หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ชมความมหัศจรรย์ของถ้ำพุงช้าง

ในโอกาสที่ไปพักผ่อนตากอากาศที่ภูเก็ํต ระหว่างการเดินทางผ่านจังหวัดพังงา เคยได้กิตติศัพท์่เรื่องถ้ำพุงช้าง เที่ยวนี้จึงได้แวะเข้าชม ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมเข้าชมคนไทยคนละ 200 บาทถ้าชาวต่างประเทศ 500 บาท ระหว่างรอเข้าถ้ำนั้นได้สอบ่ถามถึงความเป็นการค้นพบถ้ำนี้ ได้ความว่ามีจ่าตำรวจท่านหนึ่งชื่อว่าจ่าริน (ชื่อเดิม)เหมือนกับว่ามีคนมาเข้าฝันว่ามีถ้ำอยู่ให้เข้าไปสำรวจ ความจริงก็มีทางน้ำไหลให้เห็นอยู่แล้วแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป จนจ่ารินได้ชักชวนชาวบ้านเข้าไปสำรวจเมื่อปี 2543 จากนั้นจึงได้จัดเป็นโปรแกรมแกรมท่องเที่ยว การเข้าชมในถ้ำเริ่มจากนั่งเรื่อแคนนูเข้าไปลำหนึ่ง นั่งได้ 4-5 คน จากนั้นต้องไปต่อแพไม้ไผ่ แพหนึ่งนั่งได้ 3-4 คน จากแพต้องเดินลุยน้ำไปอีกความลึกของน้ำไม่เกิดหัวเข่า การเข้าชมทุกคนจะได้รับไฟฉายติดที่ศีรษะ ทำให้มองเห็นหินงอกหินย้อยได้ถนัดตลอดเส้นทางที่เข้าไปในถ้ำ


การเข้าชมไม่อนุญาตให้มีการถ่ายรูป โดยเขาให้เหตุผลว่าแสงจะไปทำปฏิกิริยากับหินที่กำลังงอกกำลังย้อย ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติบางอย่าง หรืออาจกลัวกว่าคนจะดูภาพที่ถ่ายไปมากกว่าเข้าชมเอง หรือว่าก่อนเข้าถ้ำจะมีช่างภาพมาถ่ายภาพเราไว้ ก็จะได้จำหน่ายภาพพิมพ์อิงค์เจ็ตภาพละ 100 แต่จะไม่ซื้อเขาก็ไม่ว่ากระไร นอกจากนี้ก็มีข้อห้ามว่าไม่ควรจะเอามีไปลูบหิน เพราะจะทำให้สูญเสียความแวววาวของซิลิกาที่จะเกิดเป็นหินงอกหินย้อย

ตอนแรกที่นั่งเรือแคนนูก็เพราะเส้นทางกว้างพอที่เรือจะเคลื่อนตัวไปได้ ในช่วงสองใช้แพไม้ไผ่เล็กลงเพราะช่องทางแคบเข้าใช้เรือแคนนูลำบาก และช่องสุดท้ายต้องเดินเพราะจะนั่งแพก็ไม่ได้ทางมันคดเคี้ยวเกินไป ระหว่างทางที่ทั้งนั่งเรือ แพ และเดินนั้น ก็เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เห็นหินงอกหินย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ และบางลักษณะก็แล้วแต่จินตนาการ ที่เห็นเด่นชัดคือหินรูปกระต่าง หินรูปจรเข้ หินรูปปลา หินรูปช้างซ้อนกั้นเป็นชั้นๆ หินรูปช้างใหญ่มีเศวตฉัตรทุกคนดูออกโดยไม่ต้องจิตนาการ และยังมีบริเวณการสร้างตัวของหินงอกเป็นรูปแอ่งอยู่ใต้ชั้นหินงอกอื่นแต่ได้มีการตั้งให้เป็นแอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ในบางบริเวณในหน้าฝนจะมีน้ำตกภายในเป็นม่านน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น