ปรากฏการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 มีนาคมกล่าวกันว่าเป็นวันที่ดวงจันทร์และโลกเคลื่อนเข้ามาใกล้กันมากที่สุด ในรอบ 19 ปี ตามหลักวิทยาศาสตร์เมื่อเคลื่อนที่มาใกล้กัน คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์โตกว่าปกติ และสว่างมากกว่าปกติ และแน่นอนว่าแรงดึงดูดระกว่างโลกและดวงจันทร์ก์เพิ่มมากขึ้น ความเข้มแสงที่เพิ่มขึ้น และแรงดึงดูดที่เพิ่มขึ้นนั้น สามารถจะคำนวนได้ตามสมการของนิวตันที่คิดขึ้นมาเกือบสามร้อยปีแล้ว แดงดึงดูดและความเข้มแสงที่เราวัดได้จะขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างโลกและดวง จันทร์ ยิ่งระยะห่างน้อยลงความเข้มแสงและแรงดึงดูดก็จะยิ่งมากขึ้น
ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีผู้เรียกว่าเป็นปรากฏการ Super Moon และมีผู้ทำนายว่าจะเกิดเหตุร้ายเป็นภัยพิบัติ ซึ่งก็เป็นการคาดการณ์ที่มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะการการเกิดแรงดึงดูดระหว่างกันมาก โอกาสที่จะเกิดการเคลื่อนไหวที่เปลือกโลกเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การพายุคลื่นลมแรงก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามใช่ว่าเหตุร้ายแรงที่สุดจะมาเกิดเอาในวันซุปเปอร์มูน โอกาสที่จะเกิดก่อนหรือหลังวันนั้นก็เป็นไปได้ดังที่เกิดแผ่นดินไหวและคลื่น ยักษ์ซึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม จังหวัดเซ็นไดประเทศญี่ปุ่น แต่จะสรุปว่าเป็นผลมาจากซุปเปอร์มูนอย่างเดียวก็คงไม่ได้ คงจะมีหลายๆอย่างผนวกกันพอทีจึงเกิดขึ้น
ในวันพระจันทร์เต็มดวงแม้ว่าไม่เกิดภัยพิบัติใดๆ ก็ยังมีบันทึกหลักฐานว่าเป็นวันที่เกิดอุบัติเหตุต่างๆ มากกว่าวันอื่นๆ แสดงว่ามีผลต่อจิตใจความคิดของคน มีในบางประเทศและบางเมืองที่ทางโรงพยาบาลต้องเตรียมรับมือที่เตรียมการฉุก เฉินไว้ล่วงหน้าในวันพระจันทร์เต็มดวง ก็เป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์กันไม่ได้ว่าเพราะอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามก็มีทฤษฎีที่พยายามอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นทฤษฎีไร้ระเบียบดังในปรากฏการณ์ที่เรียกว่าผีเสื้อขยับปีก (Butterfly effect) ที่มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผลการเปลี่ยนแปลงที่หนึ่งแม้ว่าไม่มากก็อาจส่งผลใหญ่หลวงในอีกที่หนึ่งก็ เป็นได้
ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีผู้เรียกว่าเป็นปรากฏการ Super Moon และมีผู้ทำนายว่าจะเกิดเหตุร้ายเป็นภัยพิบัติ ซึ่งก็เป็นการคาดการณ์ที่มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะการการเกิดแรงดึงดูดระหว่างกันมาก โอกาสที่จะเกิดการเคลื่อนไหวที่เปลือกโลกเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด การพายุคลื่นลมแรงก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามใช่ว่าเหตุร้ายแรงที่สุดจะมาเกิดเอาในวันซุปเปอร์มูน โอกาสที่จะเกิดก่อนหรือหลังวันนั้นก็เป็นไปได้ดังที่เกิดแผ่นดินไหวและคลื่น ยักษ์ซึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม จังหวัดเซ็นไดประเทศญี่ปุ่น แต่จะสรุปว่าเป็นผลมาจากซุปเปอร์มูนอย่างเดียวก็คงไม่ได้ คงจะมีหลายๆอย่างผนวกกันพอทีจึงเกิดขึ้น
ในวันพระจันทร์เต็มดวงแม้ว่าไม่เกิดภัยพิบัติใดๆ ก็ยังมีบันทึกหลักฐานว่าเป็นวันที่เกิดอุบัติเหตุต่างๆ มากกว่าวันอื่นๆ แสดงว่ามีผลต่อจิตใจความคิดของคน มีในบางประเทศและบางเมืองที่ทางโรงพยาบาลต้องเตรียมรับมือที่เตรียมการฉุก เฉินไว้ล่วงหน้าในวันพระจันทร์เต็มดวง ก็เป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์กันไม่ได้ว่าเพราะอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามก็มีทฤษฎีที่พยายามอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นทฤษฎีไร้ระเบียบดังในปรากฏการณ์ที่เรียกว่าผีเสื้อขยับปีก (Butterfly effect) ที่มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความสัมพันธ์กันและกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผลการเปลี่ยนแปลงที่หนึ่งแม้ว่าไม่มากก็อาจส่งผลใหญ่หลวงในอีกที่หนึ่งก็ เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น