หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คนรวยมากทำให้คนจนมากอย่างไร

เคยได้ยินได้อ่านผ่านสายตาจากที่มหาตปะคานธี เคยกล่าวไว้ว่า โลกมีอาหารและทรัพยากรเพียงพอแก่ทุกคน แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว และคนกลุ่มใช้จังหวะโอกาสกอบโกยและสร้างสินทรัพย์ แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ขณะที่ผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก ยิ่งจนลง


ลองคิดง่ายๆ ประการหนึ่ง เช่นในประเทศไทยมีเงินอยู่ในระบบทั้งประเทศอยู่ 1 ล้านบาท มีอยู่มีเศรษฐีอยู่ไม่กี่คนมีเงิน 2แสนบาท ที่เหลืออีก 8 บาทเฉลี่ยกับคนที่เหลือ ทั้งคนชั้นกลางและคนจน แน่นอนว่าคนที่จนอยู่แล้วก็จะยิ่งจนลงไปอีก ถามว่าเงินที่คนรวยได้มาเอามาจากไหน ก็ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากประชาชนในประเทศที่ช่วยกันซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทของคนรวยและพวกพ้อง คนจน รากหญ้าที่ด้อยโอกาส เมื่อไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ถูกวิธี ก็จะยิ่งจนลงไปอีก

นักธุรกิจนายทุนที่ร่ำรวยมหาศาลนั้น กว่าจะมาถึงจุดที่ร่ำรวยมากได้นั้น ก็ต้องต่อสู้ฟันฝ่ามาทุกทาง ไม่ว่าจะใช้เทคนิควิธีเบียดบัง หรืออาศัยอำนาจรัฐ และบางครั้งไม่ได้คิดว่าจะไปทำลายคู่แข่งอย่างไร ที่ทำให้บริษัทอื่นต้องล้มไป ดังนั้นเราจะพบว่าภายหลังเจ้าของบริษัทที่มีความสำนึกว่าสิ่งที่เขาได้เงินมาแท้จริงก็มีส่วนไปขูดรีดผู้อื่นมาเป็นทอดๆ และผู้บริโภคสุดท้ายคือคนจนต้องจ่ายแพงขึ้นบ้างอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากซึ่งเป็นการซ้ำเติม ดังนั้นเราจะเห็นว่ามหาเศรษฐีระดับโลก บริจาคเงินส่วนใหญ่ที่มีให้กับสาธารณะ ทั่วโลกแทน ดังเช่นที่ปรากฏมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งและสอง อย่างบิลเกตประกาศให้เงินที่มีทั้งหมดเพื่อการกุศ่ลเหลือไว้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ และเช่นเดียวกันมหาเศรษฐีหุ้นเช่นบัปเฟต ก็บริจากทรัพย์สินส่วนใหญ่ให้มูลนิธิกองทุนเช่นกัน ซึ่งบุคคลทั้งสองรวยขึ้นมาได้โดยไม่เป็นนักการเมือง และไม่เคยบอกว่ารวยแล้วไม่โกง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น