เมื่อย่างเข้าปีสุดท้ายของการศึกษาในมหาวิทยาลัย นอกจากนักศึกษาจะต้องขมักเขม้นในการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาวิชาเอกของตัวเองนั้นจะมี รายวิชาที่นักศึกษาทุกคนจะต้องออกฝึกงาน เพื่อจะได้นำความรู้ทางวิชาการไปใช้ในทางปฏิบัติจริง นอกจากจะมีการฝึกงานแล้วก็ยังมีรายวิชาที่เรียกว่าปัญหาพิเศษในรูปของโครงงานพิเศษ หรือโครงงานวิจัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่นักศึกษาต้องตระหนักเหมือนกัน เพราะในโครงงานดังกล่าวนั้นมักจะเป็นโครงงานที่นักศึกษาเลือกสิ่งที่ตัวเอง ถนัดมาทำ และเป็นเสมือนการปูทางเข้าสู้อาชีพด้วย เป็นเรื่องที่นักศึกษาต้องเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ที่มักจะให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย ซึ่งทั้งการฝึกงานและการทำโครงงานพิเศษเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้นักศึกษาได้มีงานทำหลังจบการศึกษา นักศึกษาหลายคนหลังจากฝึกงานเสร็จก็มีนายจ้างขอจองตัวไว้ว่าเมื่อจบการศึกษาแล้วก็จะรับเข้าทำงาน คนที่ทำโครงงานไว้ถ้าเป็นโครงงานที่ตรงกับกิจกรรมงานของหน่วยงานบริษัทใดเมื่อสัมภาษณ์ก็มักจะได้รับคัดเลือกเข้าทำงาน เหมือนกับว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์มาแล้ว และสำหรับผู้ที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาที่สูงขึ้น ที่จะนำโครงงานพิเศษไปต่อยอดเป็นงานวิจัยได้ง่ายขึ้น และทำให้จบการศึกษาได้เร็วขึ้นเมื่อเข้าศึกษาต่อได้
มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้มีนโยบายที่จะช่วยเหลือนักศึกษาก่อนที่จะจบการศึกษาในรูปแบบต่างๆ เช่นการจัดอบรมพิเศษเสริมบุคลิกภาพให้ จัดอบรมเสริมพิเศษเฉพาะสาขาเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพโดยเชิญวิทยากรเก่งๆ มาพูดให้ฟังรวมทั้งสิ่งที่จำเป็นที่เป็นเครื่องมือทำงานในโลกยุคปัจจุบันอันได้แก่ ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ก็เปิดโอกาศให้ได้ทดสอบความรู้ แลเปิดการอบรมให้ นอกจากนี้แล้วยังมีรายวิชาที่เรียกว่าเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ซึ่งเตรียมนักศึกษาเพื่อเข้าสู่วิชาชีพในสาขาของตัวเอง รวมทั้งการเตรียมตัวด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานโดยทั่วไป
อันเนื่องจากความแตกต่างของแตกละบุคคล ที่ขึ้นอยู่กับท้องถิ่น ครอบครัวสิ่งแวดล้อมที่มีความแตกต่างกัน ที่หล่อหลอมให้ทุกคนมีความแตกต่างหลากหลายมีหลักคิด หลักในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ก็อยากให้ทุกคนมองในแง่ดีว่าให้ทุกคนอยู่ท่ามกลางความหลากหลายของความแตกต่างกันได้อย่างมีความสุข ให้ถือเสียว่าคนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และธรรมชาติที่มีความหลากหลายย่อมอุดมสมบูรณ์และเจริญงอกงาม ทำอย่างไรที่จะนำความแตกต่างมาเสริมมาเกื้อหนุนกันให้ได้ เพราะในโลกนี้ถ้ามีใครคิดอะไรเหมือนกันทุกอย่าง ถ้าเหมือนกันก็คงจะแห้งแล้งน่าดู
อย่างไรก็ตามเท่าที่มีการสำรวจกันมานั้นพบว่า สำหรับคนที่มีการวางแผนชีวิตไว้จะประสบผลสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่ได้คิดวางแผนใดๆ ไว้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนต้องมีความฝันว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ให้ประสบผลสำเร็จต่อตัวเองและผู้อื่น น่าจะมีการตั้งเป้าหมายของแต่ละคนไว้ว่าจะให้ไปถึงไหน แล้วดำเนินการเพื่อเข้าสู่จุดนั้นตั้งแต่วันนี้ โดยความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ละความพยายาม ย่อมประสบผลสำเร็จดังที่หวังแน่นอน ขอแต่ว่าการดำเนินเพื่อเข้าสู่จุดหมายนั้นต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นรวมทึ้งไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมต้องเสียหาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น