หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เหตุเกิดที่วัดบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช

เมื่อเร็วๆนี้เราได้ข่าวการโจรกรรมเงินจากตู้รับบริจาคเงินวัดพระมหาธาตุ และนำไปเปิดที่รอบองค์พระธาตุด้านบนของวัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการขโมยเงินจากตู้รับบริจาค แต่ไม่ใช่บริเวณรอบองค์พระธาตุดังกล่าว และตามข่าวนั้นบ่งว่าเป็นเงินจำนวนมากกว่าทุกคราว จากเหตุการณ์ที่เกิดนี้เป็นอุทาหรณ์ที่บ่งชี้หลายอย่างอันแสดงให้เห็นถึงความตกต่ำในด้านศิลธรรม และจริยธรรมของผู้คนในจังหวัดเรา โดยผู้โจรกรรมไม่ได้คิดถึงบาปกรรมว่าจะส่งผลเช่นไร จะได้รับการสาปแช่งจากผู้คนที่เคารพศัการะพระบรมธาตุเพียงไร ก็น่าจะวิเคราะห์ดูถึงมูลเหตุที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมนี้ นอกจากเพียงบอกว่าขาดศิลธรรมจริยธรรม


เราต้องยอมรับว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ยิ่งมีการพัฒนาทางด้านวัตถุมากขึ้นเพียงใด การพัฒนาทางด้านจิตใจก็ตกต่ำมากขึ้นเช่นกัน เพราะเราไปมัวหลงว่าการมีวัตถุจะทำให้มีความสุขเสพสุขได้ และสิ่งที่จะทำให้ได้วัตถุมาก็คือการมีเงินที่จะไปจับจ่ายใช้สอยได้ทุกอย่าง เหมือนกับเงินคือทุกสิ่งเป็นพระเจ้า การที่เป็นเช่นนี้ เพราะการพัฒนาของเราไปเน้นที่วัตถุมากเกินไป ไม่ได้เน้นไปที่จิตใจหาความสุขทางใจซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริง และก็เช่นกันด้วยจิตใจเป็นเหตุให้มีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว ถ้าเทียบกับต่างประเทศที่มีกรณีเช่นนี้น้อยกว่า น่าจะประมวลได้ว่า

ได้มีการสอนให้ตระหนักถึงสมบัติอันเป็นของส่วนรวมที่ใครจะไปเอามาเป็นของตัวเองนั้น เป็นความผิดอย่างร้ายแรง ทั้งทางกฏหมายและศิลธรรม และมุ่งให้ทุกคนรักษาสมบัติของส่วนร่วม ให้ใช้เพื่อส่วนรวมจริงๆ

ได้มีความพยายามให้ทุกคนได้หลุดพ้นจากความยากจน โดยรัฐจะต้องดำเนินการให้ทุกคนอยู่ได้ไม่อดตาย หรือไม่อยู่อย่างน่าเวทนาเกินไป

ได้มีการควบคุมให้มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด นำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ได้มีการสอนหน้าที่พลเมืองดี ที่จะต้องปฏิบัติ เมื่อเห็นอะไรที่จะเป็นพิษเป็นภัยแก่สังคมโดยรวมจะต้องแจ้งเบาะแส ให้ผู้เกี่ยวข้อง นั่นก็คือจะต้องช่วยกันเหมือนกับเป็นผู้เฝ้าระวังแจ้งเหตุเตือนภัยให้กับสังคมต่อไป

จากสิ่งที่ประเทศอื่นเขาทำได้ผลนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าการโจรกรรมไม่มีเลยในประเทศเหล่านั้น แต่ก็มีน้อยกว่าประเทศเราหลายเท่าก็แล้วกัน แล้วเราจะไม่ช่วยกันหรือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น