แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกระบี่แห่งหนึ่งคืออ่าวพระนางและอันมี เกาะแก่งที่สวยงามเป็นอย่างยิ่งนอกจากจะมี น้ำทะเลที่สีฟ้าเขียวที่ใสสะอาด มีปลาสวยและปะการังที่สวยงามให้ดูแล้ว ยังมีหาดที่ขาวสะอาดน่าไปท่องเที่ยวยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณที่เรียกว่าทะเลแหวกที่น้ำยามที่น้ำลงจะมองเห็นเป็นเนินแนวสันทราย ระหว่างเกาะสามเกาะคือ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปมาระหว่างเกาะตามแนวเนินทรายระหว่างเกาะเหมือน กับเดินอยู่ในทะเล ยามที่น้ำขึ้นจะไม่สามารถเดินผ่านไปมาระหว่างเกาะได้เพราะน้ำทะเลข้ามเลย ระดับเนินทรายระหว่างเกาะเป็นทะเล
ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนก็ตรงที่ว่า เมื่อก่อนนั้น น้ำทะเลไม่เคยท่วมแนวเนินทรายเลย แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้น้ำจะท่วมแนวเนินทรายได้ แม้ว่าจะได้รับอิทธิพลแรงโน้มถ่วงจากดวงอาทิตย์เหมือนกันกับเมื่อก่อน ในแต่ละรอบวันที่ระดับน้ำทะเลลดลง ระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าแนวเนินทราย ทำให้ดูเหมือนว่าทะเลแหวกออกไปอันเป็นที่มาของทะเลแหวก ซึ่งการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นได้นั้น ก็คาดว่าเป็นผลจากภาวะโลกร้อนที่น้ำแข็งจากขั้วโลกละลายทำให้เพิ่มระดับน้ำ ทะเลมากขึ้น สอดคล้องกับที่ได้สอบถามชาวบ้านบริเวณนั้นที่เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 15 ปีมาแล้วนั้นน้ำทะเลยังไม่ท่วม แต่ใน 5 ปีที่ผ่านมาน้ำท่วมเนินทรายดังกล่าวในช่วงที่น้ำขึ้น ซึ่งวันที่ดี่ที่สุดที่จะมาเทียวทะเลแหวกที่ระดับน้ำทะเลลดลงต่ำสุดคือ ในช่วงก่อนและหลัง 15 ค่ำ ราว 5 วัน เป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลลดต่ำ ที่ทำให้เดินไปมาระหว่างเกาะได้สะดวกขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น