หน้าเว็บ

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จะแก้ปัญหาผลของการศึกษาที่ถดถอยและล้มเหลวอย่างไร

ผลของการจัดการศึกษา มีส่วนต่อความเป็นไปต่างๆ ต่อสังคมเศรษฐกิจการเมืองว่าได้ผลดีหรือไม่ดี ล้มเหลวหรือไม่ ตัวชีวัดหนึ่งที่แสดงถึงผลของการจัดการศึกษาของประเทศไทย ที่ยืนยันได้ชัดเจนถึงความล้มเหลวก็คือ มีองค์กรระหว่างประเทศมาจัดอันดับประเทศที่ไม่ปลอดภัยและมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน โดยยิ่งอันดับมากยิ่งมีความไม่ปลอดภัยและมีความรุนแรงมาก จาก 140 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 118 จนทำให้ได้รับการประท้วงจากประเทศไทย ซึ่งจริงแล้วเราควรจะขอบใจผู้จัดอันดับ ที่ได้ชี้ให้เห็นจุดบกพร่องที่จะต้องรีบแก้ไขเป็นอันดับแรก เพราะเป็นผลประโยชน์ของประชาชน สิ่งที่ตามมาก็คือนักท่องเที่ยวจะลดลง การติดต่อค้าขายก็จะลดลง ความร่วมมือต่างๆก็อาจลดลง เพราะเขาอาจไม่กล้ามาประเทศเรา หรือหลีกเลี่ยงได้ก็จะหลีกอะไรทำนองนี้ รายได้ของประเทศก็อาจจะลดลง ผลก็ตกอยู่กับประชาชน


ถ้ามามาพิจารณาถึงสาเหตุรากฐานก็คงจะหนีไม่พ้นเกี่ยวกับการศึกษาของประเทศที่ล้มเหลวไปทั้งระบบแล้วก็ว่าได้ยิ่งปฏิรูปเราก็ยิ่งเห็นความตกต่ำลงในเกือบทุกด้านจนหาแทบไม่ได้ว่ามีด้านไหนที่ดีขึ้นมาได้บ้าง จริงแล้วรัฐบาลควรจะได้หันมาปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจังควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษาที่มุ่งเน้นคุณธรรมจริยธรรม มุ่งเน้นไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นให้มีความพอเพียง พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เน้นความเรียบง่าย ไม่เก่งแย่ง แย่งชิง แข่งขันกันมากเกินไป การศึกษาควรจะสร้างความสุขให้กับนักเรียน ทั้งขณะเรียนในโรงเรียน และนอกโรงเรียน

ข้อสังเกตอีกอย่างที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาบ้านเรา ที่กลายเป็นธุรกิจการศึกษามากขึ้นและครูในโรงเรียนก็มีส่วนสนับสนุน ที่จะให้นักเรียนไปเรียนพิเศษกับครูผู้สอนอีก เหมือนกับว่าสอนในชั้นเรียนไม่ได้ให้แม่ไม้ ให้เต็มที่ เต็มความสามารถ หรือให้ไม่หมดต้องกั๊กไว้ การไปเรียนพิเศษนั้นไม่ใช่เรียนฟรีแต่ต้องจ่ายเงินให้กับครูอีก ซึ่งก็ไม่แน่ว่านักเรียนทุกคนจะเต็มใจจริงๆ และเคยมีอยู่บ่อยๆ ที่ครูมักจะให้ความสนใจกับคนไม่เรียนพิเศษน้อยกว่า หรือให้เกรดน้อยกว่าคนที่ไปเรียนพิเศษกับครู ทั้งๆที่เป็นนักเรียนเรียนดีกว่า

และถ้าเป็นจริงตามผลงานวิจัยที่มีรายงานออกมาก็คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเป็นปฏิภาคกลับกับครูที่ได้รับผลงานทางวิชาการเช่นอาจารย์ 3 อันนี้หมายความว่ายิ่งครูได้ผลงานได้ค่าตำแหน่งผลการเรียนเด็กก็ยิ่งแย่ลง และยิ่งตอกย้ำจากการที่เคยถามครูที่อยู่ห่างตัวเมืองออกไปไม่มากนัก แม้แต่โรงเรียนที่ตัวเองสอนอยู่ก็ยังไม่กล้าให้ลูกเรียนต้องส่งไปโรงเรียนอื่นที่มั่นใจกว่า และยิ่งโรงเรียนประถมแล้วยิ่งพบว่า รร.ประถมรัฐบาลจัดการศึกษาได้ตกต่ำที่สุด แย่กว่าโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนของท้องถิ่นเช่นเทศบาล ซึ่งจัดการศึกษาได้ดีที่สุดแล้ว ซึ่งต่อไปน่าจะถ่ายโอนมาให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นให้หมด น่าจะจัดได้ดีกว่าเพราะชุมชนต้องช่วยกันดูแลด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น