เมื่อ ไม่นานมานี้คงได้ข่าวเรื่องเด็กติดเกม และก็ให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังสังเกต พฤติกรรมของเด็กว่าเป็นไปในทางที่ถูกที่ควรหรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมคล้ายกับคนเสพติดอะไรสักอย่าง เช่นเหล้าบุหรี ยาบ้า ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นเกมก็ให้รู้สึกงุดหงิดต้องหาทางไปเล่นให้ได้ ถึงขั้นขโมยเงินไปเล่นก็มี แต่สำหรับคนติดบล็อกก็เช่นเดียวกันวันไหนไม่ได้ เขียนสักเรื่องก็ดูเหมือนวางุดหงิดเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นลงแดง ถ้าเปรียบไปก็คล้ายกับนักวิ่งมาราธอนอาชีพมีสนามไหนแข่งขันก็ดั้นด้นไปแข่ง ขัน แม้ว่ารางวัลที่ได้ไม่ได้เป็นเงินอาจเป็นถ้วยที่ละลึกและเหรียญตรา แต่ก็มีความภูมิใจ สุขใจในผลที่ได้รับ แต่ที่แน่ๆ คนที่วิ่งออกกำลังกายนั้นมีสารเอนโดฟินหลั่งออกมาทำให้รู้สึกมีความสุข คงจะเสพติดในลักษณะนี้
สำหรับคนติดบล็อกบางคนก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะวันๆ ต้องไปหาเรื่องขุดเรื่องมาเขียน สุดท้ายก็ได้เรื่องมาเขียนจนได้ คนเขียนบล็อกคงมีความภูมิใจสุขใจที่มีคนมาอ่านเช่นกันรู้สึกว่าได้ทำ ประโยชน์แล้ว เพราะถือว่าการคิดการเขียนก็คือว่าเป็นการปฏิบัติอย่างหนึ่ง พฤติกรรมของคน ติดบล็อกน่าจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็นอยู่เดิม คงจะไม่ใช่เป็นคนที่เงียบขรึมแน่ แต่อาจจะเป็นคนชอบคุยเพราะเมื่อเขียนมาก ก็มีเรื่องคุยมาก เมื่อไปคุยมากก็มีเรื่องที่จะเขียนขึ้นมาเอง สำหรับผู้เขียนนั้นคิดว่าการได้เขียนบล็อกเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ กระจายความรู้ที่น่าสนใจและที่ควรทราบ การบอกจำนวนคนอ่านด้วยก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็จะได้รู้ว่าขณะนี้ใครสนใจเรื่องอะไรมากน้อยเพียงใด ข้อเสียก็มีบ้างที่อาจมีบางคนรู้สึกว่า เออ..เรื่องที่เราเขียนนี่คนช่าง สนใจน้อยเสียนี่กระไร แต่ไม่ต้องคิดอะไรมากสำหรับผู้เขียนแล้วมีคนอ่าน 1 คนและได้จุดประกายความคิดอะไรบางอย่างแล้วก็คือว่าคุ้มค่าเกินคุ้ม แล้ว แต่ขณะนี้ผู้เขียนก็ตั้งไว้ว่าเมื่อไรมีคนอ่านครบ 10 คนก็จะเขียนเรื่องใหม่ทันที จนบางคนหาว่าไฮเปอร์ ติดบล็อก บ้าบล็อก แต่ยังดีกว่าบ้าอย่างอื่นนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น