู้รักสามัคคึกันแล้ว จะให้ใครที่ไหนมารักเรา
และในรายการของดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองได้มาออกรายการทีวีรายการหนึ่งก็พูดไว้น่าคิดเหมือนกัน คือท่านได้พูดว่าในประเทศเรามีทีวีดาวเทียมเอกชนไม่ว่าฝ่ายไหน ที่กระจายเสียงอยู่ทั่วประเทศครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ แทนที่จะนำมาเผยแพร่สิ่งดีๆ สร้างความสามัคคีในชาติ และประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศได้รู้จักประเทศไทย กลับมีรายการโจมตีแต่รัฐบาลเป็นหลัก และจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม กลับสร้างความขัดแย้งให้เกิดชึ้นมากขึ้น ก็เหหมือนกับที่ท่าน ว.วชิระเมธีกล่าวไว้ มีส่วนสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในชาติใครไม่มาตีเราก็แตกเอง

และอีกรายการหนึ่งที่ดร.วิษนุ เครืองามมาออกรายโทรทัศน์รายการหนึ่ง ที่ได้เล่าให้ฟังตอนที่อยู่ในประเทศอินเดียว่า ในอินเดียก็มีการประท้วงโน่นนี่กันมากมายเหมือนกัน และคนอินเดียก็คงรู้ข่าวความไม่สงบต่างๆ จากเมืองไทยเหมือนกัน ก็มาถามดร.วิษนุว่าแล้วตอนนี้เมืองไทยสงบแล้วยัง เขาก็พูดต่อว่า ถ้าสงบแล้วก็จะได้มาเที่ยวประเทศไทย ความไม่สงบทั้งหลายที่เผยแพร่ไปต่างประเทศนั้นมีผลกระทบอย่างน้อยที่สุดก็ ด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจการลงทุนต่างๆ เพราะไม่มีใครที่จะมาลงทุนในประเทศที่มีแต่ความวุ่นวายทั้งหลาย การได้เผยแพร่ข่าวสารที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความสงบ ความสวยงามอุดมสมบูรณ์จึงน่าจะดึงดูดให้คนมาเที่ยวมาลงทุนมากว่า ซึ่งส่งผลดีกับประเทศโดยรวม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น