หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อะไรเป็นรากเหง้าของปัญหาความขัดแย้ง

ปรากฏการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นความขัดแย้งที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกินมีขึ้นมา สังสมกันมาโดยเลยข้ามความดีงามทางคุณธรรม มีแต่การมองไปที่ความชอบธรรมที่สามารถสาวได้สาวเอา และเลยเถิดไปสู่การกล้าที่จะทำผิดกฏหมายอย่างไม่เกรงกลัว สรุปลงมาได้สองคำก็คือความเห็นแก่ตัวและการละโมบโลภมาก ประชาธิปไตยเป็นเพียงข้ออ้าง เพราะคนที่มีใจเป็นประชาธิปไตยคงไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส รวมทั้งก่อให้เกิดความรุนแรงก่อให้เกิดการสูญเสียแก่ชึวิตและร่างกาย ดังที่หลายคนเคยคิดว่าประเทศไทยมีมิตรไมตรีกับทุกคนก็คงจะต้องคิดใหม่ เพราะเขาอาจคิดได้ว่า แม้แต่คนในชาติเดียวกันก็ยังไม่รักกันเลยยังรบราฆ่าฟันกัน ไม่ฟังกัน ไม่มีเหตุผลต่อกันแล้วจะให้บอกว่ารักคนอื่นด้วยจริงใจก็คงต้องหยุดคิด


ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ถึงขั้นต้องยกพวกกันมาข่มขู่ปิดล้อม ก็คือการใช้กฏหมู่อยู่เหนือกฏหมายดีๆ นี่เอง ก็บอกได้อย่างเดียวว่าการทำเช่นนั้นเป็นการกระทำที่มีคุณธรรมจริยธรรมหรือมีธรรมะอยู่ในหัวใจก็คงไม่ได้ เพราะการกระทำรุ่นแรงหรือที่ไปเบียดเบียนผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้น แม้แต่คนกระทำเองถ้ากลับมาถามตัวเองว่าได้ทำในสิ่งที่เป็นความดี มีคุณธรรมหรือไม่ก็จะคิดได้ว่าไม่ใช่ แต่เหมือนมีอะไรมาบดบัง (โลภะ โทษะ โมหะ) จะพูดว่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัวก็ไม่ผิด ถามต่อว่าอะไรที่เป็นเหตุให้เห็นเช่นนั้น สังคมเราอบรมสังสอนให้เป็นเช่นนั้นหรือเปล่า ว่าถ้าเป็นพรรคพวกกันแล้วต้องช่วยกันก่อนผิดถูกไม่ต้องพูดถึง ใครช่วยเหลืออะไรมาก็ต้องตอบแทนโดยไม่คำนึงถึงว่าความถูกผิด การรู้คุณคน ตอบแทนบุญคุณเป็นคนกตัญญู แต่กตัญญูรู้คนที่ถูกต้องก็ต้องทำสิ่งดีงามไม่ใช่หลงผิด

ตวามจริงศาสนาทุกศาสนาสอนเราไม่ให้ใช้ความรุนแรงให้มีเมตาธรรม ไม่ให้แก้แคนดังที่ว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เพื่อให้เกิดความสงบสุขอันเป็นเป้าหมายสูงสุด แสดงว่าคำสอนทางศาสนาต่างๆ ไม่ได้ซึมซับเข้าไปอยู่ในใจคน เลยกล้าที่จะทำผิดฝ่าฝืนกฏหมาย กล้าทำทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ดี ไม่ถูกต้อง ดังสุภาษิตของสเปนเคยกล่าวไว้ว่า ถ้ารู้ว่าอะไรไม่ดีแล้วยังทำนั้นคือคนขึ้ขลาด ขลาดเขลา ในทางกลับกันก็คือถ้ารู้ว่าดีแล้วทำจึงจะเป็นผู้กล้าหาญที่จะเป็นวีรบุรุสต่อไป

การที่คนเราไม่สำนึกที่จะทำความดี เพราะยังไม่มีความกล้าหาญพอ แต่กล้าที่จะแสดงความขลาดเขลาโดยการทำชั่วได้นั้น รากฐานคงหนีไม่พ้นการศึกษาว่าเราได้ตระหนักสอนให้กล้าที่จะทำความดีหรือไม่ สอนให้เป็นคนซื่อสัตย์ สอนให้รู้จักเกรงใจไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือไม่ไปกระทบสิทธิ์ผู้อื่นอย่างจริงจังหรือไม่ สอนให้เป็นคนมีระเบียบวินัยหรือไม่ ในหลายประเทศจะสอนสอนกันในโรงเรียน ในรายวิชาหน้าที่ผลเมืองในทุกระดับชั้น และโครงสร้างของหลักสูตรมีการกำหนดเป้าหมายที่บ่งชี้ถึงการมึคุณธรรม โดยมีการสอน เรืองที่จะบ่งชี้ไปยังคุณธรรม เช่นพบว่าคนที่คิดได้อย่างมีเหตุผลก็จะเป็นคนที่มีคุณธรรมไปด้วย หรือเด็กที่ฝึกให้คิดเป็นตัวของตัวเองก็จะเป็นคนที่เคารพสิทธิของผู้อื่นด้วยเป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น