หน้าเว็บ

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การป้องกันรักษาโรคแบบพอเพียง

แนวคิดจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำมาใช้ในการป้องกันรักษาโรคได้อย่างแน่นอน จากหลักปรัชญาเศรษบกิจพอเพียงนั้น ให้เราเดินทางสายกลางยึดความเหมาะสม ไม่มากไม่น้อยด้วยความมีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกัน โดยมีความรู้และคุณธรรมเป็นฐาน


เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคหรือความเจ็บป่วย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดน้อยถอยลง ประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ของร่ายกายลดลงนั้นมีสาเหตุทั้งสิ้น ซึ่งการป้องกัน และฟื้นฟูสภาพร่างกายนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ แบบพอเพียง หลักการข้อแรกอย่างทำอะไรเกินกำลังตัวเอง ให้รู้จักประมาณ บางคนยกของหนักแล้วทำให้เกิดการปวดเมื่อย ปวดไหล ปวดเอว ปวดหลัง อาจจะเคยยกได้อยู่ แต่บางครั้งยามที่ร่างกายอ่อนแอก็อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ ปวดเมื่อยได้ เช่นเดียวกับนักกีฬาเคยฝึกซ้อมก็ทำสถิติได้แค่นี้แต่พอแข่งขันจริง นอกจากไม่ได้ตามสถิติที่เคยฝึกซ้อมแล้ว ยังทำให้เกิดอาการบาดเจ็บก็มี ถ้าจะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมจริงเป็นเช่นนั้น ก็ตอบง่ายๆ ว่าสภาพร่างกายอาจจะไม่สมบูรณ์เต็มที่ ความแข็งเกร่ง ความแข็งแรงของร่างกายอาจลดน้อยถอยลงด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ การแข่งขันของนักกีฬาที่ต้องแสดงพละกำลัง และเทคนิคการกีฬาว่าใครเหนือกว่ากัน มักจะเป็นไปในทางที่เกินกำลังไม่ใช่ทางสายกลาง สำหรับคนทั่วไปต้องยิ่งระมัดระวังตัว สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายจึงจะไม่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้

สิ่งแรกที่ช่วยในการป้องกันโรคคือทุกคนต้องสังเกตตัวเอง และรู้ตัวเองว่ามีความอ่อนไหวต่อเรื่องใดต่อการเจ็บไข้ได้ป่อย ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีการแพ้อากาศมากกว่าคนอื่น บางคนแพ้แมลงสัตว์กัดต่อยได้ง่ายกว่าคนอื่น มีอาการแพ้มากกว่าคนอื่น บางคนแพ้อาหารบางชนิดได้ง่ายกว่า บางคนแพ้เครื่องดื่มบางชนิดโดยเฉพาะเครื่องดื่มอัลกอฮอลล์ ซึ่งเมื่อแต่ละคนรู้แล้วหลีกเลี่ยงได้ก็จะไม่เป็นโรค และหาทางป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกัน หรือหาทางแก้ทางออกไว้ ไม่ใช่เหมือนกับที่เขียนไว้ที่ท้ายรถบรรทุกบางคัน ไม่รู้ว่าจะช่วยเตือนใจหรือส่งเสริมให้ละเลยต่อไป ที่เขียนว่า "ดีชั่วรู้ทุกอย่าง แต่ก็อดไม่ได้" ถ้าพิจารณาประโยคนี้ก็เป็นจริงสำหรับคนยุคปัจจุบัน บางคนเขารู้ทุกอย่างแต่ รู้ว่าไม่ดีกับตัวเองแต่ก็ยังทำ จะอ้างว่าทำไปแล้วไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับเรื่องสุขภาพนั้น ถ้ามีพฤติกรรมทำลายสุขภาพตนเองน้น ไม่วันใดก็วันหนึ่ง คงต้องเดือดร้อนถึงผู้อื่นอย่างน้อยคน ใกล้ชิดที่ต้องมาดูแล เป็นการทำลายผลประโยชน์ ความก้าวหน้าของผู้อื่นไม่ทางตรงก็ทางอ้อมแน่นอน

การป้องกันรักษาโรคแบบพอเพียง ยังมีต่ออีกหลายตอน เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ เป็นการป้องกันมากกว่าการรักษา ซึ่งวิธีการง่ายๆ ก็คือการดูแลสุขภาพจากการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม เช่นโดยการออกกำลังกาย วิธีการทางโภชนการบำบัด โดยวิธีการจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับแต่ละคน ซึ่งคงจะมีเรื่องเล่าต่อๆ ไปให้ฟังมากมาย จากประสบการณ์ทั้งของตนเองและผู้อื่น พบกันใหม่คราวหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น