เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง และเมล็ดงา ถือได้ว่าเป็นยอดอาหาร หรือเป็นเหมือนยาป้องกันและบำบัดโรคสำคัญ ถือเป็นอายุวัฒนะได้
ผู้ที่รับประทานเมล็ดทานตะวันเป็นประจำโอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตในสมองแตกแทบไม่มี โดยที่วิตามินอีในเมล็ดทานตะวันมีสูงซึ่งจะทำหน้าที่ทำความสะอาดหลอดเลือด และมีแร่โปแตสเซี่ยมปริมาณสูงทำให้กล้ามเนื้อและกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง เมล็ดดอกทานตะวันยังมีวิตามินบี1และไนอาซิน เป็นไวตามินที่ลดคอเลสเตอรอลได้ นอกจากนี้ยังมีไขมันที่ไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เมล็ดฟักทองเช่นกันมีประโยชน์ในการบำรุงหัวใจ เป็นแหล่งเกลือแร่สังกะสีที่มีการนำมาใช้รักษาอาการบวมของต่อมลูกหมาก ที่เป็นสาเหตุทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีการนำเมล็ดฟักทองมารักษาความผิดปกติของของต่อมลูกหมาก มีรายงานของผู้ที่นำไปใช้ได้ผล จนบางคนกล่าวว่าเป็นเมล็ดพืชที่ช่วยให้มีความรัก
เมล็ดงามักจะนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร ส่วนที่ตกแต่งที่มีคุณค่ายิ่ง เมล็ดงามีโปรตีน เมทธิโอนีน (methionine) และทริพโตฟาน(tryptophan) สูง เมื่อนำเมล็ดงาเสริมกับโปรตีนที่ได้จากพืชอื่นเช่นถั่ว ผลไม้เปลือกแข็งพวกนัต (nuts)จะได้โปรตีนครบถ้วน สารเซซามอล (sesamol) ในงาเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นพวกอ็อกซิแด้นซ์ สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ และยังทำให้ดูอ่อนวัยแก่ช้าลง
เหนืออื่นใดการที่เมล็ดพืชมีใยอาหารสูง (fiber) มีส่วนในการป้องกันโรคหัวใจ และยังมีส่วนในการลดลงของโรคเบาหวาน อันเป็นโรคที่จะทำให้เป็นโรคหัวใจและเส้นเลือดแตกในสมอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น