หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ควันหลงวันสงกรานต์

สงกรานต์ปีนี้ดังที่ทราบกันดีว่ามีวิกฤติการเมือง ที่ชุมนุมกันไม่เลิกรา ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวถึงกับออกมาประกาศว่าอาจจะทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ถึงแสนล้านทีเดียว เพราะยิ่งรัฐบาลมีความพยายามที่จะให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างไร ก็ยังทำไม่สำเร็จ และรัฐบาลก็ยังคงใช้ความพยายามต่อไป ไม่ว่ามูลเหตุที่ก่อให้เกิดวิกฤติการณ์เช่นนี้ จะเริ่มมาจากใครมากน้อยเท่าใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก้จะเกิดกับคนทุกกลุ่มไม่ว่าอยากดีมีจน สำหรับคนที่พอจะมีเงินอยู่บ้าง ขาดทุนกำไรไปบ้าง หรือเสมอตัวก็ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร สำหรับคนจนอาจได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะลำพังไม่เกิดวิกฤติก็มีรายได้ไม่ค่อยพอใช้อยู่แล้ว เป็นหนี้เป็นสินอยู่ก็มาก ยิ่งการประท้วงที่ว่าอาจทำให้ขาดรายได้ไปถึงแสนล้าน แล้วแน่นอนว่ารายได้ของคนจนก็ต้องลดน้อยไปเป็นธรรมดา


สำหรับคนไม่เห็นด้วยกับผู้ชุมนุม เมื่อได้ยินว่าพวกผู้ชุมนุมจะไปปิดศาลากลาง หรือจะเผาศาลากลางในจังหวัดของตัวเอง กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยบางคนแทนที่จะห้ามปรามกับยุให้ไปปิดไปเผาก็ดี เผาบ้านเผาเมืองตัวเอง (ก็จะได้เดือดร้อนลำบากกันเอง) เพราะยิ่งมีเหตุการณ์วุ่นวายในจังหวัดใดมากคนก็จะไม่ไปเที่ยว มีการยกเลิกเที่ยวบัน รถทัวร์จำนวนมาก ส่งกรานต์ปีนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะและชายทะเล ทางใต้ ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจำนวนมาก ภูเก็ต กระบี่ทำให้การจราจรติดขัดเป็นกระบวนยาวทีเดียว (เป็นสาเหตุหนึ่งหรือเปล่าที่นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงสถานที่ที่วุ่นวายมีความขัดแย้งทางการเมืองไปพักผ่อนจังหวัดที่ไกลจากปัญหาการเมือง (คิดได้ว่าพวกที่ยุให้เผาศาลากลางในต่างจังหวัด จะทำให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงมาเที่ยวในที่ที่สงบกว่า) นอกจากนี้มีผู้จัดการบริษัททัวร์แห่งหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีผู้ซื้อทัวร์เป็นกลุ่มจากทางใต้ไปเที่ยวจังหวัดในภาคเหนือ ยกเลิกการจองไปท่องเที่ยวเกือบหมด ทั้งนี้เพราะแขกรู้สึกไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์การประท้วง

สอดคล้องกับที่นักท่องเที่ยวทางใต้ก็ยังคงมีจำนวนมาก เส้นทางเข้าจังหวัดภูเก็ตและแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดกะบี่ จราจรหนาแน่นบางครั้งก็ทำให้รถติดเป็นทางยาว ประกอบกับปีนี้ราคายางพาราและปาล์มได้ราคาดี ทำให้เศรษฐกิจทางใต้ค่อนข้างดี ปีนี้จึงไม่ค่อยได้ยินข่าวอาชญากรรมมากนัก สำหรับการชุมนุมก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่แล้วแย่ลงอีก นอกจากว่าผู้ชุมนุมได้กำลังใจเสริมพิเศษโดยวิธีใดก็แล้วแต่ ซึ่งถ้าเป็นวเช่นนั้นจริงก็จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ชุมนุมที่ว่างงานไม่มีรายได้ หรือมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำให้อยู่ร่วมชุมนุมต่อไป ส่งผลให้การชุมนุมยืดเยื้อ ตราบเท่าที่ยังได้รับแรงสนับสนุนกำหลังใจเสริมพิเศษและก่อให้เกิดรายได้ อย่างไรก็ตามจะเป็นการบั่นทอนความก้าวหน้า และทำให้ประเทศทดถอยยากจนลงในภาพรวมแน่นอน เออ.. แล้วจะช่วยกันอย่างไรดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น