หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การคิดเชิงบวกกับการมองโลกในแง่ดี

ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนที่พูดถึงการคิดเชิงบวก (positive thinking) เป็นครั้งแรก แต่ก็รู้ว่าเป็นการคิดในทางดีหรือมองโลกในแง่ดี มีการเขียนตำราเรื่องการคิดเชิงบวกก็หลายเล่ม ต่างกรรมต่างวาระ ต่างคนเขียน ต่างก็สนับสนุนส่งเสริม ให้หัดเป็นคนคิดเชิงบวกมีแต่ทำให้ตัวเองและสังคมดีขึ้นถ้าคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้


ปกติแล้วคำว่าบวกนั้นหมายถึงการเพิ่มให้มากขึ้น และที่ตรงกันข้ามกับการคิดเชิงบวกคือการคิดเชิงลบเป็นการคิดในทางที่ไม่ดี หรือมองโลกในแง่ร้าย นี่ถ้าคิดในแง่ดีมองโลกในแง่ดีมากๆ ก็ว่าคิดบวก บวก หลายครั้งก็กลายเป็นการคูณก็น่าจะเรียกว่าการคิดแบบพหุคูณ ถ้าคิดลบมากๆ ก็เป็นการคิดแบบพหุหารก็น่าจะได้ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นจะให้คนคิดดีเสียทั้งหมดก็คงไม่ได้มิฉะนั้นแล้วโลกก็คงมีแต่ความสงบสุข มนุษย์เกิดมาคงไม่ต้องแก้ปัญหาอะไร ดังนั้นโลกเราก็คงยังจะต้องมีทั้งพวกคิดเชิงบวกและคิดเชิงลบคละกันไป ถ้ามีแต่คิดเชิงลบโลกเราก็คงวุ่นวายน่าดู อะไรๆ ก็คงต้องมีให้สมดุลย์ตามความเหมาะสมซึ่งแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกว่าเหมาะสมที่ตรงไหน พระท่านว่าให้ใช้ทางสายกลางจึงดีที่สุด

จะยกต้วอย่างเช่นเห็นงูเลื่อยผ่านหน้าคนที่คิดเชิงบวกก็อาจจะบอกว่าจะโชคดี จะได้พบคู่รัก คนที่คิดเชิงลบก็อาจหมายถึงโชคร้าย แต่ส่วนใหญ่แล้วอาจตกใจกลัวถ้าไม่ได้ฝึกสติไว้ดีพอ ไม่ทันสังเกตว่างูมีพิษหรือไม่ บางคนพอเห็นงูก็ตีให้ตายเสียก่อน ที่จะคิดดีทั้งหมดว่าต่างก็เป็นเพื่อนร่วมโลก อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลยนั้นก็คงเป็นไปได้ยาก ในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญทางวัตถุจะเห็นงูได้น้อยมาก เพราะคนกับสัตว์ร้ายคงอยู่ปะปนกันได้ยาก การจะให้ทุกคนมีเมตตาธรรมมีน้ำใจต่อสัตว์โลก มีการให้อภัย เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากยิ่ง มีแต่ในคำสอนในศาสนาบอกไว้ แต่ในทางปฏิบัตินั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราทุกคนจะให้สมหวังในทุกเรื่องก็เป็นไปไม่ได้ และเท่าที่ศึกษากันมานั้น มนุษย์เราถ้าไม่ได้ตามที่คาดหวังก็มักจะคิดเชิงลบ ออกไปในทางประชดโลกประชดสังคมเสียมากกว่า

จะอย่างไรก็ตามขอให้มีคนคิดเชิงบวกให้มากไว้เป็นดี มองโลกในแง่ดีก็ได้ประโยชน์กับผู้นั้นมักเป็นคนที่มีความสุขมากกว่าคิดในแง่ร้าย ถ้าเห็นงูผ่านหน้าเราเห็นก็คิดเสียว่าอาจเป็นเพื่อน เป็นญาติกลับชาติมาเกิด เรามนุษย์เองก็เป็นสัตว์เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เป็นไปตามระบบนิเวศที่อิงอาศัยกันมากกว่าที่จะมาทำลายล้างกัน แต่ก็อดคิดไม่ได้อีกเช่นกันว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่รวมกันแล้วทีทั้งช่วยกันสร้างสรร และช่วยกันทำล้ายล้างดังที่เราเห็นได้ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆของโลกทุกเมื่อชั่ววัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น