ก่อนหน้าที่น้ำจะท่วมก่อนหน้านี้ ก็เกิดภาวะแห้งแล้งอย่างไม่เคยมีมาก่อนในปีนี้ แม่น้ำหลายสายแห้งลงไปเยอะ เช่นแม่น้ำโขงก็แห้งจนเรือข้ามฝากวิ่งไม่ได้ แทนที่จะได้ใช้เรือขนส่งข้ามฝากก็ทำไม่ได้ต้องขนกันแบบกองทัพมดดูทุลักทุเล หลังจากนั้นได้ไม่นานหลังจากที่ป่นกันในเรื่องภัยแล้ง ก็ตามมาด้วยภัยเปียกฝนที่ตกหนักอย่างไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน และก็เกิดน้ำท่วมแบบไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะบางพื้นที่ไม่เคยท่วมก็เกิดท่วมหนักขึ้นมาในคราวนี้ อะไรก็เอาแน่นอนไม่ได้
การเกินน้ำท่วมปีนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดซึนามิที่ฝั่งทะเลอันดามันภาคใต้ ก่อนที่จะเกิดคลื่นใหญ่โถมกระหน่ำเข้าทำลายชีวิตและทรัพย์สินนั้น น้ำทะเลก็จะแห้งลึกลงไปอย่างไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน แล้วจึงเกิดคลื่นขนาดใหญ่ตามมาเป็นซึนามิ อันเป็นภัยภิบัติอันใหญ่หลวงมีคนเสียชีวิตจำนวนมากแม้จะกินบริเวณไม่กว้างมากเพราะจำกัดอยู่แถบชายทะเล และเมื่อเกิดคลื่นทำลายแล้วก็ไม่ค้างอยู่นานเหมือนกับน้ำท่วมที่เพิ่งผ่านมา จะเสียหายในแง่ของผู้คนที่ล้มตายเสียมากกว่า
เหตุการณ์ก่อนฝนตกหนักที่เราทราบได้คืออาการที่ร้อนอบอ้าวมากผิดสักเกต แล้งผิดสังเกต หรือน้ำแห้งลงไปมากรณีของซึนามิก็เป็นลางบอกเหตุ ก่อนเกิดพายุใหญ่ชาวเรือมักจะพบกับท้องฟ้าเหลืองแดงผิดสังเกตดังที่เรียกกันว่าอุกาฟ้าเหลืองในเวลาที่ไม่น่าเกิดก็เป็นลางบอกเหตุถึงพายุใหญ่ และที่เป็นลางบอกเหตุได้เป็นอย่างดีคือการศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ซึ่งสัตว์มีลางสังหรณ์พิเศษที่อาจรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ดูการอพยบของสัตว์บางชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนก็อาจเป็นลางบอกเหตุภัยพิบัติก็เป็นได้
หากเรานึกถึงหลักการอันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งว่ามีของคู่กันแบบ หยินและหยางเสมอ มีร้อนมีเย็น มีเปียกมีแห้ง และมีแห้งตลอดกาล และเปียกตลอดกาล อะไรที่เคยแห้งตลอดกาลแล้วเกิดหนาวจนหิมะตกก็เป็นลางบอกเหตุอย่างหนึ่งเหมือนกันที่ว่าต้องมีการปรับตัวมีการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความสมดุล ช่วงนี้แหละอาจเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ เป็นภัยพิบัติที่เปลี่ยนแปลงสภาพกายภาพด้านต่างๆ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินยุบเป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น