หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โลกร้อนกับโรคอุบัติใหม่

นักวิทยาศาสตร์ได้เคยพยากรณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าปัญหาโลกร้อนจะทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่ และการกลายพันธ์ของเชื้อโรคได้มากขึ้น หลักจากนั้นก็มีประจักษ์พยานการเกิดขึ้นของโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ที่ดื้อยาก็มีมากขึ้น ปกติแล้วในเมืองหนาวนั้นเชื้อโรคจะมีน้อยกว่าในเขตร้อนเพราะเชื้อโรคไม่สามารถที่จะฟักตัวและแพร่เชื้อในที่เย็นได้ ให้นึกถึงการที่เราใช้ตู้เย็นลดอุณภูมิทำให้ยืดอายุอาหารสดที่แช่ในตู้เย็นได้นานขึ้น และเมื่อแช่ในช่วงฟรีสซ์ด้วยแล้วก็สามารถคงความสดไว้ได้ หรือสภาพอาหารนั้นไม่เน่าเสีย เมื่อเกิดภาวะโลกร้อนขึ้นพื้นที่หลายแห่งที่ไม่เคยมีเชื้อโรค บางที่ไม่เคยมียุงเลย ก็กลับปรากกฏให้เห็น และทราบกันดีว่ายุงนั่นแหละเป็นตัวการในการนำเชื้อโรคมาแพร่ในคนได้หลายชนิดมาก


มีสัตว์ที่แพร่เชื้อโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งค้างคาวเป็นสัตว์ที่พบเชื้อไวรัสสายพันธ์ต่างๆ ในค้างคาวถึง 60 ชนิด และค้างคาวนั้นชอบไปกัดกินสัตว์ต่างๆ และแพร่เชื้อไปให้สัตว์อื่นได้ เหตุที่ทำให้ทราบกันเช่นทำให้เกิดโรคระบาดในหมูในหลายประเทศ และพบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงหมู่ตอนแรกก็หาสาเหตุไม่พบ ต่อมาจึงสันนิฐานว่าอาจเป็นผลจากการทีค้างคาวมากัดหมูแล้วติดต่อมายังคนอีกทอดหนึ่ง และอาจเป็นไปได้ที่ยุงก็อาจเป็นพาหะนำเชื้อโรค ที่กัดต่อยสัตว์ที่มีเชื้อโรคและมากัดคนและแพร่เชื้อสู่คนได้ จากเดิมที่เราคิดว่าไม่ติดจากสัตว์มาสู่คน ตอนหลักก็พบมากขึ้นเรื่อยว่าเชื่อโรคมีการดื้อยาและกลายพันธ์มาสู่คนได้ ปัญหาของน้ำท่วมขังจากการละลายของน้ำแข็งเป็นแหล่งเพราะพันธ์ยุง ทำให้บางท้องที่ที่ไม่เคยมีเชื้อโรคมาก่อนกลับพบมากขึ้นเป็นต้น

ปัญหาโลกร้อนมีผลต่อภูมิอากาศ มีผลต่อน้ำขึ้นน้ำลง การไหลวนของกระแสน้ำ สิ่งแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนไป ทำให้สัตว์ทุกชนิดต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เปลึ่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด หรือค่อยๆ ลดจำนวนลงจนสูญพันธ์ไปในที่สุด แม้ว่าอุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่มาก บางท้องที่ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงสูงสัตย์จำเป็นต้องปรับปรุงตัวเอง ไปในลักษณะอาจเรียกได้ว่าเป็นการกลายพันธ์ และอาจจะไปสิงสถิตย์อยู่ในสัตว์หรือพืชชนิดอื่น และเพื่อความอยู่รอดของมันก็จะต้องกระจายพันธ์ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังอาจมีผลมาจากสารพิษทั้งหลายที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมที่สัตว์จำเป็นต้องปรับตัว ซึ่งสารพิษหรือมลภาวะทั้งหลายนั้น เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโลกร้อนมากขึ้นต่อไป ด้วยเหตุนี้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงสภาพไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินไปแล้ว มนุษย์ก็จะสามารถมีเวลารับมือได้ทัน แม้ว่าจากสัจธรรมนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงการเปลียนแปลงตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นไปในสภาพที่สมดุล ที่มนุษย์ยังรับมือไหว แต่ถ้ามนุษย์เราไม่ตระหนัก ไม่เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างสมดุลแล้วละก็ อาจถึงคราวที่ถึงความเสื่อมของมนุษย์ที่จะล้มหายตายจากไปเช่นเดียวกับสัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้วนับไม่ถ้อนสปีชี ไม่เฉพาะมนุษย์ สัตว์อื่นๆ ก็ทะยอยกันสูญพันธ์ไป เช่นผลของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิทำให้น้ำขึ้นลงชายฝั่งทะเลเปลี่ยนแปลงไป เต่าทะเลไม่ค่อนออกลูก เพราะการกำหนดเภทอยู่ทีอุณหภูมิ ซึ่งจะออกเป็นเต่าตัวเมียเสียมากแทบไม่มีเพศผู้ ผลก็คือเต่าอาจจะสูญพันธ์ได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น