บางครั้งคนเราก็มักจะไม่พูดกันตรงๆ แต่มักจะพูดเปรียบเปรย บางครั้งแทนที่จะเข้าใจง่ายก็ต้องตีความก่อนจึงจะเข้าใจได้ หรือทำให้ตีความผิดก็มี และการพูดคุยในบางครั้งสำหรับคนมีอารมณ์ขัน ก็อาจใช้ภาษาง่ายๆ แต่หักมุมที่ทำให้เข้าใจได้และทำให้ทึ่งและประหลาดใจ
ขณะที่พูดคุยกันแบบเบาๆ เช่นพูดกันว่า สมชายเหรอ เพื่อนผมเอง (คนฟังอาจจะคิดว่า เอือม..ไม่ธรรมดาเป็นเพื่อนกับนายกรัฐมนตรี) และจะมีผู้ฟังจะสนใจฟังต่อ ด้วยอารมณ์ขันก็หักมุมว่า เขาเป็นเพื่อนผมจริงไม่ได้โกหก แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติ หรือเพื่อนร่วมโลก
อีกกรณีหนึ่งขณะนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันหลายคน ในรายการทีวีอาจจะมีดาราหรือผู้มีชื่อเสียง ในกลุ่มที่กำลังดูอยู่คนหนึ่ง พูดขึนมาว่า เออคนนี้ผมรู้จักดี สีหน้าท่าทางเหมือนกับว่ามีความสัมพันธ์กันทางใดทางหนึ่ง หรือมีความสนิทสนมกัน อาจจะมีเสียงออกมาว่า จริงหรือ อยากฟังรายละเอียดที่รู้จัก กลับได้รับคำตอบง่ายๆ ว่า ผมนั้นรู้จักเขาดี แต่เขานั้นไม่รู้จักผม
ในทำนองเดียวกันคุณอาจจะรู้หรือบอกได้ว่าใครเก่งที่สุดในรุ่นได้เกรดสูงสุด แต่คนอื่นๆอาจไม่สามารถบอกได้ว่าคนใดดีที่สุดที่ยินดียินร้ายห่วงใยตัวของคุณนอกจากตัวคุณเองที่รู้ดีที่สุด หรือการพูดในทำนองว่า คนที่ซื่อสัตย์ที่สุดคือคนที่ตัดสินใจช้าที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ตัดสินใจเร็วจะเป็นคนชอบโกหก แต่มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะโกหกมากกว่า และบางครั้งการใช้ภาษาพึงระวังเพราะสามารถที่จะกลับความหมายได้ในทางตรงกันข้าม เช่นการพูดว่าใครมาทำงานที่แผนกถือว่าขยัน คนที่ได้ยินก็อาจพูดว่าเขาไม่ได้ทำงานที่แผนกแสดงว่าขี้เกียจ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น