หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สภาพรัฐซ้อนรัฐ

การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลนั้น ถือว่าเป็นการทำร้ายทำลายตัวเอง ทั้งๆ ที่ควรจะหลีกเลี่ยงได้ไม่ให้เกิดผลเสียให้ต่อเศรษฐกิจ ทุกคนสูญเสียหมดมากบ้างน้อยบ้าง และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น และขณะนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จนรัฐบาลได้ประกาศแล้วเป็นการชุมนุมที่ผิดกฏฟมาย และไม่ได้สันติอหิงสาตามที่ประกาศแต่ต้น


เมื่อพิจารณาว่าทำไมจึงเป็นการชุมนุมที่ผิดกฏหมาย เพราะการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมมีลักษณะเหมือนมีสิทธินอกอาณาเขต ไม่เคารพกฏหมายฝ่ายบ้านเมือง และยำยีกฏหมายอยู่เสมอ ตั้งแต่การบุกไปในสถานที่ราชการ ข่มขู่ผู้อื่น เป็นลักษณะเหมือนกับม๊อบอภิสิทธิ์จริงๆ อันดับแรกรัฐบาลดูจะอลุ่มอล่วยไม่กระทำอะไรรุนแรงต่อผู้ชุมนุม อาวุธก็ไม่ให้ใช้ แต่ก็ส่งผลให้ผู้ไม่หวังดีมือที่สามสร้างสถานะการณ์จนทำให้สถานะการณ์บานปลายมีบาดเจ็บมีเสียชีวิต และเท่าที่ผ่านมายังไม่มีใครที่จะไปทำลายม็อบที่มาชุมนุมกันเลย ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครขว้างระเบิดใส่ที่ชุมนุมเลย ผิดกับการชุมนุมก่อนหน้านี้ที่มีการยิงระเบิดใส่ผู้ชมนุม

การไม่เชื่อฟังกฏหมาย ฝ่าฝืนกฏหมาย และข่มขู่ผู้อื่นไปด้วย เป็นสภาพเหมือนกับรัฐซ้อนร้ฐ ที่หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ต้องมีการกดดันกันอีก และยิ่งตอนนี้ฝ่ายที่รักษากฏหมายก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะบังคับกฏหมายอย่างเคร่งครัดเอาจริงเอาจัง และเฉียบขาดมากยิ่งขึ้น แต่เท่าที่ผ่านมานั้นดูเหมือนว่าไม่สามารถบังคับใช้กฏหมาย กองเชียร์ก็ยังเชียร์ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีไม่ให้ถอดใจลาออกหรือยุบสภา พูดง่ายๆ ว่าแม้ว่าจะไม่ทันใจกับการทำงานของรัฐบาลที่ดูหลักการยุทธวิธีดี แต่ผลการปฏิบัติก็ออกมาอีกรูปหนึ่งอยู่เรื่อย แต่ก็ได้แต่หวังว่าคงจะสามารถนำคืนความสงบคืนกลับมาให้สังคมได้

ณ วินาทีนี้ถ้าจะบังคับใช้กฏหมายกับกฏหมู่นั้นคงทำได้ยากจริง ก็ต้องรอจังหวะ เช่นให้ฝนตกหนักเลิกลากันไปเอง การที่จะใช้กำลังสลายการชุมนุมก็เสี่ยงต่อความสูญเสีย หรือ ทำสงครามจิตวิทยาให้ผู้ชุมนุมลดน้อยลงไปก่อนแล้วจึงขอคืนพื้นที่เหมือนกับคราวที่แล้วซึ่งคราวนี้คงได้บทเรียนจากคราวที่แล้ว ไม่น่าจะออกผลมาเหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมให้ประเทศแย่ลงไปอีก ได้แต่หวังว่าผู้ที่มีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหา และทำให้เกิดปัญหาจะสามารถหาทางตกลงกันได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น