หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

รายการที่วีวิพากษ์การเมือง

เมื่อเช้านี้เผอิญได้ยินโฆษกที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งวิพากษ์การเมืองในช่วงเช้า โดยมีการสัมภาษณ์คนโน้นคนนี้ วันนี้มีการสัมภาษณ์คุณมีชัย ฤชุพันธ์ ก็คงจะเป็นเรื่องการเมืองร้อนอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล และระบอบประชาธิปไตยของเรา


เริ่มจากพิธีกรพูดว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วมีพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกจากประชาชนมีสส. มากที่สุดควรจะมีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล ท่านมีชัยก็ตอบว่าก็ใช่จะได้รับโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน พิธีกรก็ยังพูดนำต่อไปว่าจากพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวที่ให้ทุกภาคส่วนมีความสมานฉันท์กัน มีความสมัคคี ท่านมีชัยก็ตอบทำนองว่าก็เป็นเช่นนั้นแต่พระองค์ท่านทรงเน้นย้ำว่าจะต้องไม่สร้างความแตกแยกด้วย นอกจากการสมานฉันท์

จากการให้สัมภาษณ์ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ท่านมีชัยได้ให้ข้อคิดจากที่นำแนวคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตกมาใช้กับประเทศไทยที่มีบริบททางการศึกษาแตกต่างกันทำให้ประชาธิปไตยของเรานั้นผิดเพี้ยนไป ยังไม่ทราบว่าเลือกเพื่อวัตถุประสงค์ใด เลือกคนเช่นไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกผู้แทนที่ยังหวังอามิสสิ้นจ้าง เห็นผู้กระทำความผิด รับเงินรับทอง แล้วยังช่วยกันปกปิด ไม่แจ้งเบาะแส และการเลือกไม่ได้เลือกอย่างมีเหตุผลบนฐานของความถูกต้อง และพิธีกรก็พูดเองว่าก็มีเหมือนกันที่เคยไปถามประชาชนว่าจะเลือกผู้แทนยังไงได้รับคำตอบว่าต้องถามกำนันก็ว่ากำนันว่าอย่างไรให้เลือกใคร

ในระบอบประชาธิปไตยของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกันต้องมีการปรับให้เหมาะกับบริบทสังคมของแต่ละประเทศ ประเทศจีนเขาก็คิดว่าเขาเป็นประชาธิปไตยแบบจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ก็เป็นไปตามแบบของเขา ประเทศไทยของเราก็น่าจะมีการทบทวนกันใหม่ปรับให้เหมาะกับสังคมไทยให้มากที่สุด ซึ่งท่านมีชัย ฤชุพันธ์ก็ได้เสนอแนะไว้ว่าจะต้องมีการศึกษาวิจัยกันให้มากว่านี้ จะใช้วิธีใดที่ดีที่สุดที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาดังเช่นทุกวันนี้

โดยหลักใหญ่แล้วประชาธิปไตยต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นตัวของตัวเอง หรือใช้ปัญญาระดมความคิดกันช่วยกันแก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนา มีความกล้าหาญในการทำสิ่งที่ถูกต้องมีความซื่อสัตย์ ยอมรับในความคิดเห็นของผู้อื่น ต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ในทุกระดับไม่ใช่เป็นแต่ผู้รับอย่างเดียว จะต้องเป็นผู้ให้และพัฒนาตนเองได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น