หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ขันธ์ 5 กับคอมพิวเตอร์

ไม่น่าเชื่อว่าหลักการในเรื่องขัน5 เมื่อ 2500 ปีมาแล้วจะมาสอดคล้องกับหลักการทำงานบางประการของคอมพิวเตอร์ตรงที่ว่า ความพยายามของคนที่จะสร้างเครืองจักรให้คิดได้เหมือนกับคน ซึ่งปัจจุบันเราสามารถสร้างหุ่นยนต์ให้ทำงานเลียนแบบคน โดยให้หุ่นยนต์มีคอมพิวเตอร์อยู่ในตัว สังให้ทำงานหรือทำงานบางอย่างตามเงื่อนไขได้เองโดยไม่ต้องสั่ง ที่ทำได้เช่นนั้นก็เพราะเราได้ไส่ตัวตรวจจับที่เรียกว่าเซนเซอร์ให้หุ่นยนต์ ให้ได้รับความรู้สึกได้ตอบสนองบางอย่างได้เช่นเดียวกับคนในขันธ์5 ก็คือเวทนานั่นเอง การที่หุ่นยนต์จะรับรู้อะไรนำไปทำอะไรต่อได้ก็ต้องมีหน่วยความจำเก็บข้อมูลที่รับความรู้สึกมา ซึ่งในขันธ์5ก็คือมีสัญญา การประมวลผลข้อมูลในหุ่นยนต์ก็โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ในการประมวลผล เพื่อตีความให้ผลออกมาในการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของหุ่นยนต์ อ้ันแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์ต้องคิดได้ในระดับหนึ่งนั่นก็คือ มีสังขารขันธ์ด้วย


จะเห็นความคอมพิวเตอร์มีตั้งแต่ตัวรับความรู้สึกอันเป็นอินพุต มีความจำที่จะเก็บข้อมูลอินพุทและมีหน่วยมันสมองที่จะประมวลผล แล้วส่งผลให้เกิดการประทำหรือมีการตัดสินใจกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตอบสนองต่อข้อมูลที่รับรู้มาซึ่งอาการเหล่านี้ก็คือการคิดนั่นเอง แต่การคิดเหล่านั้นปัจจุบันวิศวกรผู้สร้างต้องช่วยคิดให้มากก่อนจะให้คิดเองอย่างมีวิจารณญาณ รู้ดี รู้ชั่วคงยังไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้สร้างให้หุ่นยนต์คิดดีคิดชั่ว แต่สิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์ยังทำไม่ดีเท่าคนก็คือ เมื่อมีเวทนารู้สึกได้แล้วจะให้มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนกันทุกคนคงทำได้ยากมาก แต่ละคนมีความแตกต่างกันอ่อนไหวแตกต่างกัน ความเป็นมนุษย์ยังมีหลักอีกว่ารู้สึกในทางดีทางร้าย กุศลหรืออกุศลก็ขึ้นอยู่กับกิเลสตันหาของแต่ละคนอีก ซึ่งนำไปสู่การเกิดทุกข์ไม่เท่ากันแล้วแต่กรรมของแต่ละคนอีก

ซึ่งในทางพุทธศาสนาเวทนาความรู้สึกที่ก่ออารมณ์ไม่ดีทั้งนั้น สุขเวทนาก็อาจจะทำให้เกิดความโลภอยากมีให้มาก ทุกขเวทนาทำให้ไม่สบายเนื้อไมสบายตัวเป็นทุกข์ก้อาจทำให้อารมณ์เสียเกิดโทสะได้ง่าย และที่เป็นเวทนากลางๆไม่สุขไม่ทุกข์ก็อาจทำให้หลงเกิดความโง่หรือโมหะได้อีก จะพ้นทุกข์ได้จริงก็ต้องอยู่เหนือความรู้สึกควบคุมให้มีสติละลึกได้อยู่เสมอดังคำที่ว่า สติมาปัญญาเกิดนั่นแหละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น