หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

อุธาหรณ์จากวัว

ใกล้ๆ บ้าน ชาวบ้านแถบนั้นได้นำวัวมาเลี้ยงโดยปล่อยให้กินใบไม้ต่างๆ ที่ขึ้นเองแถวนั้น ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าวัวเลี้ยงง่ายกว่าคน เพราะมีต้นไม้อะไรก็ได้เป็นอาหาร เคยทราบมาว่าวัวเป็นสัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้องที่กลืนเข้าไปเก็บแล้วนำมาเคี้ยวใหม่ได้ และมีกระเพราะในการย่อยถึง 4 กระเพาะ จึงย่อยและสร้างสารอาหารที่จำเป็นสำหรับวัวได้ ผิดกับคนถ้ากินแต่ใบไม้คงอยู่ไม่รอดต้องกินอย่างอื่นด้วยในลักษณะของธันยพืช ไม่ใช่ใบอะไรก็ได้แบบที่วัวกิน บางครั้งวัวกินได้กระทั่งหญ้าใบไม้แห้งๆ ที่เขาเก็บไว้ให้กินในหน้าหนาว แต่สำหรับวัวที่เลี้ยงไว้เฉพาะกิจก็ต้องมีอาหารเสริม เช่นวัวนม วัวเนื้อ ก็มีสูตรอาหารเป็นการเฉพาะ
จากที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าคุณค่าทางอาหารมีอยู่ในพืชทุกหมู่แล้ว เพราะวัวกินอาหารหลักเป็นหญ้าและใบไม้ก็มีชีวิตอยู่รอดได้ และคนเลี้ยงวัวก็ไม่มีต้นทุนในด้านอาหาร นอกจากอาหารเสริมนานๆ ครั้ง และก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเรื่องรักษาสุขภาพวัว โรงพยาบาลวัวก็ไม่มี ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยเช่นอาการซึมก็รักษากันตามอาการด้วยภูมิปัญญา แสดงว่าวัวไม่ค่อยเจ็บป่วย โอกาสเลี้ยงวัวแล้วตายก่อนจึงมีน้อย จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าศึกษาว่าทำไมวัวไม่ค่อยป่วยมีภูมิคุ้มกันอะไรที่ดีกว่าคน พร้อมกันนั้นกินอาหารก็ไม่จำเป็นต้องครบห้าหมู่แบบคน โปรตีน คาร์โบไฮเดรดก็ไม่เคยแยกแยะ ให้มีหญ้าใบไม้อะไรก็กินดะ แถมเวลาคลอดลูกออกมาลูกก็เดินได้เลยไม่ต้องรอเป็นปีแบบคน แต่ก็ยังต้องพึ่งนมแม่เหมือนกัน ส่วนที่เป็นที่หนักใจของเจ้าของวัวคือเมื่อเลี้ยงอยู่ริมถนนหรือใกล้สวนชาวบ้าน เพราะหากวัวข้ามถนนแล้วรถชน ถือว่าเจ้าของวัวผิดทั้งนั้นไม่ว่าว่าจะถูกรถชนตายหรือไม่ ต้องชดใช้ค่าซ่อมรถให้เขา ส่วนใหญ่เจ้าของวัวมักจะไม่รับเป็นเจ้าของเมื่อรถเสียหายมากกว่าราคาวัว ในส่วนที่เมื่อวัวเข้าไปแทะเล็มกินต้นอ่อนของยาง หรือพืชเศรษฐกิจอื่น ในบางท้องที่มีข้อตกลงกันว่าต้องจ่ายชดเชยต้นไม้ที่ถูกวัวกินไปถึงต้นละ 500 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่าที่ไหนมีวัวที่นั่นมีนกกระยาง และวัวไม่เคยรู้สึกรำคาญนกกระยาง ถ้ามีวัวหลายตัวก็มีนกกระยางมาอยู่เพื่อนกับวัวแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย นกกระยางบางตัวก็ไปยืนบนหลังวัวเลยทีเดียว ด้วยเหตุผลที่จะมาคอยกินอาหารจากตัววัว หรือไม่ก็แมลงที่โผลออกมาหลังจากที่วัวไปเปิดทางให้ แต่นกกระยางชอบมากก็คือเห็บที่มาคอยกัดกินเลือดวัว สำหรับคนที่เคยเลี้ยงวัวจะทราบดีว่าเห็บที่มากัดกินเลือดวัวนั้นมากขนาดไหน เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงการอยู่อาศัยพึ่งพิงกันตามธรรมชาติ เรามักจะเปรียบเทียบคนกับวัวควายว่าโง่ มองไปว่ากินหญ้าแล้วโง่ ถ้าใครคิดจะหลอกลวงใคร หรือทำอะไรไปโดยคิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน คนที่รู้ทันก็อาจจะบอกว่า ฉันไม่ได้กินหญ้า กลายเป็นว่ากินหญ้าแล้วโง่เหมือนกับวัวและควาย ความจริงธรรมชาติสร้างมาแบบนั้นเพื่อให้มาช่วยเหลือมนุษย์ไม่สร้างปัญหาให้กับคน ถ้าวัวควายฉลาดขึ้นมาบ้างมนุษย์ก็คงลำบากกว่านี้ เพราะมันคงไม่ยอมให้คนบังคับอยู่แต่ฝ่ายเดียวแน่นอน เพราะวัวก็มีหลายอย่างที่เก่งกว่าคนในเรื่องน้ำอดน้ำทน ในเรื่องกินง่ายอยู่ง่าย ถ้าฉลาดขึ้นคงอยู่ยากกินยากมากขึ้นคนก็จะลำบาก แต่ยังไงก็น่าจะขอบคุณวัวมากกว่าแทนที่จะไปตั้งข้อรังเกียจ เพราะวัวมีแต่ทำประโยชน์ จะมีวัวบ้าแบบช้างตกมันทำร้ายคนก็ถือว่าน้อยมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น