จากบทความคนกับระบบอะไรสำคัญกว่า นั้นได้บทสรุปว่าคนที่มีคุณภาพสำคัญกว่า เพราะคนที่มีคุณภาพไปสร้างระบบที่ดีได้ และถ้าระบบไม่ดีก็จะปรับปรุงให้ระบบดีขึ้นได้ ในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไปนั้น ยังมีความเชื่อกันว่าถ้าคนมีคุณภาพแล้วก็จะได้ผู้แทนที่ดีมีคุณภาพด้วยเหมือนกับที่กล่าวกันว่าคนเลือกเป็นอย่างไรผู้แทนก็เป็นอย่างนั้น และการที่คนจะมีคุณภาพได้ก็ต้องมีการศึกษาที่ดี ที่ผ่านมาแม้ว่าเราจะมีพระราชบัญญัติการปฏิรูปการศึกษาแต่ดูเหมือนว่าไม่สามารถปฏิรูปให้เป็นไปตามกม.ได้ ดังนั้นการจัดการศึกษาของเราค่อนข้างล้มเหลวที่ไม่สามารถยกระดับหรือปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
การที่ฝากความหวังไว้ที่การศึกษานั้น ก็เพราะยังเชื่อว่ายังสามารถที่จะพัฒนาไปในทางที่ดี ครูที่มีคุณภาพก็เป็นปัจจัยให้การศึกษาในโรงเรียนให้มีคุณภาพ และยิ่งถ้ามีนโยบายจากฝ่ายการเมืองที่มีความจริงใจที่ต้องการให้ประชากรมีการศึกษาที่ดีขึ้น อะไรที่เป็นปัญหาของชาติก็ต้องเร่งระดมทำกันเป็นอย่างขนานใหญ่ เช่นการการมีวินัย เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รู้จักหน้าที่ของพลเมื่องที่ดี เน้นความซื่อสัตย์ สิ่งเหล่านี้จะต้องใส่ไว้ในหลักสูตรทุกระดับชั้นแม้กระทั่งในมหาวิทยาลัย
เพราะเมื่อการศึกษาดี ส่งผลในการปรับปรุงคุณภาพชีวิต ให้ทุกคนคิดได้อย่างมีเหตุผล มีวินัย เคารพกฏ กติกา มีศักดิ์ศรีของความเป็นคน เป็นตัวของตัวเองแล้ว ก็เท่ากับเป็นคนที่มีคุณภาพจะเลือกใครก็ใช้วิจารณญาณของตนเอง จะไม่นิ่งดูดาย เมื่อพบสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นก็จะช่วยกันร่วมมือกันขจัดความเลวร้ายออกไป เช่นรังเกียจการซื้อเสียง ก็จะร่วมมือกันกำจัดให้หมดไป โดยสรุปประชากรที่มีคุณภาพเป็นหัวใจที่สำคัญในสังคมประชาธิปไตย และคนที่มีความรู้ความสามารถจะต้องลงมาช่วยสังคมให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะแม้ว่าจะมีคนดีมากกว่าแต่ท้อถอยก็ทำให้ชาติล่มจมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น