หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลางบอกเหตุที่ต้องใช้แนวเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับประเทศไทยนั้นดูเหมือนว่าเราจะพัฒนาเศรษฐกิจเสรีทุนนิยม ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มันเป็นเหมือนว่ายิ่งพัฒนาก็ยิ่งทำลายล้างตัวเองให้ตกต่ำ คือพัฒนาทางด้านวัตถุมากเกินไป แต่พัฒนาด้านจิตใจให้มีคุณธรรม จริยธรรมน้อยเกินไป เราจึงเห็นอันธพาลครองเมือง อันธพาลที่รับจ้างมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มทุน เราเห็นสื่อมวลชนที่รับเงินรับทองมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนายทุน เพื่อสร้างภาพในสิ่งที่ไม่ดีให้เห็นว่าดี การใช้เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องไปล้มล้างเศรษฐกิจทุนนิยมที่เป็นอยู่ แต่ให้หันกลับมาพิจารณาผลกระทบที่จะบังเกิดขึ้น การผลิตสินค้าทุกอย่างต้องใช้ทุนอยู่ดี ดังนั้นเศรษฐกิจพอเพียงนั้นน่าจะเสริมกับเศรษฐกิจทุนได้ในที่สุด ไม่ใช้เศรษฐกิจเสรีทุนนิยมสามมานดังในปัจจุบัน แต่เป็นเสรีทุนนิยมแบบมีคุณธรรมจริยธรรม


การใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนั้นนั้นไปทางด้านจริยธรรมคุณธรรม มากกว่า ประการแรกตั้งแต่ให้พอประมาณไม่ทำอะไรเกินตัว ที่ในสังคมทุนนิยมนั้นกระตุ้นการบริโภคให้มากเท่าที่มากได้เพื่อจะได้ย้ายเงินจากผู้ถูกหลอก ให้หลงให้เชื่อมาอยู่ในกระเป๋าของอีกคน ดังเช่นในตลาดหุ้น ในห้างสรรพสินค้าที่ลดแลกแจกแถม โดยบางที่สินค้านั้นก็ไม่มีความจำเป็น ประการที่สองคือความมีเหตุผล ที่ทำอะไรต้องมีเหตุผล ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ดีก็ว่าดี ไม่ใช่บิดเปือน จนกระทั่งทำได้แม้กระทั่งทำร้ายกันโดยไม่ต้องพูดคุยกัน เป็นเพียงว่าสนับสนุนกันคนละฝ่าย ประการต่อมาต้องมีภูมิคุ้มกันที่ต้องตระหนักทำอะไรในเชิงป้องกันให้มากไม่ใช่ว่าพอเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไข ยาพาราเคยมีราคาสูงสุดถึงกิโลละร้อยกว่าบาท แต่มาบัดนี้ยาพาราราคาตกต่ำเหลือกิโลละไม่ถึง 40 บาท ที่ไปออกรถมาก็ถึงกับถูกยึดหรือนำไปคืนเพราะรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ถ้าหากว่า เรามีระบบที่เป็นภูมิคุ้มกันแล้ว อาจจะหักเงินตอนที่ราคาดีไว้เป็นกองกลางเมื่อราคาตกต่ำก็อาจนำเงินส่วนนี้มาชดเชยตอนราคาที่ตกต่ำ

ทั้งนี้และทั้งนั้น การทำอะไรที่พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันแล้วนั้นยังต้องมีความรู้และศิลธรรมคุณธรรมเป็นตัวกำกับ เพื่อเน้นยำว่าทำอะไรต้องโปร่งใสตรวจสอบได้การใช้ความรู้ให้เหมาะสมกับสภาพ ก็จะได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผล และระมัดราวังในด้านคุณธรรม ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้อื่น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แม้จะมีเหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น