โดยทั่วไปเวลากรอกแบบฟอร์มที่มักจะให้เติมหรือเช็คว่าเป็นเพศใดนั้น จะมีเพียงสองเพศคือชายและหญิง หรือใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาย นางหรือนางสาว เด็กหญิงหรือเด็กชาย สำหรับผู้ที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศไป จะว่าเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิง บางคนก็แสดงอาการว่ามีทั้งสองเพศอยู่ในตัว ปัจจุบันกลุ่มพวกนี้มีอยู่เกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ เพศที่สามที่มีอยู่แต่สังคมไม่ยอมรับได้แก่กะเทย คือเป็นคนที่โดยสภาพร่างกายแล้วมีทั้งสองเพศ แต่ละเพศอาจไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อจิตใจของตัวเองด้วย
สังคมเรายังไม่ได้กำหนดเพศให้เด่นชัดสำหรับผู้เบี่ยงเบนทางเพศ ในกรณีที่ร่างกายเป็นชายแต่จิตใจเป็นผู้หญิง ซึ่งมักจะเรียกว่าตุดหรือแต๋ว และมักจะลงเอยด้วยการแปลงเพศเป็นผู้หญิงและก็มีคู่รักเป็นผู้ชายและแสดงอาการกิริยาเหมือนผู้หญิง บางคนที่แปลงเพศนั้นผ่าตัดกระทั่งเส้นเสียงให้เสียงเหมือนผู้หญิง ส่วนผู้ที่มีร่างกายเป็นหญิงแต่จิตใจเป็นผู้ชายก็จะมีคู่รักเป็นผู้หญิง ผู้ที่มีกายภาพทางเพศเป็นผู้หญิงมักแสดงกริยาท่าทางแบบผู้ชาย
นอกจากนี้ยังมีประเภทที่รักชอบเพศเดียวกันที่เป็นในผู้ชายด้วยกันมักเรียกว่า โฮโมเซ็กช่วล (homosexsual) หรือเกย์ ซึ่งก็มีการแสดงบทบาทเป็นหญิงและชายเช่นเดียวกันดังที่เรียกว่าเกย์คิงหรือเกย์ควีน สำหรับผู้หญิงที่รักชอบเพศเดียวกันก็มักเรียกว่าเลสเบียน ก็มีการแสดงบทบาทที่เป็นหญิงชาย ที่มักเรียกผู้แสดงบทบาทชายว่าทอม และบทบาทหญิ่งว่า ดี๊
สำหรับพวกที่แสดงบทบาทได้เป็นทั้งหญิงและชาย สามารถรักชอบกับคนเพศเดียวกันและต่างเพศกันก็ได้ ในกลุ่มนี้จะเรียกว่าพวก ไบเซ็กช่วล (Bisexsual) เรียกสั้นๆ ว่าพวกไบ
พวกที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศชั่วคราว อาจเป็นเพราะถูกชักจูง หรือเผลอไปชั่วครั้งชั่วคราว แล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติไม่เบี่ยงเบนทางเพศ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เบี่ยงเบนทางเพศจากการเลี้ยงดูทำให้ท่าทางเบี่ยงเบนไปจากเพศที่เห็นบ้าง อาจเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรมผู้เลี้ยงดู ทำให้ร่างกายที่เป็นชายแต่มีส่วนของท่าทางและการพูดอาจคล้ายผู้หญิงมากบ้างน้อยบ้าง เช่นเดียวกับร่างที่เป็นหญิงแต่ท่าทางเป็นผู้ชายอยู่บ้างก็มี ในกลุมหลังนี้สามารถที่จะแก้ไขปรับพฤติกรรมได้บ้าง และสุดท้ายยังมีประเภทที่ดูไม่ออกเลยก็มีแต่มีพฤติกรรมบางอย่างเบี่ยงเบนและปกปิด ซึ่งเรามักจะได้ยินคำว่าอีแอบ ก็อยู่ในประเภทนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น