หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ภาวะโลกร้อนที่กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว

ในบล็อกที่แล้วได้เขียนถึงผลของภาวะโลกร้อนที่มีผลต่อทะเลแหวกที่เกาะในอ่าวพระนาง ที่มีผลต่อระดับน้ำทะเลที่ทำให้เกิดทะเลแหวก ในการเดินทางไปชมบริเวณทะเลแหวกนั้น เมื่อถึงตัวเมืองกระบี่ จะมีท่าเรือที่จะเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่จะเลือกบางเส้นทาง อาจต้องเลือกไปตอนเช้า เช่นทะเลแหวกเพราะในบางช่วงถ้าสายหน่อยระดับน้ำทะเลขึ้นสูงไม่สามารถเดินฝ่านน้ำระหว่างเกาะที่เคยแหวกเป็นทางเดินได้ บางครั้งเดินไปอีกเกาะได้แค่กลับไม่ได้เพราะระดับน้ำสูงเกินไป ต้องให้เรือไปรับก็มี


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นมีการเก็บข้อมูลสถิติเกี่ยวกับภัยธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดพายุใหญ่ น้ำท่วมแผ่นดินไหว ก็พบว่ามีภัยพิบัติต่างๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นมากกว่าที่ผ่านมาจริง ก็เลยสรุปว่าการเกิดภาวะโลกร้อนน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดขึ้น ดังนั้นการจะเดินทางไปในทะเลแล้วเกิดคลื่นลมแรงบ่อยๆ ก็น่าจะมีผลมาจากภาวะโลกร้อนได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นผู้ที่เดินทางไปทะเลแหวกด้วยเรือหางยาวหัวโทงที่ราคาค่าบริการถูกว่าเรือเร็ว (speed boat) นับเท่าตัวก็อาจเกิดอาการเมาคลื่นเมาเรือ อันเนื่องจากที่คลืนสูงกว่าปกติลมพัดแรง ทำให้เรือโคลงเคลง คนที่มีอาการขึ้แพ้อยู่แล้วก็จะเกิดอาการวิเวียน ปวดหัวอยากอาเจียรได้ อย่างไรก็ตามก็มีคนบอกวิธีการที่จะทำให้ไม่เมาคลื่นวิธีการหนึ่งที่เห็นว่าใช้ได้ผลดีคือการใช้ปลาสเตอร์ยาปิดที่สะดือ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าได้รับผลดีทำให้ไม่มีอาการเมาคลื่นได้ ซึ่งมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่น่าจะเป็นไปได้

อิทธิพลของภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อการเดินทาง ที่เห็นได้ชัดก็คือถ้านั่งในเรือเร็วที่มีหลังคามิดชิดก็สบายหน่อย ที่ได้รับผลจากคลื่นน้อย เพราะเป็นเรือขนาดใหญ่ น้ำที่จะกระเด็นสาดมายังผู้โดยสารแทบไม่มี แต่ถ้าใช้บริการเรือหัวโทงหางยาวแล้วได้รับผลกระทบจากคลื่นแน่นอนแล้วน้ำอาจสาดเข้ามาทำให้เปืยกอีกต่างหาก แม้ว่าจะมีชูชีพให้ทุกคนแต่ก็อดไม่ได้ถึงเรื่องความปลอดภัยถ้าหากว่าเรือล่มขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ยังมีคนที่คิดว่ามาทะเลล่องเรือแล้วถ้าไม่มีคลื่นลมเลยก็เหมือนไม่ได้มาทะเล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น