การละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเกิดขึ้นได้เสมอหากเราคัดลอกต้นฉบับเขาโดยไม่อ้างอิงเหมือนก้ันทุกตัวอักษรแม้เพียงบรรทัดเดียวก็ตาม วิธีการที่ไม่ให้ละเมิดได้ก็คือต้องจัดเรียงประโยคเสียใหม่ไม่ให้เหมือนกัน และที่ทำได้ดีก็คือนั่งเขียนโดยไม่ต้องดูต้นฉบับเลย การทำได้แบบนี้ต้องมีความเข้าใจในเรื่องที่เขียน และเขียนจากความเข้าใจของตนเอง โดยวิธีนี้ก็จะละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นได้ยาก
ส่วนการละเมิดสิทธิบัตรในวงการธุรกิจ จะยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ ว่าบริษัทแอปเปิลได้ไปจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการเลื่อนซอพท์สวิตช์ที่หน้าจอสัมผัสขอไอโฟนหรือไอแพด ใช้สำหรับปลดล็อกเพื่อการใช้งาน เพื่อเริ่มต้นเข้าทำงาน หรือหลังจากหยุดใช้งานเป็นระยะหนึ่งก็จะเข้าสู่โหมดล็อกนี้ต้องปลดล็อกสวิตช์นี้ก่อนจึงใช้งานได้ ก็แล้วแต่จะเห็นว่าเป็นปุ่มใช้มือเลื่อนปุ่มจากซ้ายไปขวา บริษัทHTC ก็ใช้ปุ่มเลื่อนบนจอสัมผัสเช่นเดียวกันแต่มีความแตกต่างกัน คือของ HTC จะเป็นการเลื่อนไม่เป็นแนวตรง แต่จะเลื่อนเป็นแนวโค้ง นอกจากนี้ในการเลื่อนครั้งหนึ่ง ก็จะเป็นสวิตช์เปิดอื่นๆ เช่นเสียง และคิดว่า HTC ก็คงไปจดสิทธิบัตรไว้เช่นเดียวกัน
ดูความคิดในการจดสิทธิบัตรแล้ว หากมีผู้ทำเลียนแบบตามที่จดไว้เป็นรายแรกก็ถือว่าเป็นการละเมิดแน่นอน หากถูกฟ้องร้องแล้วก็ถูกชดใช้แน่นอน สำหรับคนทั่วไปไม่ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือเจ้าของบริษัทผลิตสินค้าก็ไม่ต้องไปห่วงเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรมากนัก เราทำเลียนแบบขึ้นชิ้นสองชิ้นไม่ได้เอาไปขายที่ไหนก็คงไม่มีใครมาฟ้อง แต่เมื่อไรที่เราผลิตขึ้นจำหน่ายแข่งขันกับเจ้าของสิทธิบัตรเมื่อไรเมื่อนั้นโดนฟ้องแน่นอน ดังนั้นผู้ที่ทำปลอมขึ้นมาแต่ทำได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับ และไม่ค่อยเปิดเผยชื่อผู้ผลิตด้วยแล้ว ไม่รู้จะไปฟ้องใครที่ไหน และอีกอย่างก็ขายแข่งสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถือว่าผิดกฏหมายหากมีคนแจ้งเบาะแสว่าทำเลียนแบบตำรวจอาจไปจับ ได้รับลงโทษตามกฏหมาย ที่จะโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายมากๆ คงไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น