หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เมื่อผมท่องดิกชั่นนารี

การเรียนภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาของพ่อแม่เรา นั้นบางคนก็เรียนรู้ได้เร็วบางคนก็เรียนรู้ได้ช้า บางคนฟังภาษาต่างประเทศได้เร็ว เข้าใจสื่อความหมายได้เร็วบางคนสื่อความหมายได้ช้ากว่า ผมสังเกตตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มประเภทหลัง แต่เมื่ออยากเป็นนักเรียนนอกไปศึกษาต่อต่างประเทศก็จำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษให้ผ่านมิฉะนั้นเขาก็ไม่รับให้เป็นนักศึกษา จึงต้องหาวิธีการที่ต้องสอบให้ผ่าน


ด้วยความเชื่อว่ายิ่งรู้ศัพท์ภาษามากเท่าใดก็จะทำให้เข้าใจภาษาเขาได้มากเท่านั้น นั่นก็คืออ่านภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้นถ้ารู้คำศัพท์มากก็พอจะเดาความหมายได้ ยิ่งประโยคหนึ่งไม่รู้หลายคำยิ่งเดาความหมายทั้งประโยคได้ยาก ด้วยสาเหตุนี้ผู้เขียนจึงได้เลือกเอาวิธีการท่องคำศัพท์ เพราะยิ่งรู้ศัพท์มากก็ยิ่งอ่านภาษาอังกฤษเข้าใจได้ง่ายขึ้น บางครั้งแม้จะฟังไม่ค่อนรู้เรื่องพูดก็ไม่ถูก แต่ก็เชื่ออีกลึกๆ ว่าถ้าได้ฟังออกว่าเป็นคำไหนตามที่ท่องมาแล้วละก็จะจำได้เร็วลืมช้าเพราะผ่านตามาแล้ว รู้ความหมายมาแล้ว

วิธีการที่ใช้คือการท่องดิกชั่นนารี ก็เปิดดิกชั่นนารีไปทีละหน้า ดิกชั่นนารีที่ใช้ท่องขณะนั้นชื่อว่า new standard english-thai dictionary by nit tongsopit ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดยแพร่พิทยา ที่ว่าเปิดท่องไปทีละหน้านั้นยังมีวิธีการคือว่าถ้าคำไหนรู้แล้วก็ผ่านไปเลยแต่ถ้าคำไหนที่ดูเฉพาะคำด้านหน้าไม่รู้ความหมายและคิดว่าอยากจำให้ได้ใช้ปากกาสีแดงขีดเส้นใต้ไว้คราวหน้าเมื่อเปิดดูก็จะดูเฉพาะที่ขีดสีแดงไว้ ไปไหนก็พกดิกชั่นนารีเล่มนี้ ขึ้นรถลงเรือก็เปิดมาดูได้ทำเช่นนี้จนขีดเส้นแดงได้หมดเล่มหลังจากนั้นก็เปิดดูแต่ที่ขีดเส้นแดงถ้าเปิดดูอีกครั้งดูแต่ตัวภาษาอังกฤษถ้านึกความหมายได้ก็ผ่านไปที่คำขีดเส้นแดงอื่นต่อไปนึกความหมายถ้านึกได้ผ่าน เมื่อครบทุกหน้าก็มีการทวน ถ้าจำได้เกือบหมดแล้วไปสอบอีกครั้งหนึ่งคะแนนเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ได้คะแนนสูงพอที่เขารับเราเข้าเรียนได้ ใครจะนำวิธีการนี้ไปใช้ก็ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น