หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีสุขภัณฑ์กับการอนุรักษ์

เมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้วสำหรับคนที่เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุนนั้นจะพบว่ามีเครื่องสุขภัณฑ์ที่ออกแบบสำหรับเมืองหนาว ที่เมื่อนั่งปลดทุกข์นั้น สามารถปรับอุณหภูมิแม้กระทั่งที่รองก้น และมีที่ฉีดน้ำอัตโนมัติที่ปรับให้ตรงจุดได้ มีสารเคมีฆ่าเชื้อใส่ในถังน้ำชักโครกอีกชึ้นหนึ่ง และตามห้องน้ำสาธารณะทั่วไปถ้าไปในเมืองใหญ่ก็จะดูแบบเก่าๆ ยังต้องกดน้ำชำระเองยังไม่มีเซนเซอร์ที่จะปล่อยน้ำทำความสะอาดเอง แต่สำหรับเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไปกลับพบว่ามีเครื่องสุขภัณฑ์ที่ทันสมัยหว่า มีเซนเซอร์ปล่อยน้ำอัตโนมัติ เมื่อปัสสาวะเสร็จ พร้อมปล่อยยาฆ่าเชื้อและดับกลิ่นออกมา การออกแบบเครื่องสุขภัณฑ์ในช่วงหลังเน้นไปในทางให้มีการอนุรักษ์พลังงานและน้ำมากขึ้น เช่นออกแบบให้ลดการใช้น้ำในการชักโครกลงเป็นต้น


สำหรับประเทศไทยถ้าจะดูเครื่องสุขภัณฑ์ที่ทันสมัย มีการดูแลทำความสะอาดดีก็ต้องไปดูที่ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ทั้งหลายมักจะดูแลเป็นอย่างดีเพื่อเอาใจลูกค้าให้มาจับจ่ายที่ห้างอีก พบว่า ถ้าเป็นโถปัสสาวะรุ่นใหม่ๆ ก็มักเป็นแบบอัตโนมัติ แต่กํยังมีหลงเหลืออยู่บ้างที่ต้องใช้มือกดเอา แต่มียาฆ่าเชื้อดับกลิ่นให้ ถ้าห้างใดห้องน้ำไม่สะอาดมีกลิ่นคนคงจะไม่มาจับจ่ายซื้อของกันอีกทำให้ขายสินค้าได้น้อย ดังนั้นการประหยัดน้ำก็เป็นเพียงการตั้งเซนเซอร์อัตโนมัติที่ตั้งอัตราการใช้น้ำได้เท่านั้น ซึ่งดีกว่าให้กฏชำละล้างกันเองเท่านั้น

ที่น่าสนใจที่ผู้เขียนไปพบครั้งแรกในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ที่ห้าง หรือที่โรงแรมหรู แต่อยู่ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ที่มีโถปัสสาวะรุ่นใหม่ที่รณรงค์เรื่องการประหยัดน้ำ และเขียนไว้ว่าเป็นโถปัสสาวะรุ่นใหม่ที่ไม่ใช้น้ำ จะไม่มีที่กดน้ำและเซนเซอร์ควบคุมให้เห็น ยังไม่ทราบว่าใช้เทคโนโลยีใดในการทำความสะอาดกำจัดกลิ่น ก็ได้แต่เดาว่าผิวของโถคงต้องเป็นชนิดพิเศษที่ของเหลวไม่จับเลยก็เป็นได้ อาจจะเคลือบด้วยสารนาโนก็ได้ และเขียนบอกไว้ด้วยว่าปีหนึ่งจะประหยัดน้ำได้มากกว่าแสนลิตรทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น