หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คนไม่มีแฟนก็พึงระวัง

จากบทบล็อกคนมีแฟนพึงระวังก็ได้มีเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกันบางท่านกรุณาให้ข้อคิดเห็นทางวาจาเพิ่มเติมที่ไม่เห็นด้วย ว่าจะไปสนับสนุนส่งเสริมเกิดพฤติกรรมเช่นนั้นได้ ผู้เขียนก็เลยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงบางตัวอย่าง เป็นกรณีพิเศษที่อาจเกิดขึ้นได้เหมือนในกรณีที่ผู้เขียนเคยเขียนเรื่องคนมีหลายภรรยาพึงระวัง และขณะเดียวกันก็มีคนบอกผู้เขียนว่าคนที่ไม่มีแฟ้นก็พึงระวังเหมือนกัน ก็เลยเป็นที่มาของบล็อกนี้


คนไม่มีแฟนก็คงจะคิดได้ในสองสามประเด็นก็คือ คนที่ดำรงตัวเป็นโสต ไม่มีแฟนในเชิงชู้สาวแต่อาจจะมีแฟนคลับ คนที่ยังไม่มีแฟนขณะนี้แต่คิดว่ากำลังจะมี หรือกำลังตัดสินใจจะมี หรือกำลังหาแฟนอยู่แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ จากนิยามคนไม่มีแฟนที่กล่าวมานั้นคงมีเรื่องที่พึงระวังได้หลายอย่างทีเดียว สำหรับคนที่คิดจะไม่มีแฟนเลยก็มีข้อควรพิจารณาจากบทความทางการแพทย์นั้นพบว่าคนโสดนั้นไปพบหมอจิตแพทย์มากกว่าคนแต่งงานถึงสามเท่า ซึ่งในนั้นพบว่าเป็นโรคซึมเศร้า ว้าเหว่ เหงา และส่งผลให้เป็นโรคอื่นตามมา แม้ว่าคนโสดหลายคนรวมทั้งคนที่อยากเป็นโสดไม่อยากมีลูกกวนตัวไม่มีผัว เมีย กวนใจ อันนั้นก็พูดกันเล่นๆ แต่ที่ผมเล่ามาข้างต้นก็พึงระวังว่ามีเพื่อนดีว่าไปหาหมอโรคจิต ซึ่งหายากบ้านเราแต่จะกลายเป็นหมอแอบอ้างคุณไสยเสียมากกว่าก็ถูกหลอกกันไปหลายรายแล้ว แม้แต่หมอเองก็ยังโดนหลอก พึ่งระวังมากๆ มาก....ๆ

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีแฟนที่กำลังจะมี กำลังแสวงหา กำลังติดพันธ์ สิ่งที่พึงระวังอันดับแรก เขามีเจ้าของเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วยัง มีเจ้าของแต่งงานแล้ว บางคนเพิ่งทราบทีหลังว่ามีลูกมีเมียแล้วก็สายเสียแล้วต้องจำยอม แต่ผู้หญิงสมัยนี้ก้าวหน้าคงไม่จำยอมง่ายๆ พร้อมเดินหน้าหาใหม่หรือ เชิดหน้าอย่างทรนง ประการต่อมาเมื่อแน่ใจในข้อแรกแล้ว ก็ต้องระวังนิสัยใจคอเข้ากับเราได้หรือเปล่า มีคำกล่าวว่าไม่ชอบอะไรมักจะได้อย่างนั้น ขออย่าให้เป็นจริงตามนั้น ไม่ชอบคนโกหก ก็จะได้คนหลอกลวง อยากได้คนใจเย็นก็ได้คนใจร้อนกับได้คนใจแคบ ก็สังเกตกันให้ดี แต่ที่สังเกตเห็นได้ง่ายๆ เช่นการสูบบุหรี่ดื่มเหล้า ผ่าฝืนกฏจราจรหรือไม่ คนฝ่าผืนมักเป็นคนใจร้อน คิดในใจว่าแค่อดทนแค่นี้ไม่ได้แล้ว อยู่กันทั้งชีวิตต่อไปจะทนอะไรเราได้บ้างหรือเปล่านี่ แต่สุดยอดก็คงจะเป็นคนใจดี ให้อภัย เสียสละทุกอย่าง ประเภทหลังสุดก็คงต้องระวัง เพราะแต่งงานไปแล้วไม่รู้ว่าจะอยู่นานเท่าไร จะหนีเราไปเข้าวัดเสียก่อนก็ไม่รู้ ในที่สุดก็คงต้องใช้ทางสายกลาง หาความพอดีของแต่ละคนเอาเองนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น