สมัยเด็กๆ เรียนวิชาสุขศึกษา ท่องกันขึ้นใจว่าไม่ควรดื่มน้ำชากาแฟ หรือไม่ดีทำให้เสียสุขภาพ แต่ก็เห็นผู้ใหญ่ดื่มเอาดื่มเอา ที่เขาห้ามก็อยากลอง เมื่อลองดื่มดูเป็นครั้งแรกก็รู้สึกสดชื่นอร่อยดีความรู้สึกขณะนั้นเกือบ 50กว่า ปีมาแล้วและเพิ่งมีกาแฟอินสเตนซ์เป็นครั้งแรกคือชงละลายน้ำได้หมด ปัจจุบันกาแฟก็ยังศึกษากันไม่จบ ระยะหลังผลการศึกษาออกมาในแง่ดี เช่นที่มหาลัยเอเทนได้เคยศึกษาผู้คนที่เมืองหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟสำหรับคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ 1-2 แก้ว พบว่าส่งผลดีต่อหลอดเลือดหลอดเลือดขยายไม่ตีบดีกว่าคนไม่ดื่ม ถึงกลับกล่าวว่าคนในเมืองนี้ออายุยืนเป็นอันดับ 3 ของโลกทีเดียวเป็นมะเร็งน้อยกว่าอเมริการาว 20 เปอร์เซ็น เป็นโรคหัวใจก็น้อยกว่าครึ่งต่อครึ่ง
จาการวิจัยได้ให้เหตุผลว่ากาแฟมีสารเคมีช่วยกระตุ้นสุขภาพหัวใจ มีสารต้านอนุมูลอิสระลดการทำลายโมเลกุลของเซลล์ ทำให้ความสามารถในการดูดซึมไนโตรเจนดีที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคในหลอดเลือดหัวใจ ลดโอกาสการเป็นโรคพาร์คินสัน มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตับแข็ง โรคปอด และนิ่งในถุงน้ำดี ลดความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานประเภทสองที่สร้างอินซูลินได้ที่นำไปใช้ได้ยาก ทั้งนี้เพราะในกาแฟมีสารแอนติออกซิแดนซ์ และสารประกอบพวกกรดโดรโรเจนิก วิตามินอี แร่แมกนีเซียม สารประกอบดังกล่าวเป็นตัวเพิ่มอินซูลิน คลูโคสและการเมตาโบลิซึม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากนี้แล้วคาแฟอินในกาแฟยังมีส่วนช่วยรักษาโรคหอบหืดลดอาการปวดหัวดังจะเห็นได้จากกาแฟอินเป็นส่วนประกอบในยาระงับอาการเจ็บปวด
วารสารกีฬานานาชาติฉบับหนึ่งเคยตีพิมพ์บทความ บ่งบอกให้ทราบว่านักกีฬาเล่นได้ดีขึ้นหลักดื่มเครื่องดื่มผสมกาแฟอิน จึงมีการห้ามไม่ให้มีสารคาแฟอินสำหรับนักกีฬา ทั้งนี้เพราะสารคาแฟอินไปเพิ่มระดับอะดรีนาลิน ซึ่งเป็นฮอโมนที่ไปผลักดันทำอะไรที่เกินความสามารถตามปกติก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟมากเกินไปกลับเป็นผลเสีย จึงมีข้อกำหนดให้ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งอย่างเราๆ ท่านๆ ก็ไม่รู้ว่าเหมาะสมอยู่ที่ไหนเอาเป็นว่าที่ยังรู้สึกดี แม้ว่าวันละ 1-2 แก้ว ถ้าเช้มข้นมากก็อาจเกินพอดีได้ และที่ดื่มแล้วได้ผลดีก็ต้องเป็นกาแฟสดเสียด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น