จากวิกฤติน้ำท่วมเมืองนครศรีธรรมราชที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขมาช้านาน และมีการสร้างปัญหาใหม่ซ้อนทับลงไปอีกมากมาย เป็นต้นว่าเราถมแหล่งกักเก็บน้ำเช่นที่สพานยาว กลายเป็นตึกแถวเชิงพานิชญ์และบ้านพักอาศัย เราถมคูคลองไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ดังที่เราจะเห็นสภาพที่หัวอิฐสร้างสพานข้ามพื้นดินไม่ใช่คลองเพราะถมกันหมดแล้ว และที่เห็นตำตากันอยู่ทั่วไปคือการสร้างบ้านเรือน แล้วถมทางระบายน้ำก็ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบางจุด ด้วยเป็นเพราะเราไม่มีความหรือส่วนหนึ่งหรือละเลยคิดว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่คราวนี้คงจะต้องทำให้เรามาทบทวนกัน ปัญหาบางครั้งก็ไม่เชิงว่าน้ำท่วมเพราะบริเวณอื่นไม่ได้ท่วม แต่ท่วมอยู่บริเวณนั้นโดยตลอดทั้งๆ ที่เห็นปัญหาเกิดขึ้นทุกปีหรือทุกครั้งที่ฝนตกหนัก แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขก็ทนอยู่กันไป ก็อยากเห็นอยากให้เกิดขึ้นว่าในแต่ละท้องที่มีการแก้ปัญหาทั้งในภาพร่วมและในส่วนที่แยกย่อย ซึ่งจะต้องแก้ปัญหาไปอย่างมีความเกียวข้องกัน และที่สำคัญคือทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือ
ในเมื่อมีการถมคูคลองไปมากแล้วการระบายน้ำก็ทำลำบาก หากมีคลองที่ใดอยุ่ต้องมีการขุดลองให้ไหลได้สะดวก และมีการวางท่อระบายน้ำเสริมตามแนวคลองที่เคยถมกันจำนวนมาก การปลูกต้นไม้ก็ย้งจำเป็นเพราะจะจับยึดดินไว้ได้ส่วนหนึ่งไม่พังทะลายได้ง่าย ทั้งยังสามารถลดการไหลของน้ำไม่ให้แรงเกินไป อะไรที่ขวางทางการไหลของน้ำก็ต้องรีบแก้ปัญหา ปัญหาน้ำท่วมขังแม้ฝนตกไม่มากก็จะเกิดหากมีสิ่งก่อสร้างไปขวางทางน้ำไหล เพราะก่อนที่จะมีสิ่งก่อสร้างมาปิดกั้นนั้นไม่ได้มีน้ำท่วมขัง ทำให้คิดได้ว่าก่อนสร้างอะไรคงไม่ได้ศึกษาถึงผลกระทบเสียก่อนเป็นแน่แท้เรื่องเหล่านี้จะโทษใครก็ลำบากในเมื่องไม่มีใครทักท้วง ก่อนที่จะมีการก่อสร้างก็รับผลกรรมที่เกิดขึ้นกันไป
เช่นเดียวกันในตัวเมืองนครหลายซอยหรือถนนย่อยที่ไปออกถนนพัฒนาการคูขวาง รวมทั้งถนนหน้าตลาดสดเทศบาลเป็นบริเวณที่ต่ำ มีถนนเพียงสายเดียวที่น้ำไม่ท่วมเข้าใจว่าเป็นถนนที่สร้างหลังสุดคือถนน เอกนคร ส่วนถนนอื่นๆ ที่มีมาก่อนแล้วน้ำท่วมกันทุกปีก็ไม่ได้รับการแก้ไข จะว่าเราจนปัญญาก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีความรู้ก็ไม่ใช่ แต่ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ใดกันแน่ ถ้าไม่คิดอะไรมากตรงไหนที่มันต่ำจากถนนใหญ่มากก็ทำให้สูงขึ้น แต่ก็อย่าลืมวางทอ่ระบายน้ำออกไปเสียด้วยคงจะแก้ปัญหาจากหนักให้เป็นเบาได้ เมื่อก่อนถนนพัฒนาคูขวางเริ่มแรกเดิมทีก็เป็นผีมือของชาวนครที่ลงมือลงแรงเอาจอบเอาเสียมไปขุดสร้างถนนนี้ในตอนแรกก่อนที่จะมีเครืองจักรกลมาช่วยผ่อนแรง ตอนนี้อาจถึงเวลาที่ชาวนครอาจจะต้องอาสากันมาพัฒนาในการแก้ไข และป้องกันน้ำท่วมกันอย่างน้อยปีละครั้งก็ยังดีโดยยึดหลักว่าป้องกันดีกว่าแก้ไข
สำหรับการแก้ปัญหาโดยภาพรวมไม่ให้น้ำท่วมตัวเมืองนครนั้น เคยมีการเสนอให้สร้างคลองผันน้ำเปลี่ยนเส้นทางน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช ให้ไปผ่านเสียนอกเมือง การทำคลองผันน้ำลักษณะนี้จะต้องใช้งบประมาณสูง ต้องมีการออกแบบและอาจจะต้องถึงขั้นการเวณคืนที่ดิน และหากได้รับความร่วมมือก็จะเป็นกุศลแก่คนเมืองนครที่ไม่ต้องทนทุกข์เนื่องจากน้ำท่วมทุกปี คนที่มีฐานะดีคงไม่เดือดร้อนมากเท่ากับคนยากคนจนที่ไม่มีที่ไป ก็ขอให้เกิดโครงการนี้เร็วๆ ก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น