หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลำลึกเหตุการณ์บางตอนในวันที่ 14 ตค. 16

จำได้ว่าเป็นช่วงที่ปิดภาคเรียนพอดี ได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่มีการปะทะกันที่บริเวณอนุสาวรีประชาธิปไตย บริเวณถนนราชดำเนิน สนามหลวงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ตอนเช้าวันที่ 14 เมื่อเดินทางมาใกล้กับถนนราชดำเนินก็ให้รู้สึกแสบตาเพราะแกสน้ำตา ซึ่งในขณะนั้นได้มีการปะทะกันแล้ว มีการเผาสถานที่สำคัญคือกรมประชาสัมพันธ์ และกองฉลาก ประชาชนจับกลุ่มกันเป็นหย่อมในถนนราชดำเนินและกำลังฮือกันไปทำอะไรสักอย่าง บางกลุมก็ข้ามเลยมาทางสนามหลวง ในขณะเดียวกันก็มีการยิงปืนกลรัวเป็นชุดคงไม่ได้ตั้งใจให้โดนคน เพราะดูแนววิถีกระสุนส่วนใหญ่อยู่ที่ยอดต้นมะขาม คนยิงคงสุ่มอยู่ที่ยอดตึกใดตึกหนึ่ง บนท้องฟ้าก็มีค็อปเตอร์บินวนอยู่

บางกลุมที่สนามหลวงแบกหีมศพใส่คนตายแห่แหนไปทั่วหวังให้คนเข้ามาเป็นแนวร่วมเพื่อทำอะไรสักอย่างมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แห่เข้าไปหน้ากระทรวงกะลาโหมที่มีทหารรักษาการอยู่จำนวนหนึ่ง ก็โดยยิงแกสน้ำตาไล่ออกมาเหมือนกับผึ้งแตกรัง สลับกับการยิ่งปืนลงมาเป็นชุดๆ แล้วบางส่วนก็หนีไปที่หน้าธรรมศาสตร์และหน้าวัดมหาธาตุ บางคนกระโดดขึ้นกำแพงข้ามไปหลบอยู่หลังกำแพงได้อย่างน่าอัศจรรย์ พระบางรูปที่ไปเป็นไทยมุงก็วิ่งหนีกันเห็นจีวรปลิวก็มี

เมื่อเข้ามาดูในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถ้าว่าไปก็เป็นเหมือนแหล่งพักพิงของนักศึกษาที่ไปปะทะมา มาพักผ่อนมาเตรียมการ มีอาวุธง่ายๆ ที่พอติดไม้ติดมือเป็นเศษไม้เศษเหล็กที่ไม่ธรรมดาก็คือระเบิดขวดที่ทำขึ้นเอง โดยเอาน้ำมันใส่ในขวดแล้วใช้เศษผ้าชุบน้ำมันสอดเข้าไปตั้งเรียงรายอยู่บริเวณโรงอาหารของธรรมศาสตร์ เตรียมนำไปก่อการต่อไป ในช่วงนั้นจะเห็นมีคนหามคนเจ็บเข้ามาในธรรมศาสตร์เป็นระยะและส่งต่อข้ามฝากไปยังรพ.ศิริราช

สิ่งที่แตกต่างไปจากการปะทะกันเมื่อวันที่ 7 ตค.ที่เพิ่งผ่านมานั้น ตรงที่ผู้ชุมนุมไม่ได้เตียมอาวุธที่จะไปปะทะกับตำรวจ และน่าจะเป็นผู้โดนกระทำแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ไปแก้แค้นตอบโต้ เพราะมองเห็นถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นมากกว่านี้อีก และยังมีผู้นำที่ยังนำไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ ยกเว้นการป้องกันตนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น